VESA เปิดตัว DisplayPort Alt Mode 2.0 รองรับภาพระดับ 16K ผ่านสาย USB4 และ USB-C

ในขณะที่อุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังเดินหน้าเตรียมตัวต้อนรับมาตรฐานใหม่อย่าง USB4 มันก็มีหลายภาคส่วนที่จะต้องเตรียมพร้อมเพื่อให้ทุกสิ่งดำเนินการต่อไปได้อย่างราบรื่น หนึ่งในนั้น คือ DisplayPort Alt Mode ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2014

DisplayPort Alt Mode คือ อะไร?

DisplayPort Alt Mode เป็นการ Remap (ต้องขออภัยที่เราหาคำนี้ในภาษาไทยไม่ได้จริงๆ) เลนรับส่งข้อมูลความเร็วสูงของ USB-C ให้กลายเป็นเลนสำหรับส่งสัญญาณภาพ DisplayPort ทำให้ตั้งแต่ที่ DisplayPort Alt Mode เปิดตัว มีอุปกรณ์มากมาย เช่น สมาร์ทโฟน และโน้ตบุ๊ค ที่สามารถส่งสัญญานภาพผ่าน USB-C ได้โดยไม่ต้องอาศัยพอร์ต HDMI อีกต่อไป

 

USB4 ความสามารถในการทำงานแบบ DisplayPort นั้นได้ถูกยกระดับไปอีกขั้นจนเทียบได้กับพอร์ต Thunderbolt 3 ดังนั้น เพื่อให้การทำงานของ DisplayPort Alt Mode ไล่ตามเทคโนโลยีที่ USB4 มีได้ทัน ทาง สมาคมมาตรฐานวิดีโออิเล็กทรอนิกส์ (Video Electronics Standards Association (VESA)) จึงได้ประกาศเปิดตัวเวอร์ชันใหม่ออกมาแล้วในชื่อ DisplayPort Alt Mode 2.0

DisplayPort 2.0 เปิดตัวตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2019 โดยมันรองรับการแสดงผลได้ที่ความละเอียดสูงสุด 16K, อัตรารีเฟรชเรทที่สูงขึ้น, รองรับ HDR ที่ความละเอียดสูงกว่าเก่า, ปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าจอ รวมไปถึงการทำงานร่วมกับ Augmented และ Virtual reality ด้วย ซึ่งการมาของ DisplayPort Alt Mode 2.0 หมายความว่า USB4 และ USB-C จะได้อานิสงส์สามารถใช้งานความสามารถเหล่านี้ได้ด้วยนั่นเอง

นอกจากนี้ DisplayPort 2.0 ยังสนับสนุนมาตรฐานสัญญาณ UHBR 10, 13.5 และ 20 ที่มีแบนด์วิชท์กว้างถึง 20Gbps ต่อ 1 เลน ซึ่งทำได้สูงสุด 4 เลน รวมเป็นแบนด์วิชท์ 80Gbps ซึ่ง DisplayPort Alt Mode 2.0 ก็จะทำให้ USB-C สามารถทำงานแบบนั้นได้ด้วยเช่นเดียวกัน

คาดการณ์ว่า อุปกรณ์ที่ใช้ USB4 จะเริ่มเข้าสู่ท้องตลาดในช่วงปลายปี 2020 ส่วน DisplayPort Alt Mode 2.0 ทาง VESA เผยว่าจะเริ่มปล่อยออกมาให้ใช้งานได้ในปี 2021 น่าทึ่งเหมือนกันนะครับ เมื่อนึกภาพว่าด้วยสาย USB-C เส้นเล็กๆ เพียงเส้นเดียว จะสามารถส่งสัญญาณภาพระดับ 16K ได้แล้ว

ตารางเปรียบเทียบ