จุดประสงค์หลักที่เหล่าผู้ไม่ประสงค์ดีสร้างมัลแวร์ขึ้นมาก็คงจะไม่พ้นการสอดส่องจับตาดูเหยื่อ การขโมยข้อมูล ไปจนถึงการทำลายระบบของเหยื่อที่ได้รับมัลแวร์เข้าไป แต่ในยุคที่ข้อมูลมีค่าแบบทุกวันนี้นั้น การถูกขโมยข้อมูลแลดูจะเป็นปัญหาที่สร้างความกังวล ความหนักใจให้กับหลาย ๆ คนเสียมากกว่า และข่าวนี้อาจกำลังเป็นข่าวร้ายสำหรับกลุ่มคนดังกล่าว
จากงานวิจัยของทาง Kaspersky ซึ่งเป็นผู้พัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชื่อดัง ได้ค้นพบกับสถิติที่สร้างความน่ากังวลใจให้กับหลายฝ่ายคือ ในหมู่มัลแวร์แนวขโมยข้อมูลทั้งหลายนั้น เครื่องที่ติดมัลแวร์มากกว่า 55% ได้ถูกมัลแวร์ชื่อ Redline บุกรุกเข้าตัวเครื่อง จากผลของการตรวจสอบในช่วงปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) ที่ผ่านมา โดยมัลแวร์ตัวนี้นั้นมีจุดประสงค์ของการบุกรุกอยู่ที่การขโมยรหัสผ่านต่าง ๆ ของเหยื่อเป็นหลัก
นอกจากนั้นแล้วงานวิจัยยังได้ทำการอ้างอิงข้อมูลต่าง ๆ ที่ทำการเก็บมาจาก Dark Web นั้นได้ค้นพบอีกว่า ระหว่างปี ค.ศ. 2020 - 2023 (พ.ศ. 2563 - 2566) เหล่าผู้ไม่ประสงค์ดีมากกว่า 51% นั้นใช้มัลแวร์ Redline ในการขโมยข้อมูลของเหยื่อ โดยมัลแวร์ที่มีความนิยมใช้งานรองลงมาคือ Vadar ที่ 17% และ Racoon ที่ 12% อีกทั้งทาง Kaspersky ยังค้นพบอีกว่า มัลแวร์ประเภทขโมยข้อมูล (Infostealers) กว่าอีกกว่า 100 ชนิด ได้ใช้ Metadata บน Log files ต่าง ๆ มาช่วยขโมยข้อมูลของเหยื่ออีกด้วย
ภาพจาก https://usa.kaspersky.com/about/press-releases/2024_redline-reigns-as-most-prevalent-data-stealing-malware-kaspersky-finds
ซึ่งทาง Kaspersky ได้เห็นถึงความสำคัญของข้อมูล และภัยร้ายแรงที่เหยื่ออาจจะต้องประสบเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมัลแวร์เหล่านี้ จึงได้มีแผนที่จะสร้างหน้าเพจบนเว็บไซต์ที่มีจุดประสงค์ในการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับมัลแวร์ชนิดนี้ รวมไปถึงให้การช่วยเหลือในเชิงกลยุทธ์กับผู้มีความเสี่ยง เพื่อช่วยให้หลีกเลี่ยง และลดความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อของมัลแวร์ประเภทดังกล่าว
|