เปิดตัว Huawei P40 Series กล้องไฮบริด ซูม 100 เท่า ปฏิวัติยุคแห่งการถ่ายภาพเหนือระดับ

Huawei P40 Series

เปิดตัวแล้วเมื่อคืนนี้ 26 มีนาคม อย่างเป็นทางการสำหรับสมาร์ทโฟน Huawei P40 Series ซึ่งซีรีย์นี้จะมาพร้อมกัน 3 รุ่น ได้แก่ Huawei P40, Huawei P40 Pro และ Huawei P40 Pro+ ตัวเครื่องดีไซต์เรียบหรู ขอบโค้งสี่ด้าน และกล้องถ่ายภาพเหนือระดับ หน้าจอมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ทำให้ปลดล็อกหน้าจอได้เร็วขึ้น 30%

ในส่วนของแอปพลิเคชัน Huawei P40 ซีรีย์จะไม่มี Google Services มารองรับแต่จะใช้ Huawei Mobile Service (HMS) ซึ่งมี App Gallery มาให้ดาวน์โหลดแอปฯ ใช้งานแทน พร้อมใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มอบฟีเจอร์ต่างๆ มากมายเพื่อช่วยพัฒนาชีวิตยุค AI แบบไร้รอยต่อ และเพิ่มความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบไปด้วย

• HUAWEI MeeTime ที่รองรับวิดีโอคอลระดับ Full HD 1080p มอบภาพวิดีโอที่คมชัด แม้โทรจากสถานที่ทีมีแสงน้อยหรือบริเวณจุดอับสัญญาณ โดยผู้ใช้สามารถแชร์หน้าจอสมาร์ทโฟนให้กับบุคคลอื่นระหว่างโทรวิดีโอคอล รวมถึงสามารจดโน้ตบนหน้าจอได้ในเวลาเดียวกัน  
• รองรับการเปิดแอปได้ในหน้าจอเดียว (Multi Windows) 
• ผู้ช่วยอัจฉริยะที่ชื่อว่า Celia เหมือน กับ Siri  
• ฟีเจอร์ Multi-Device Control Panel หรือหน้าต่างสำหรับควบคุมอุปกรณ์ IoT เช่น ลำโพงหรือหลอดไฟได้ เป็นต้น
• ฟีเจอร์ HUAWEI Share ที่ทลายกำแพงอันเป็นอุปสรรคในการเชื่อมต่อระหว่างสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ต่างๆ  ทำงานคล้ายกับ AirDrops ของ Apple
• ฟีเจอร์ Cross Device Photo Gallery ดูรูปภาพข้ามอุปกรณ์ได้

สีของ Huawei P40 Series

ด้านสีแต่ละรุ่นทั้ง Huawei P40, P40 Pro จะมีให้เลือกด้วยกัน 5 สีประกอบด้วย Black, Deep Sea Blue, Ice White, Silver Frost และ Blush Gold ในขณะที่ Huawei P40 Pro+ จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 สีคือ Ceramic White และ Ceramic Black ที่เพิ่มความหรูหราเป็นวัสดุฝาหลังเซรามิค  ต่อไปเราจะมาดูเรื่องสเปคเครื่องของแต่ละรุ่น

สเปค Huawei P40 

• มีดีไซต์หน้าจอขอบโค้ง 4 ด้าน ขนาด 6.1 นิ้ว
   
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล AF รูรับแสง f/2.2 กล้องวัดความชัดลึกชัดตื้น IR Depth/Gesture สำหรับปลดล็อกใบหน้า และใช้ตรวจจับการสั่งงานด้วยมือ

• กล้องหลังมี 3 ตัว
  • กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ซูมออฟติคอลได้ 3 เท่า
  • กล้องเลนส์ Ultra Vision Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9
  • กล้องเลนส์ Ultra Wide 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.2
  • มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิแสง ที่ทำให้เวลาถ่ายรูปสีภาพตรงกว่าเดิม
• แบตเตอรี่ความจุ 3800 mAh 

สเปค Huawei P40 Pro

• ดีไซต์หน้าจอขอบโค้งแบน 4 ด้าน ขนาด 6.58 นิ้ว อัตตราส่วนแสดงผล 19.8:9 หน้าจอ Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล ความถี่ 90 Hz เฉดสีกว้าง มีDCI-P3 แสดงผลเป็น HDR ได้ พร้อมระบบ Anti-Blue Light ตัดแสงลง 30 %
   
