ใคร ๆ ก็ชอบดูคลิป Spotify เตรียมเพิ่มฟีเจอร์เล่นวิดีโอบน Audiobook ตอนนี้อยู่ในช่วงทดสอบแล้ว

การเติบโตของสื่อในรูปแบบคลิปวิดีโอนั้น เรียกได้ว่ากำลังมาแรงจนทำให้โซเชียลมีเดียต่าง ๆ หันมาหนุนคอนเทนต์ในรูปแบบนี้กันอย่างมากมายในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น TikTok ที่กำลังมาแรง และ Facebook ที่หันมาสนับสนุนคอนเทนต์แบบวิดีโอสั้นให้ขึ้นมาบน Feed มากยิ่งขึ้น แม้แต่ Spotify เองก็ไม่อยู่เฉยกับเทรนด์นี้เช่นเดียวกัน

จากรายงานโดยเว็บไซต์ Techcrunch ได้รายงานถึงการที่ทาง Spotify ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแอปพลิเคชันสตรีมมิงชื่อดัง ที่ในปัจจุบันกำลังทดสอบและเตรียมตัวที่จะเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ถึง 3 อย่าง ลงไปในส่วนของบริการหนังสือเสียง (Audiobook) ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะประกอบด้วย วิดีโอคลิป, หน้าเพจของเจ้าของหนังสือเสียง (Author Page) ที่เปิดโอกาสให้เจ้าของหนังสือสามารถเพิ่มข้อมูลต่าง ๆ เช่น ประวัติส่วนตัว ผลงานในอดีต และข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องลงไปได้ และฟีเจอร์สำหรับเพิ่มสื่อในรูปแบบ Visual เพื่อประกอบเสียงของตัวหนังสือเสียงภายใต้ชื่อว่า “Follow Along” โดยเจ้าของหนังสือเสียงอาจใส่ลูกเล่นต่าง ๆ ลงไปอย่างเช่น ลูกเล่นที่ให้ผู้ฟังสามารถพลิกหน้าหนังสือเพื่อฟังทีละส่วนได้ ให้ความรู้สึกเหมือนกับทั้งอ่านและฟังไปในเวลาเดียวกัน อันจะสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น

โดยในหมู่ฟีเจอร์ทั้งหลายที่ได้ถูกกล่าวมาข้างต้นนั้น ฟีเจอร์ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ ฟีเจอร์ที่เจ้าของหนังสือเสียงหรือผู้จัดจำหน่ายจะสามารถอัปโหลดวิดีโอสั้นความยาว 30 วินาที เพื่อเพิ่มอรรถรสให้กับผู้ใช้บริการหนังสือเสียงได้ โดยวิดีโอที่อัปโหลดขึ้นไปนั้นอาจจะเป็นบทสัมภาษณ์, เบื้องหลังการจัดทำหนังสือเสียง, หรือข้อความพิเศษจากเจ้าของหนังสือเสียงก็ได้

ภาพจาก : https://techcrunch.com/2024/11/21/spotify-tests-a-video-feature-for-audiobooks-as-it-ramps-up-video-expansion/

ซึ่งสาเหตุที่ทาง Spotify ได้เพิ่มเติมฟีเจอร์ดังกล่าวขึ้นมานั้นมาจากการที่ทาง Spotify นั้นได้เห็นถึงการเติบโตในการใช้งานฟีเจอร์ใหม่ทางทางแพลตฟอร์มได้เพิ่มเติมมาก่อนหน้านั้นแล้วอย่างเช่น ฟีเจอร์ในการรับชมมิวสิควิดีโอ และฟีเจอร์สำหรับพอดแคสต์ในรูปแบบวิดีโอ (Video Podcast) ทำให้ทาง Spotify นั้นได้มีแนวคิดที่จะขยายบริการในรูปแบบวิดีโอไปสู่สื่อต่าง ๆ ที่ทาง Spotify ได้ให้บริการอยู่มากยิ่งขึ้น

ฟีเจอร์ดังกล่าวที่ได้กล่าวมาข้างต้นนั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นทดสอบอยู่ซึ่งผู้ที่จะสามารถเข้าถึงได้นั้นจะต้องเป็นผู้ใช้งานที่จ่ายเงินเพื่อใช้ในระดับ Premium ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา, ออสเตรเลีย, แคนาดา, เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, ไอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, เนเธอร์แลนด์, และลักเซมเบิร์ก เท่านั้น สำหรับผู้ที่ใช้บริการในประเทศอื่นนอกจากนี้ขอให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป