Christian Bale ได้ออกมาเปิดเผยถึงเหตุผลว่าทำไมตัวเขาและผู้กำกับอย่าง Christopher Nolan ไม่ทำภาค 4 ของ Batman ออกมา
โดยไตรภาค Batman ฉบับ Nolan เริ่มจาก Batman Begins (2005) ที่ถือว่าเป็นการเปิดมาตรฐานและแนวทางในการทำหนังที่สร้างมาจากคอมิกส์ของ DC เลยก็ว่าได้ ซึ่งมันก็ประสบความสำเร็จมากๆ จนเกิดเป็นไตรภาคขึ้นมา กับ The Dark Knight (2008) และ The Dark Knight Rises (2012)
Nolan ได้บรรยายถึงไตรภาค Batman ทั้ง 3 เรื่องเอาไว้ว่า Batman Begins คือจุดเริ่มต้นการเดินทางของฮีโร่, The Dark Knight คือหนังอาชญากรรมที่ถือว่าดีที่สุดในไตรภาคเลยทีเดียว และ The Dark Knight Rises คือหนังสงคราม
และแน่นอนว่าด้วยความสำเร็จเหล่านั้นทำให้หลายๆ ฝ่ายเกิดคำถามว่าทำไมไม่ทำภาค 4 ขึ้นมาล่ะ?
"พวกเขาเข้ามาแล้วบอกว่า 'นายอยากเล่นอีกสักภาคไหมล่ะ?' มันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมไปเลย แต่เราบอกไปว่า 'นี่แหละ เราคงไม่มีโอกาสแบบนี้อีกแล้ว' หลังจากนั้นพวกเขาก็เข้ามาบอกว่า 'โอเค งั้นเรามาทำภาค 3 ก่อนละกัน'
Chris มักพูดกับผมอยู่เสมอว่า ถ้าเรามีโอกาสได้ทำภาค 3 เราจะหยุดอยู่แค่นั้น 'หลังจากเรื่องนั้น เราพอแล้วดีกว่า'
แต่แล้วก็เกิดคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อย่าง 'แล้วภาคที่ 4 ล่ะ?' ผมจึงตอบกลับไปว่า 'ไม่ เราจะยึดตามความใฝ่ฝันของ Chris ที่เขาอยากจะทำ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเป็นไตรภาคเท่านั้น อย่าทำอะไรไปมากกว่านั้นเลย อย่าให้มันมากเกินไป จนกลายเป็นภาคที่ 4 เลย' "
นั่นก็นับว่าเป็นคำตอบที่ชัดเจนพอสมควรสำหรับการเกิดหนังภาคที่ 4 ของ Batman ฉบับ Nolan แต่หลังจากไตรภาค Batman นี่จบลง ก็เป็นการผงาดขึ้นมาของ MCU ที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่อง ทางด้าน DC เองก็ต่างทยอยทำหนังเดี่ยวมาเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่ Man of Steel (2013) และก็ต่อมาเรื่อยๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าไม่มีเรื่องไหนเลยจริงๆ ที่เทียบเท่ากับไตรภาค Batman ของ Nolan ได้
แต่ช่วงหลังๆ ก็เหมือนจะดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Wonder Woman (2017), Aquaman (2018) และล่าสุดอย่าง Joker (2019) ทั้งนี้ทั้งนั้นเราคงต้องฝากความหวังไว้กับ Matt Reeves กับหนังเดี่ยว The Batman ที่แสดงนำโดย Robert Pattinson ว่าจะทำให้ตัวละครนี้กลับมาผงาดได้อีกครั้งหรือไม่
สำหรับแฟนๆ Christian Bale ก็ติดตามผลงานเขาได้เร็วๆ นี้กับเรื่อง Ford v Ferrari ที่มีกำหนดฉาย 5 ธันวาคม 2019 นี้แล้วจ้าา
|
สบายสบายให้มันสมายเวลาสบายแล้วจะได้สบายสมาย... :) |