นักวิจัยสรุป ChatGPT ให้คำปรึกษาชีวิตได้ดีกว่านักจิตวิทยาในหลากแง่มุม

ในหมู่บริการด้าน AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ นั้นที่โด่งดังที่สุดในยุคปัจจุบันคงจะหนีไม่พ้น ChatGPT จาก OpenAI ที่นอกจากจะสามารถใช้ในการทำงานได้หลากหลายแล้ว หลายรายยังนำมาใช้ในการปรึกษาปัญหาชีวิตอีกด้วย

จากรายงานโดยเว็บไซต์ News Medical Life Science ได้รายงานถึงการที่นักวิจัยกลุ่มหนึ่งได้ทำการวิจัยเพื่อเปรียบเทียบผลตอบรับในการปรึกษาปัญหาจากนักบำบัด (Therapist) ในด้านปัญหาของการใช้ชีวิตคู่ที่เป็นมนุษย์เทียบกับการปรึกษากับ ChatGPT-4 ว่าผู้ใช้งานจะเลือกแบบใดมากกว่ากัน โดยจะเป็นการให้ผู้เข้าร่วมวิจัยทำการขอคำปรึกษาผ่านหน้าจอ ให้คะแนนเรตติ้ง และให้ความเห็นว่า คำตอบไหนคือ ChatGPT และ อันไหนคือคนจริง โดยงานวิจัยนี้ปัจจุบันได้ถูกตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ PLOS Mental Health เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยนักบำบัดนั้น ก็ได้มีการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญที่มีวุฒิหลากหลาย เช่น จิตวิทยาการปรึกษา (Counseling Psychology), จิตวิทยาคลินิก (Clinical Psychology), และ จิตเวชศาสตร์ (Psychiatry) นอกจากนั้นแล้วยังได้มีการคัดเลือก นักจิตวิทยาด้านการแต่งงาน และครอบครัว อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดจะมีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษามากกว่า 5 ปี จนมีความสามารถเป็นที่ยอมรับในระดับผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งโดยมากล้วนแต่มีประสบการณ์ในการให้คำปรึกษาชีวิตคู่ และครอบครัวมาแล้ว โดยทางทีมวิจัยจะสุ่มจับคู่นักจิตวิทยา เพื่อให้คำปรึกษากับผู้เข้าร่วมวิจัยที่เป็นคู่รัก ซึ่งผู้เข้าร่วมงานวิจัยนั้น ล้วนแต่เป็นชาวอเมริกันทั้งสิ้น ซึ่งจำนวนผู้เข้าร่วมโครงการวิจัยในครั้งนี้ เบ็ดเสร็จแล้วจะมี นักบำบัดจำนวน 13 ราย และผู้เข้ารับการปรึกษาจำนวน 830 คน โดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 45 ปี

ผลตอบรับพบว่า ChatGPT สามารถทำงานได้ดีอย่างมาก เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมวิจัยเพียง 5% เท่านั้น ที่ทายถูกว่าคำตอบไหนคือนักบำบัดที่เป็นคนจริง ๆ ได้บ่อยกว่า ChatGPT ไม่เพียงเท่านั้น จากการรวบรวมคะแนนแล้วปรากฎว่าผู้เข้าร่วมวิจัยนั้นชื่นชอบคำตอบของ ChatGPT มากยิ่งกว่าคำปรึกษาที่ได้รับจากผู้บำบัดตัวจริง โดยผู้เข้าร่วมวิจัยให้ความเห็นว่า คำตอบของ ChatGPT นั้นสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตพวกเขาได้มากกว่า ทั้งยังมีความเห็นอกเห็นใจ และเข้ากันได้กับวัฒนธรรมพื้นฐานของผู้เข้าร่วมแต่ละราย ยิ่งกว่าการปรึกษากับนักบำบัดที่เป็นคน ที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือ คำตอบที่ผู้เข้าร่วมคิดว่าเป็น ChatGPT ตอบแต่แท้จริงผู้ตอบนั้นเป็นนักบำบัดที่เป็นคน กลับได้คะแนนที่ต่ำมาก

งานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า การปรึกษากับ AI นั้นเริ่มเป็นที่แยกแยะได้ยากแล้วว่า เป็นของ AI หรือ ของคนจริง นอกจากนั้นคำตอบจาก AI นั้นถูกใจผู้ใช้งานมากกว่าที่หลายคนได้คาดการณ์กันไว้ โดยทีมวิจัยนั้นได้ให้ความเห็นว่า ChatGPT นั้นมีความเหมาะสมที่จะนำมาใช้ร่วมในการทำจิตบำบัดให้กับผู้ป่วย และผู้มีปัญหาในชีวิตอย่างยิ่ง และผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาจำเป็นที่จะต้องศึกษาด้านการเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning) ในทางเทคนิคให้มากขึ้น เพื่อที่จะช่วยฝึกฝน AI ให้สามารถทำงานได้เที่ยงตรง และมีประสิทธิภาพที่มากกว่าเดิม