ไมโครซอฟท์อัปเดตแอป Clipchamp ครั้งใหญ่ พร้อมฟีเจอร์มากมายเจ๋งกว่าเดิม

สำหรับผู้ใช้งาน Windows นั้น หนึ่งในแอปพลิเคชันที่มาพร้อมกับตัว Windows เอง นอกจาก Paint ที่ใช้กันอยู่ทั่วไปแล้วก็คงหนีไม่พ้น Clipchamp ซึ่งเป็นเครื่องมือตัดต่อวิดีโอตัวล่าสุดบน Windows 11 ที่นอกจากจะฟรีแล้วยังมีความสามารถที่หลากหลาย และตอนนี้ไมโครซอฟท์ก็ได้ทำการปรับปรุงคุณภาพการทำงานให้ดียิ่งกว่าเดิม

จากรายงานโดยเว็บไซต์ PCWorld ได้รายงานถึงการที่ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่า อัปเดตใหม่จะมีการปรับปรุงฟีเจอร์และการทำงานของแอปพลิเคชัน Clipchamp ให้มีคุณภาพในการทำงานที่สูงมากขึ้นไปกว่าที่เป็นอยู่ โดยจะเริ่มการอัปเดตจากผู้ที่ใช้งานบัญชีส่วนบุคคล (Personal Account) ก่อน และสำหรับผู้ใช้งานบัญชีทำงาน (Work Account) จะได้รับการอัปเดตในเดือนมีนาคมนี้

ภาพจาก : https://www.pcworld.com/article/2609274/major-Clipchamp-update-improves-microsoft-free-video-editor.html

ซึ่งสำหรับฟีเจอร์ และส่วนที่ถูกปรับปรุงบน Clipchamp เวอร์ชันใหม่นั้นมีดังนี้

• Light Mode: ที่ผ่านมา Clipchamp จะทำงานอยู่ใน Dark Mode เท่านั้น ซึ่งจะส่งผลให้พื้นหลังการทำงานเป็นสีดำทั้งหมด ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ใช้งานหลายคนรู้สึกอึดอัดไม่สบายใจในการทำงาน แต่ในเวอร์ชันใหม่สามารถปรับเป็นสีขาวด้วย Light Mode ได้แล้ว รวมถึงจะมี System Mode ให้เลือกใช้งาน ซึ่งการแสดงผลจะเปลี่ยนไปตามการปรับแต่งบน Windows Setting อีกด้วย
• ปรับปรุงระบบการจัดระเบียบ Asset: วิดีโอหนึ่งคลิปอาจมี Asset ที่ต้องใช้งานหลากรูปแบบไม่ว่าจะเป็น วิดีโอต้นฉบับ, เพลง, คลิปเสียง, รูปภาพ, ตัวอักษร ซึ่งอาจสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้งานหลายราย แต่เวอร์ชันใหม่จะมีฟีเจอร์ Group ในการจัดกลุ่ม Asset ที่ต้องการใช้งานให้อยู่ในกลุ่มเดียวกันได้แล้ว
• หน้าตาของ Video Editor จะน่าใช้งานมากขึ้น: ทางไมโครซอฟท์ได้ประกาศว่า Clipchamp เวอร์ชันใหม่จะมีหน้าตาที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน (User-Friendly) มากยิ่งขึ้น โดยจะมีการออกแบบ Layout ใหม่, Mini Sidebars และ Timeline จะสามารถย่อขยายได้, ผู้ใช้งานจะสามารถ Zoom In และ Zoom Out ในส่วนของ Timeline ได้, สามารถ Undo/Redo การกระทำต่าง ๆ ที่ทำลงบนแอปได้, รวมไปถึง การเล่นคลิปวิดีโอในโหมดเต็มจอ (Full-Screen), การเปลี่ยนสัดส่วนวิดีโอ (Aspect Ratio), รวมทั้งการใช้ AI มาช่วยทำซับไตเติ้ล ก็สามารถทำได้โดยง่ายเช่นเดียวกัน
• การแก้ไข Timeline จะแม่นยำยิ่งขึ้นกว่าเดิม: ในเวอร์ชันก่อนนั้นการแก้ไข Timeline อาจไม่ละเอียด หรือไม่ได้ดั่งใจเท่าที่ควรนัก แต่ในเวอร์ชันใหม่นี้ผู้ใช้งานจะสามารถใช้งาน Timestamp บน Timeline การตัดต่อได้แล้ว ซึ่งจะช่วยให้การตัดต่อเป็นไปอย่างละเอียด แม่นยำ มากยิ่งขึ้น