การใช้งาน AI หรือปัญญาประดิษฐ์ในงานสื่อและศิลปะนั้น มักถูกถกเถียงกันมาอยู่เสมอว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับได้หรือไม่ ? แต่ทาง Adobe ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ด้านการสร้างสรรค์สื่อ กลับมีความชัดเจนอย่างมากว่าจะนำเอา AI มาใช้พัฒนาศักยภาพของซอฟต์แวร์ของตนอย่างชัดเจน และนี่คืออีกผลงานหนึ่งจากนโยบายนี้
จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Verge ได้อ้างอิงถึงประกาศอัปเดตใหม่ของทาง Adobe ในการนำเอาปัญญาประดิษฐ์สำหรับการสร้างสื่อ (Generative AI) ตัวใหม่มาใช้งานกับซอฟต์แวร์สำหรับการตัดต่อวิดีโอยอดนิยมอย่าง Adobe Premiere Pro เวอร์ชัน 25.2 โดยหนึ่งใน AI ที่เป็นที่จับตามองที่สุดนั่นคือ Generative Extend ที่เคยถูกประกาศในช่วงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2024 (พ.ศ. 2567) ก็ได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกบนเวอร์ชันนี้ด้วย
สำหรับ Generative Extend นั้น ทาง Adobe กล่าวว่า เป็น Generative AI ตัวแรกที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นฐานของ Firefly AI Model โดย AI ตัวนี้นั้นมีความสามารถในการต่อความยาวของวิดีโอคลิปให้ยาวขึ้นได้ถึง 2 วินาที พร้อมกับเครื่องมือที่ช่วยให้การเปลี่ยนฉาก (Transition) ทำได้แนบเนียนไร้รอยต่อยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมาด้วยเครื่องมือสำหรับแก้ไขความเคลื่อนไหว (Movement) ที่ไม่ต้องให้มีอยู่ในฉากโดยที่ไม่จำเป็นต้องทำการถ่ายทำใหม่ (Reshoot) อีกด้วย นอกจากนั้น ตัว AI ดังกล่าวยังมีศักยภาพสูงในการสร้างคลิปที่มีความละเอียดสูงถึงระดับ 4K อีกทั้งยังสามารถเพิ่มความยาวของเพลงประกอบฉาก (Background Music) ให้ยาวกว่าเดิมได้ถึง 10 วินาทีสำหรับเฉพาะไฟล์เสียง หรือ 2 วินาทีถ้าเป็นการตัดต่อ 2 คลิปเข้ารวมกัน
ภาพจาก : https://www.theverge.com/news/641270/adobe-premiere-pro-generative-extend-generally-available
โดย ณ เวลานี้ ทาง Adobe ได้เปิดให้ใช้งาน Generative Extend ได้ฟรี “ในระยะเวลาจำกัด” ซึ่งหลังจากที่เปิดให้ใช้งานไปได้สักพักหนึ่ง ทาง Adobe จะเปิดให้ซื้อจำนวนการใช้งานในรูปแบบ Firefly Generative Credits โดยผู้ใช้งานสามารถซื้อได้มากเท่าที่ต้องการจะใช้งาน และสำหรับสมาชิก Creative Cloud ที่อยู่ระหว่างสัญญาการใช้งาน (Subscription) จะได้รับจำนวนการใช้งานรายเดือน ตั้งแต่ 25 - 1,000 เครดิต ซึ่งถ้าต้องการใช้งานมากกว่านั้น ทาง Adobe จะเปิดขายตัวเครดิตโดยเริ่มต้นตั้งแต่ 10 ดอลลาร์สหรัฐ (335 บาท) ต่อ 2,000 เครดิต ต่อเดือน แต่ ณ ขนาดนี้ ทาง Adobe ยังไม่ได้เปิดเผยถึงกฎเกณฑ์การใช้งานเครดิตของตัว AI แต่อย่างใดว่า จะใช้งานปริมาณแค่ไหนต่อการใช้งาน 1 ครั้ง ซึ่งทาง Adobe เปิดเผยแค่เพียงว่า “การใช้งานเครดิตของตัว AI นั้นจะไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความละเอียด (Resolution), จำนวนเฟรม (Frame Rates) และรูปแบบไฟล์ (Format) ของตัววิดีโอที่ผู้ใช้งานทำงานอยู่”
นอกจาก Generative Extend แล้ว ทาง Adobe ยังได้เปิดตัว AI อีกหลายตัวที่ถูกนำมาใช้งานบน Adobe Premiere Pro อย่างเช่น Search Panel ตัวใหม่ที่มีการนำ AI เข้ามาช่วยในการค้นหาคลิปในคลังวิดีโอ อย่างอัตโนมัติเพียงแค่ป้อนรายละเอียดของคลิป เพิ่มความสะดวกสบายให้การผู้ที่ทำงานด้านวิดีโอมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม, Premiere Color Management เครื่องมือที่ใช้ AI ในการช่วยเปลี่ยนไฟล์ Log และไฟล์วิดีโอดิบ (Raw File) ให้เป็นวิดีโอแบบ SDR และ HDR เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าสู่ขั้นตอนการตัดต่อได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องปรับแต่งเองตามตารางบน Log อีกต่อไป นอกจากนั้น ยังมีระบบการใช้ AI ในการแปลซับไตเติ้ล หรือคำบรรยาย (Captions) ได้ถึง 27 ภาษาอย่างอัตโนมัติ อีกด้วย โดยทุกฟีเจอร์ทาง Adobe ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าจะสามารถใช้งานได้ทั้งเวอร์ชันบนผลิตภัณฑ์ของ Apple และบน Windows
|