[SPOIL] เรื่องราวเชื้อสายของ Rey ใน Star Wars: The Rise of Skywalker

SPOIL ALERT !!!

ท่ามกลางหลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Star Wars: The Rise of Skywalker มีหนึ่งเหตุการณ์ที่หลากหลายคนต่างเฝ้ารอว่าจะถูกเปิดเผยออกมาในภาคนี้ไหม นั่นก็คือเรื่อง พ่อ-แม่ ของ Rey 

ซึ่งเรื่องราวนี้ก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาอย่างสุดช็อคว่าตัวของ Rey เป็นลูกหลานของ Emperor Palpatine หรือ Darth Sidious ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่ Kylo Ren ได้บอกเอาไว้ในภาคแรก แต่พ่อแม่ของเธอเลือกที่จะเป็นคนธรรมดา เพื่อไม่ให้ Rey รู้ว่าเป็นสายเลือดของจักรพรรดิแห่งด้านมืด นั่นจึงเป็นตัวอธิบายได้ว่าทำไมเธอถึงมีพลัง force เยอะขนาดนั้น และทำไมเธอถึงเรียนรู้เรื่องต่างๆ ได้รวดเร็วเหลือเกิน

ทางด้านผู้กำกับ J.J. Abrams และผู้ร่วมเขียนบทกับเขาอย่าง Chris Terrio ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Vanity Fair ถึงเรื่องราวที่จงใจเปลี่ยนแปลงตัวพ่อแม่ของ Rey ว่าเป็น "nobody" ใน The Last Jedi 

"หนึ่งในธีมของหนังคือทุกคนสามารถเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าคุณจะมาจากไหนก็ตาม ผมไม่รู้ว่าเรื่องนี้มันจะสะท้อนไปหาทุกๆ คนได้ไหม แต่ผมคิดว่าหลายๆ คนคงชอบความคิดที่ว่าตัวละครนี้มันไม่ได้มาจากสถานที่ที่ทุกคนภูมิใจหรืออยากให้มันเป็น 

ผมเข้าใจอย่างถ่องแท้เลยว่าการที่บอกว่าคุณเป็นคนธรรมดานะ มันเป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ สำหรับผมอยากให้มันเจ็บปวดกว่านั้น ซึ่งการที่จะทำให้มันช็อคมากกว่านั้น คือไอเดียที่คุณต้องมาจากสถานที่ที่เลวร้ายมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไอเดียนี้จึงกลายมาเป็นทางเลือกที่จะส่งผลให้มีพลังมากกว่าทางสายเลือด และมันจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการถ่ายทอดมันออกมา"

หนังจะได้ไม่ได้อธิบายชัดเจนว่า Sidious ไปทำใครท้องหรือเอาเวลาที่ไหนไปทำลูก แม้กระทั่งการกลับมาของตัวเขาก็ยังไม่แน่ชัดซะทีเดียวว่ากลับมาอย่างไร ทางด้าน Terrio จึงได้อธิบายเพิ่มเติมไว้ว่า

"ทั้ง Skywalker และ Palpatine เป็นเรื่องราวโศกนาฏกรรม เหมือนกับเรื่องโศกนาฏกรรมระหว่างสองตระกูล ที่ลึกลงไปยัน DNA ของ Star Wars ดังนั้นเราได้รู้ว่า Palpatine กลับมาปรากฏตัวในหนังภาคนี้ด้วยวิธีการบางอย่าง มันกลับกลายเป็นว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นดั่งของขวัญที่ George Lucas เคยเขียนเอาไว้ 

มีฉากหนึ่งที่ไตรภาคย้อนต้นที่ Palpatine ได้พูดกับ Anakin Skywalker เอาไว้ว่า

'ด้านมืดของพลังได้ปลุกความสามารถมากมายที่ผิดธรรมชาติ'

กับประโยคนั้นทำให้ J.J. และผมคิดว่า มันคงจะบ้ามากถ้าเราไม่หยิบประเด็นนั้นมาเล่นในหนังภาคนี้"