ราคาและรูปลักษณ์ภายนอก
เช่นเคยครับ ก่อนเจาะลึกไปในรายละเอียดฟังก์ชั่นการใช้งาน เรามาดูราคาและรูปลักษณ์ภายนอกที่เปลี่ยนไปจากรุ่นก่อนกันเลยครับ รุ่นนี้นั้นทำออกมา 2 สีครับ คือสีดำ และ สีขาว (ช่วงแรกที่วางขายจะมีเฉพาะสีดำครับ สีขาวจะตามออกมาในอีกประมาณ 1 เดือนถัดไป) ส่วนราคา ผมขอเอาราคาเครื่องเปล่าที่ไม่ติดสัญญานะครับ เพราะใน US นั้นได้ข่าวว่ายังไม่มีแบบเครื่องเปล่า ต้องติดสัญญา 2 ปี แต่ที่ UK นี้ราคาพอรับได้ครับ ราคา 16GB อยู่ที่ 499 GPB (ประมาณ 25000 บาท) ส่วน 32 GB อยู่ที่ 599 GPB (ประมาณ 30000) แต่ได้ยินมาแว่วๆว่าเครืองหิ้วที่ MBKมีการเปิดตัวอยู่ที่ 40000 กว่าเลยทีเดียวครับ มาดูต่อกันที่รูปทรงภายนอกนะครับ เรียกได้ว่ารุ่นนี้ออกแบบมาให้ดูไฮโซ เน้นเรียบหรู (แม้หลายๆคนเห็นจะบอกว่าเหมือน LG ก็ตาม) และดูแข็งแรงกว่ารุ่น 3GS มากเลยครับ จับแล้วได้ความรู้สึกแบบอลูมิเนียม ขนาดบางกว่ารุ่น 3G,3GS ถึง 24% แต่น้ำหนักพอๆกันครับอยู่ที่ 137 กรัมเท่านั้น
หน้าจอ และ กล้องที่ดีกว่าเดิม
สิ่งที่สัมผัสและเห็นได้ชัดใน iPhone รุ่นนี้ก็คือ หน้าจอแสดงผลที่ชัดเจนมากกว่าเดิม จากรุ่นเดิมแสดงผลสูงสุดอยู่ที่ 320 x 480 pixels ส่วนใน iPhone 4 นี้ แสดงผลได้มากถึง 960 x 640 pixels เลยทีเดียว เรียกได้ว่าภาพที่เห็นบนมือถือนั้นให้ความรู้สึก Clear และ ละเอียดมากๆครับ ส่วนกล้องถ่ายรูปก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพิ่มมาเป็น 5 MP ซึ่งจากการทดลองถ่ายแล้วยอมรับว่าคมมากครับ และมีกล้องทั้งด้านหน้าด้านหลังสามารถสลับใช้ได้ ซึ่งน่าจะถูกใจคนที่ชอบใช้มือถือถ่ายรูปตัวเอง แถมยังประยุกต์ใช้เป็นกระจกส่องตัวเอง เช็คความหล่อสวยได้อีกด้วยครับ อิอิ ส่วนการใช้ถ่าย วิดีโอ ก็สามารถถ่ายในความละเอียด HD (720p) ได้สูงสุดถึง 30 เฟรมต่อวินาที ชัดแหล่มเลยครับ งานนี้ก็โดนใจคนชอบถ่ายวิดีโอเช่นกัน
iOS4 – multitasking
เจ้า iPhone 4 ก็มาพร้อมกันระบบปฎิบัติการเวอร์ชันใหม่ iOS4.0 ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นก็คือการทำงานแบบ Multitasking หรือการทำงานหลายๆ โปรแกรมพร้อมกัน จากที่ในเวอร์ชันก่อนๆ จะสามารถเปิดได้ทีละ 1 โปรแกรมเท่านั้น ทำให้สามารถสลับโปรแกรมใช้พร้อมกัน ไปมาได้โดยการกดที่ปุ่ม Home ซ้ำกัน 2 ทีเท่านั้นครับ และอีก 1 ฟังก์ชั่นที่ผมชอบมาก็คือ ฟังก์ชั่น Folders ที่สามารถรวบรวมโปรแกรมต่างๆ มาไว้ในแฟ้มเดียวกัน แบบง่ายๆ แค่เพียงลาก App ที่ต้องการมาซ้อนกันก็จะถูกสร้างเป็น Folder และทำการตั้งชื่อที่ต้องการได้เลย เพียงเท่านี้คุณก็สามารถจัดระเบียบตัวโปรแกรมที่ดาวน์โหลดมาเต็มหน้าจอ ไว้เป็นหมวดหมู่อย่างสวยงามเรียกใช้ได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าถูกใจคนชอบโหลดและทดลองโปรแกรมต่างๆ อย่างผม (และแฟนๆ ไทยแวร์อีกหลายๆ คน) มากๆ ครับ
FaceTime พูดคุยแบบเห็นหน้าชัดแจ๋ว
อีกหนึ่งลูกเล่นที่เพิ่มขึ้นมาใน iPhone รุ่นใหม่นี้ที่ทาง Apple ภูมิใจนำเสนอมากในงานเปิดตัวก็คือเจ้าฟังก์ชั่น FaceTime ที่สามารถทำให้คุณพูดคุยกับคนที่ใช้ iPhone 4 ด้วยกันแบบเห็นหน้านี่ก็อาจจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ให้มือถือรุ่นนี้มีกล้องอยู่ด้านหน้า แถมยังสลับกล้องไปมาระหว่างด้านหน้า ด้านหลังได้อย่างเนียนมากๆครับ ซึ่งจากการทดลองใช้คุณภาพแจ่มมากๆครับ เรียกได้เต็มปากว่าเป็น Video Calling อย่างแท้จริง สามารถเรียกใช้งานได้จาก Contact หรือระหว่างโทรได้เลย เหมาะมากๆสำหรับหนุ่มๆ สาวๆ ที่ใช้คุยจีบกัน หรือแม้กระทั่งพ่อลูกอ่อน ที่อยากเห็นหน้าลูกน้อยตอนทำงานก็ใช้โทรหาและได้เห็นหน้าลูกอบอุ่นมากๆครับ แต่ระบบนี้ช่วงแรกต้องการการเชื่อมต่อ Wifi นะครับ ทาง Apple บอกว่าในอนาคตจะสามารถใช้งานผ่าน 3G ได้อีกด้วย
บทสรุป
นี่แหละครับเกริ่นนำของมือถือที่มาแรงแซงทางโค้งที่สุดในเวลานี้ โดยรวมแล้วคนรักของแรงๆ ไฮเทคๆ ไม่ควรพลาดนะครับ ทั้งฟังก์ชั่นที่ครบเครื่อง กับดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว เรียกได้ว่าโดนใจสุดๆครับ แถมราคาก็ไม่แพงเกินไป (ยกเว้นราคาเครื่องหิ้วนะครับ) ดังนั้นคนที่ต้องการจะซื้อละก็เริ่มเก็บตังค์กันได้เลยครับ ได้ข่าวแว่วๆมาว่าประมาณเดือน กันยา นี้บ้านเราน่าจะได้นำไปขายแล้วล่ะครับ ส่วนการใช้งานด้านอื่นๆ กับโปรแกรมที่น่าสนใจ ผมจะนำเสนอให้ในโอกาสหน้านะครับ แล้วพบกันใหม่กับการรีวิวอุปกรณ์ไอทีฉบับหน้าครับ ...
นายเอกกี้