แฟน Tesla เหวอ ! หน่วยงานรัฐ สหรัฐฯ พบระบบ Auto-pilot ของ Tesla พัวพันคดีรถชนกว่า 100 คดี

ในช่วงปีที่ผ่านมานั้นเหมือน Tesla อาจจะกำลังเข้าช่วงปีชง ทั้งในกรณีที่รถยนต์มีปัญหาต่าง ๆ มากมาย เช่น ในประเด็นที่ Cybertruck มีปัญหาคันเร่งจนต้องเรียกรถกลับคืน, ยอดขายที่ชะลอตัวเอง ไปจนถึงคู่แข่งจากจีนที่มีเข้ามามากมายจนทางมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ต้องออกมาเรียกร้องให้ทางรัฐตั้งกำแพงภาษีสกัดกั้นสงครามราคา ข่าวนี้อาจเป็นอีกหนึ่งข่าวร้ายของทั้งทาง Tesla และแฟนคลับของรถยี่ห้อนี้

โดยปัญหาดังกล่าวนั้นมาจากระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเอง หรือ Self-driving ของทาง Tesla ซึ่งเคยตกเป็นประเด็นถกเถียงด้านความปลอดภัย ซึ่งทางสำนักข่าว CNBC ได้รายงานว่า ทางองค์กรบริหารความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐอเมริกา (National Highway Traffic Safety Administration หรือ NHTSA) ได้ทำการสืบสวนคดีที่เกี่ยวข้องกับการใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยตัวเองของ Tesla มากกว่า 956 คดี จากผลการตรวจสอบพบว่า กว่า 467 คดีนั้น เกี่ยวข้องกับระบบ Auto-pilot ของ Tesla โดยตรง ซึ่ง 13 คดีนั้นอันตรายถึงชีวิต ส่วนคดีนอกจากนั้นจำนวนมากมีอันตรายระดับบาดเจ็บสาหัส

ภาพจาก https://www.cnbc.com/2024/04/08/tesla-settles-wrongful-death-lawsuit-over-fatal-2018-autopilot-crash.html

ซึ่งทาง NHTSA ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ว่า มาจากระบบการกระตุ้นผู้ขับขี่ของ Tesla เช่น การส่งเสียงเตือนผู้ขับขี่เวลาที่มือไม่จับพวงมาลัย เป็นต้น มีความบกพร่อง และระบบการขับขี่อัตโนมัตินั้นมักจะเปิดขึ้นมาเองในช่วงที่ผู้ขับขี่มีความระมัดระวังตัวน้อยมาก อันเป็นองค์ประกอบสำคัญที่นำไปสู่คดีการชนมากมาย

และทาง NHTSA ยังสังเกตอีกว่า การอัปเดตระบบขับขี่อัตโนมัติของ Tesla นั้นก็อาจจะยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพออีกเช่นกัน เนื่องมาจากทางองค์กรยังได้รับรายงานเกี่ยวกับคดีที่เกี่ยวข้องกับระบบขับขี่อัตโนมัติของรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ทาง Tesla จะประกาศว่าได้อัปเดตไปแล้ว

ล่าสุด ทาง Tesla ยังคงไม่แสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับรายงานดังกล่าวของทาง NHTSA