ในปีนี้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายแห่งได้มีการนำเอา AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ มาใช้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง หลายอย่างก็เป็นเพียงตัวเลือก บางอย่างก็เป็นการบังคับใช้ แต่ขณะนี้กำลังมีบริษัทบางแห่งนำเอาผลิตภัณฑ์นี้มาใช้กับงานของลูกค้าโดยที่ไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า หรือ ขออนุญาตก่อน
จากรายงานโดยสำนักข่าว BBC ได้กล่าวถึงผู้ใช้งาน Youtube แพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยม ได้รายงานถึงประสบการณ์ใช้งานแพลตฟอร์มในระยะหลังที่มีความแปลกประหลาดไป เช่น ผู้ใช้งานรายหนึ่งที่มีผู้ติดตามช่องมากกว่า 5 ล้านคน ซึ่งบนช่องนั้นมีการอัปโหลดวิดีโอของตนเองลงบน Youtube เป็นจำนวนมาก พบว่าองค์ประกอบบนร่างกายตัวเองหลายอย่างมีความแตกต่างไปจากต้นฉบับ เช่น ใบหน้าเหมือนกับผ่านการถูกแต่งหน้า (Makeup) มา, เส้นผมของตนเองมีลักษณะแปลก ๆ เป็นต้น ขณะที่ผู้ใช้งานที่ทำช่องเกี่ยวกับดนตรีอีกราย พบว่า วิดีโอคลิปของตนนั้นมีความเปลี่ยนแปลงมากกว่าแค่มีความคมชัดขึ้น แต่เปลี่ยนไปจนเหมือนกับว่าวิดีโอคลิปที่เขาเพียรสร้างขึ้นมานั้น ถูกสร้างขึ้นมาด้วย AI (AI-Generated) สร้างความไม่พึงพอใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก เนื่องจากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้นจะทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ติดตามของเขาลดลง
ซึ่งความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น เหล่าผู้ใช้งานไม่ได้คิดไปเองแต่อย่างใด ทาง BBC ได้รายงานว่า Youtube ได้มีการนำเอาเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มอย่างลับ ๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเพื่อปรับปรุงคุณภาพของวิดีโอ แต่ทว่า การกระทำดังกล่าวนั้นทาง Youtube ไม่ได้มีการบอกกล่าวกับทางผู้ใช้งาน อย่างเช่น การแจ้งเตือน หรือ การทำการขออนุญาตว่าจะมีการใช้ AI บนคลิปของผู้ใช้งานแต่อย่างใด นำมาซึ่งความไม่พึงพอใจในหมู่ผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก ซึ่งทาง Youtube ได้มีการออกมายอมรับอย่างไม่เป็นทางการในส่วนคอมเมนต์บนบางคลิป ว่า การใช้งานดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นจริง โดยเป็นการใช้งานกับวิดีโอแบบสั้น หรือ Youtube Shorts ในจำนวนจำกัด
ขณะที่คุณ Rene Ritchie ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบรรณาธิการและประสานงานนักสร้างคอนเทนต์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย X (อดีต Twitter) ว่า เป็นเพียงการทดลองใช้งานเทคนิค Machine Learning (การเรียนรู้ของเครื่อง) แบบดั้งเดิมบนคลิปแบบ Youtube Short เพื่อปรับปรุงคุณภาพของคลิปเท่านั้น คล้ายคลึงกับเทคโนโลยีปรับปรุงภาพแบบ “หน้าใส” บนกล้องโทรศัพท์มือถือ ทั้งยังกล่าวว่า ทาง Youtube ได้มีการทำงานอย่างแข็งขันเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับชมวิดีโอคุณภาพสูง เพื่อประสบการณ์ที่ดีที่สุดอยู่เสมอ
ซึ่งทางคุณ Samuel Woolley ซึ่งเป็นประธานด้านการศึกษาด้านการบิดเบือนข้อมูล (Disinformation Studies) แห่งมหาวิทยาลัย University of Pittsburgh ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาตอบโต้โพสต์ดังกล่าวว่า การใช้คำว่า Machine Learning นั้นเป็นความพยายามในการบิดเบือนว่าทาง Youtube ใช้งาน AI กับวิดีโอคลิปต่าง ๆ ซึ่งทางคุณ Ritchie เองได้ก็ได้ทำการโพสต์ตอบโต้กลับด้วยการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Machine Learning และ AI สำหรับการสร้างสื่อ (Generative-AI) ขณะที่ทางคุณ Woolley ได้บอกปัดข้อแก้ตัวดังกล่าวว่า “การแก้ตัวนั้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญแต่อย่างใด”
ทั้งนี้ ทาง BBC ได้ทำการถามไปทาง Youtube ว่า ผู้ใช้งานจะสามารถมีสิทธิ์เลือกได้หรือไม่ ? ว่าคลิปของตัวเองจะถูก AI ปรับปรุงคุณภาพ ซึ่งทาง Youtube ก็ยังไม่ได้มีการออกมาให้คำตอบเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
|