เมื่อหนุ่มดูไบอยากเป็น 'Iron Man'

ถึงแม้ว่าโทนี่ สตาร์ค จะทำลายชุดเกราะทั้งหมดแล้วใน Iron man 3 (มันก็ยังไปโผล่อีกในหนัง Avengers) แต่สิ่งนี้ก็ยังคงเป็นความฝันของใครหลายคนที่อยากจะสร้างชุดที่สามารถโบยบินไปบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ

ดั่งเช่น Vince Reffet ชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และบริษัทหนึ่งที่ได้พยายามสานต่อให้หนัง Iron man กลายเป็นจริงได้ด้วยการคิดค้นเจ็ทแพ็คที่ทำให้มนุษย์โบยบินได้อย่างอิสระเหมือนในภาพยนต์

วิดีโอตัวนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิดีโอการทดสอบอุปกรณ์ เจ็ทแพ็ค จากช่อง XDubai โดยมี Vince Reffet เป็นผู้สวมใส่ชุดเจ็ทแพ็คติดไอพ่น ที่เสริมความแข็งแกร่งด้วยคาร์บอน-ไฟเบอร์ ซึ่งกำลังปล่อยตัวขึ้นลอยเหนือพื้น 100 เมตรใน 8 วินาที จากนั้น 200 เมตร ใน 12 วินาที และ 500 เมตรใน 19 วินาที ตามด้วยความสูง 1000 เมตร ใน 30 วินาที และพุ่งด้วยความเร็ว 130 นอตขึ้นไปกลางอากาศสูง 6,000 ฟิต ซึ่งมีการติดกล้องวิดีโอที่ชุดทำให้มองเห็นทัศนียภาพความสวยงามของทางใต้หาดจูเมราห์ นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ขณะกำลังโบยบินอย่างอิสระบนท้องฟ้า 

แน่นอนว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Reffet ที่ได้บินขึ้นเหนือท้องฟ้าดูไบ เพราะวิดีโอการทดสอบแรกของเขา ถูกปล่อยออกมาเมื่อตอนเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2015 ซึ่งมี Reffet และผู้ช่วย Yves Rossy บินตีคู่กันบนท้องฟ้าในขณะที่มีเครื่องบินตามจับภาพของพวกเขา พร้อมกล้อง GoPro 2 ตัวที่ติดอยู่บนหมวกอุปกรณ์ โดยที่ทั้งสองคนโผบินไปบนท้องฟ้าด้วยความเร็ว 120 นอต ต่อชั่วโมง

แต่ความแตกต่างระหว่างเมื่อ 5 ปีที่แล้วกับวันนี้ คือเราได้เห็น เจ็ทแพ็ครุ่นอัปเกรดที่ Reffet สวมอยู่ และมันสามารถโบยบินเหนือท้องฟ้าได้อย่างมั่นคง ไม่ติดขัดและยังควบคุมอุปกรณ์ให้บินอยู่กับที่ หรือบินโฉบไปมา เปลี่ยนทิศทาง ได้อย่างมั่นคงปลอดภัย ซึ่งหากมองดูแล้วฉากนี้จะคล้ายๆ ในภาพยนต์เรื่อง Iron Man ภาคแรก ที่ โทนี่ สตาร์ค พยายามทดสอบการบินของชุดต้นแบบ Iron Man และแน่นอนว่าครั้งแรกมันก็สะดุดตลอดการบินขึ้นลง เพราะเขาเพิ่งจะเริ่มพยายามเรียนรู้กับมันเช่นกัน

อย่างไรก็ตามบริษัทนี้ไม่ใช่แห่งแรกที่สามารถสร้างชุดติดเจ็ทแพ็คได้สำเร็จ เพราะมีคนที่เคยทำสำเร็จแล้วครั้งแรกในปี 2018 คือ Richard Browning ซึ่งเขาได้สร้างชุดไอพ่นส่วนตัวที่เร็วที่สุดในโลกและโด่งดังอย่างมากในช่วงนั้น เช่นเดียวกับชาวสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นี้ ซึ่งมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น่าทึ่งของนวัตกรรมวิศวกรรมเครื่องกล และถ้าเราได้ลองใส่มันคงจะสนุกสุด ๆ ไปเลย