Adobe Firefly ปล่อยฟีเจอร์ใหม่ใน Photoshop และ Illustrator สร้างภาพด้วย AI เพิ่มประสิทธิภาพงานออกแบบ !

Adobe กำลังนำฟีเจอร์ AI ยอดนิยมมาสู่ซอฟต์แวร์ออกแบบกราฟิกชื่อดัง อีกทั้งยังอัปเดตชุดเครื่องมือ และเพิ่มเครื่องมือสร้างภาพ AI ตัวใหม่ใน Photoshop และ Illustrator การอัปเดตของ Adobe Firefly ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว และแน่นอนว่าเครื่องมือ AI ของบริษัทถูกผนวกเข้ากับชุดโปรแกรมออกแบบของบริษัท ซึ่งหมายความว่าเราต้องเป็นสมาชิก Creative Cloud ก่อนเพื่อใช้เครื่องมือออกแบบ AI นั่นเอง

ในส่วนของ Photoshop มีฟังก์ชันใหม่ที่เรียกว่า "Text-To-Image" หรือ "สร้างภาพจากข้อความ" ซึ่งเจ๋งกว่าเดิมตรงที่เราไม่จำเป็นต้องมีภาพต้นฉบับเลย แค่เราพิมพ์คำอธิบายภาพที่เราอยากได้ลงไปในช่องข้อความ Photoshop ก็จะสร้างภาพนั้นขึ้นมาให้เราเลย ซึ่งต่างจากเวอร์ชันก่อนหน้า ที่ให้เราใช้ฟังก์ชัน "Generative Fill" ซึ่งช่วยเราเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปในภาพอย่างอื่นได้ เช่น เปลี่ยนสีฟ้าเป็นสีแดง หรือเพิ่มวัตถุใหม่เข้าไปในภาพ แต่เราจะต้องมีภาพต้นฉบับอยู่ก่อนแล้ว

ภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=vpiALnqE-VQ

นอกจากจะสร้างภาพจากข้อความได้แล้ว ฟังก์ชัน Generative Fill ในเวอร์ชันอัปเดทใหม่ก็เก่งขึ้นกว่าเดิมทำให้ภาพที่ได้คมชัด และสมจริงมากขึ้น พร้อมทั้งปรับปรุงเครื่องมือ Selection และ Brush เพื่อให้การเลือก และปรับแต่งภาพมีความแม่นยำ พร้อมกับแถบเครื่องมือที่ออกแบบใหม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับผู้ใช้งาน

ในส่วนของ Illustrator ได้มีตัวอัปเดตทดลอง (Beta) ที่เข้ามาใช้สำหรับเครื่องมือใหม่ ๆ หลายอย่าง ซึ่งที่น่าสนใจที่สุดคือเครื่องมือเติมรูปร่างแบบสร้างสรรค์ "Generative Shape-Fill" ด้วยเครื่องมือนี้ผู้ใช้งานสามารถพิมพ์คำสั่งบอกโปรแกรมว่าอยากให้เติมอะไรลงไป เช่น "ดอกไม้สีชมพู" โปรแกรมก็จะใช้ AI สร้างภาพดอกไม้สีชมพูสวย ๆ มาเติมเต็มให้เลย และยังเป็นภาพเวกเตอร์ที่ปรับขนาดได้ไม่แตกอีกด้วย ฟังก์ชันนี้มีความคล้าย ๆ กับวิธีการทำงานของฟีเจอร์ Generative Fill ใน Photoshop

ภาพจาก website : https://www.adobe.com/products/illustrator/ai.html

นอกจากฟีเจอร์หลักแล้ว Illustrator ยังมีการปรับปรุงเครื่องมืออื่น ๆ ให้ใช้งานง่ายขึ้น เช่น เครื่องมือเลือก (Selection Tools) และฟีเจอร์ที่แปลงข้อความให้เป็นกลายเป็นลวดลาย (Text-To-Pattern) ได้อีกด้วย

ต้นปีที่ผ่านมา Adobe ได้อัปเดตกติกาการใช้งานโปรแกรมของตัวเอง โดยเพิ่มข้อความที่บอกว่า Adobe อาจจะเข้ามาดูข้อมูลหรือไฟล์ที่เราทำงานผ่านโปรแกรมของพวกเขาได้ เช่น Photoshop, Illustrator หรือไฟล์ที่เราเก็บไว้บนคลาวด์ของ Adobe ทำให้ผู้ใช้หลายคนกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวหรือผลงานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์อาจรั่วไหลออกไปได้ เพราะโปรแกรมจาก Adobe มีผู้ใช้หลากหลายไปจนถึงระดับองค์กร

แม้ Adobe จะบอกว่าจะไม่นำข้อมูลของเราไปฝึก AI โดยตรง แต่หลายคนก็ยังไม่สบายใจ และรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวถูกละเมิดอยู่ดี สำหรับคนที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวมากเป็นพิเศษ อาจจะลองพิจารณาใช้โปรแกรมโอเพนซอร์สอื่น ๆ หรือโปรแกรมที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ก็ได้