แทบทุกอัปเดตของ Windows 11 โดยเฉพาะในเวอร์ชัน 24H2 มักจะมาพร้อมกับความโด่งดังในทางลบอย่างบั๊กที่มีจำนวนมาก หรือแก้บั๊กเดิมเพื่อเพิ่มบั๊กใหม่จนผู้ใช้งานหลายคนชาชิน และข่าวนี้ผู้ใช้งานหลายรายอาจจะมองว่า คาดไว้แล้ว
จากรายงานโดยเว็บไซต์ Cyber Security News ได้รายงานบั๊กซึ่งเกิดจากการติดตั้งอัปเดต KB5064081 บน Windows 11 24H2 โดยอัปเดตดังกล่าวนั้นเป็นอัปเดตทางเลือกที่ไม่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของระบบที่มีการเผยแพร่ให้ผู้ใช้งานได้ติดตั้งในวันที่ 29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ที่ติดตั้งอัปเดตดังกล่าวนั้นได้รายงานว่าพบปัญหาในการเล่นวิดีโอ (Playback) เมื่อเล่นจากสื่อที่มีระบบป้องกันเช่น DVD, Blu Ray, และซอฟต์แวร์ Digital TV บางตัว ซึ่งปัญหาที่พบนั้นมักจะเป็นการตรวจสิทธิ์ในการเล่นสื่อไม่ผ่าน (Copyright Error), ภาพสะดุด, ภาพค้าง, ไปจนถึงจอดำตอนเปิดสื่อเล่น
โดยปัญหาดังกล่าวนั้นเป็นบั๊กในส่วนของการทำงานร่วมกันระหว่างเฟรมเวิร์ก (Framework) สำหรับการประมวลและสร้างภาพวิดีโอที่มีชื่อว่า Enhanced Video Renderer (EVR) โดยบั๊กจะทำงานเมื่อแอปพลิเคชันที่ใช้งานเฟรมเวิร์กดังกล่าวมีการทำงานร่วมกันกับระบบป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ High-bandwidth Digital Content Protection (HDCP) สำหรับในภาควิดีโอ และ Digital Rights Management (DRM) สำหรับในภาคเสียง กระนั้นทางไมโครซอฟท์ซึ่งรับรู้ปัญหาดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ได้กล่าวว่า บั๊กดังกล่าวไม่มีผลต่อการรับชมวิดีโอสตรีมมิง จากแพลตฟอร์มสตรีมมิงชื่อดังต่าง ๆ แต่อย่างใด เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านั้นมีการใช้เทคโนโลยีป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ที่แตกต่างออกไปจากตัวที่เป็นประเด็น
ทางไมโครซอฟท์ได้ทำการยืนยันถึงการมีอยู่ของบั๊กดังกล่าวในช่วงวันที่ 19 กันยายน ที่ผ่านมาผ่านทาง Windows Health Dashboard โดยระบุว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นเฉพาะบน Windows 11 24H2 หลังการติดตั้งอัปเดตดังกล่าว โดยเฉพาะบนรุ่นย่อย OS Build 26100.5074 หรือรุ่นที่สูงกว่า ขณะที่ Windows รุ่นอื่นอย่าง Windows Server นั้นไม่พบปัญหาดังกล่าวแต่อย่างใด โดยทางไมโครซอฟท์ได้กล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทได้ทำการตรวจสอบปัญหานี้อย่างเข้มข้น และขอให้ผู้ใช้งานที่ประสบปัญหาจากอัปเดตดังกล่าว รอคอยอัปเดตถัดไปเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
|