ถึงแม้หลังจากที่ DeepSeek ถูกเปิดตัวให้ผู้ใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ จะกลายเป็นที่นิยมในทันทีหลังการเปิดตัวก็ตาม แต่ก็เหมือนจะมีหลายฝ่ายที่ไม่ยินดีกับการมีอยู่ของ AI ตัวนี้ โดยเฉพาะรัฐบาลต่าง ๆ ในฟากตะวันตก
จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Hacker News ได้รายงานถึงการที่รัฐบาลอิตาลีได้ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อจัดการกับความนิยมในการใช้งาน AI ดังกล่าวด้วยการประกาศห้ามใช้งาน DeepSeek พร้อมทั้งบล็อกการเข้าถึงการใช้งาน AI ตัวดังกล่าวในทันที โดยการปิดกั้นการใช้งานดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นหลังจากที่หน่วยงานปกป้องความปลอดภัยของข้อมูลแห่งประเทศอิตาลี หรือ The Garante ได้ทำการส่งกระทู้สอบถามถึงวิธีการจัดการข้อมูลของผู้ใช้งานรวมไปถึงแหล่งที่มาของข้อมูลที่ทาง DeepSeek นำมาใช้ในการฝึกฝนตัว AI ไปยังบริษัทแม่ของทาง DeepSeek
ทว่าหลังจากที่ทาง The Gerante ได้รับการตอบกลับจากทาง DeepSeek มาพร้อมกับข้อมูลที่ร้องขอไป ทาง The Gerante ก็ได้ทำการออกประกาศอย่างเป็นทางการในช่วงวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมาว่า ข้อมูลที่ทาง DeepSeek ส่งมาให้นั้นไม่มีรายละเอียดที่มากเพียงพอที่จะยอมรับได้ ซึ่งในขณะเดียวกัน บริษัทที่อยู่เบื้องหลัง DeepSeek อย่าง Hangzhou DeepSeek Artificial Intelligence และ Beijing DeepSeek Artificial Intelligence ก็ได้ออกมาตอบโต้ทาง The Gerante ว่า “บริษัทของเราไม่ได้ดำเนินกิจการในอิตาลี ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามที่กฎหมายของทางสหภาพยุโรปกำหนดไว้”
ซึ่งการตอบโต้แบบท้าทายกฎหมายดังกล่าวนั้น นำมาสู่การปิดกั้นการเข้าถึงการใช้งาน DeepSeek ในทุกช่องทางในท้ายที่สุด โดยคำสั่งของทางหน่วยงานรัฐบาลนั้นถูกออกโดยระบุว่ามีผลทันที ส่งผลให้ชาวอิตาเลียนไม่สามารถใช้งาน DeepSeek ในทุกรูปแบบได้ในขณะนี้
โดยการปิดกั้นการใช้งาน AI ในครั้งนี้ก็เรียกว่าไม่ใช่ครั้งแรก เนื่องจากในช่วงปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) หน่วยงานเดียวกันนี้ก็เคยได้ปิดกั้นการใช้งาน ChatGPT เนื่องด้วยปัญหาด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลเช่นเดียวกัน แต่ในช่วงเดือนเมษายนในปีเดียวกัน การระงับการใช้งานก็ได้ถูกยกเลิก เนื่องมาจากทาง OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของทาง ChatGPT ได้เคลื่อนไหวด้วยการลงมาแก้ไขปัญหา พร้อมทั้งเสียค่าปรับเป็นจำนวนเงินถึง 15 ล้านยูโร (527 ล้านบาท) เพื่อชดเชยกับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น
นอกจากนั้นแล้ว ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูลบน DeepSeek นั้นนอกจากจะมาจากการไม่ให้ความร่วมมือของบริษัทแม่แล้ว ยังมีอีกสาเหตุมาจากที่รัฐบาลจีนนั้นควบคุมสื่อทุกอย่างในประเทศด้วยสาเหตุด้านความมั่นคง นำมาสู่ความกังวลของหลากฝ่ายถึงการที่รัฐบาลจีนอาจสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน AI ตัวดังกล่าวได้โดยง่าย
|