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล AF รูรับแสง f/2.2 กล้องวัดความชัดลึกชัดตื้น IR Depth/Gesture สำหรับปลดล็อกใบหน้า และใช้ตรวจจับการสั่งงานด้วยมือ

• กล้องหลังมี 4 ตัว
  • กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/3.4 ซูมออฟติคอลได้ 5 เท่า เป็นเลนส์แบบ Periscope
  • กล้องเลนส์ Ultra Vision Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9, OIS
  • กล้องเลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • กล้อง ToF Camera เซนเซอร์วัดระยะความลึกตื้น
  • มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิแสง ที่ทำให้เวลาถ่ายรูปสีภาพตรงกว่าเดิม
• แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh 

สเปค Huawei P40 Pro +

• ดีไซต์หน้าจอขอบโค้งแบน 4 ด้าน ขนาด 6.58 นิ้ว อัตตราส่วนแสดงผล 19.8:9 หน้าจอ Flex OLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล ความถี่ 90 Hz เฉดสีกว้าง มีDCI-P3 แสดงผลเป็น HDR ได้ พร้อมระบบ Anti-Blue Light ตัดแสงลง 30 %
   
• กล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล AF รูรับแสง f/2.2 กล้องวัดความชัดลึกชัดตื้น IR Depth/Gesture สำหรับปลดล็อกใบหน้า และใช้ตรวจจับการสั่งงานด้วยมือ

• กล้องหลังมี 5 ตัว
  • กล้องเลนส์ Telephoto  ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/3.4, OIS ซูมออฟติคอลได้ 10 เท่า เป็นเลนส์แบบ Periscope
  • กล้องเลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 ซูมออฟติคอลได้ 3 เท่า
  • กล้องหลัก Ultra Vision Wide ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล RYYB  รูรับแสง f/1.9, OIS
  • กล้องเลนส์ Ultra Wide Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8
  • กล้อง ToF Camera เซนเซอร์วัดระยะความลึกตื้น
  • มีเซนเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิแสง ที่ทำให้เวลาถ่ายรูปสีภาพตรงกว่าเดิม
• แบตเตอรี่ความจุ 4200 mAh รองรับ Wireless SuperCharge กำลังไฟ 40 วัตต์

จุดเด่นด้านกล้อง Huawei P40 Series

ความพิเศษของกล้อง Huawei P40 ทุกรุ่นจะมีเทคโนโลยี Huawei Ultra Vision Sensor ที่มีขนาดใหญ่สุดในตลาด สามารถเก็บรายละเอียดได้มากขึ้นในยามที่แสดงน้อย ตัวเล็กสุด Huawei P40 ดัน ISO ได้สูงถึง 204800 ขณะที่ P40 Pro และ P40 Pro+ ดัน ISO ได้สูงสุด 409600 นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI Photography Golden Snap ที่จะช่วยลบภาพบุคคลที่ไม่ต้องต้องการในฉากหลังได้ อีกทั้งยังช่วยลดเงาสะท้อนที่ถ่ายภาพกระจกได้อีกด้วย ถือว่าเป็นเทคโนโลยี AI ที่หลายๆ คนต้องชื่นชอบ

จุดเด่นในด้านกล้องอื่นๆ ของ Huawei P40

• รวมทั้งรองรับ Full Pixel Octa PD AutoFocus เพื่อการโฟกัสภาพความเร็วสูงในทุกสภาพแสง
• AI AWB Algorithm ทำให้เวลารับแสงรับสี จะตรงและแม่นยำกว่าเดิม
• HUAWEI XD Fusion Engine ที่จะประมวลผลจากข้อมูลภาพที่ได้จากกล้องทุกตัว เพื่อนำมาผสมผสานให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพสูงสุด
• รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K (3840 x 2160 พิกเซล) 60fps ด้วยกล้องหน้า
• วิดีโอ P40 Pro และ P40 Pro+ ปรับ ISO ได้สูงถึง 51200
• ระบบซูม 100x พร้อมเก็บรายละเอียดครบ

ภาพที่ถ่ายด้วย HUAWEI XD Fusion Engine

ภาพที่ถ่ายด้วยกล้องซูม 100x บน HUAWEI P40 Pro+

ภาพรวมสเปคกล้องของ Huawei P40 Pro, P40 Pro+

สเปคประมวลผล Huawei P40 Series

ด้านสเปคเครื่อง Huawei P40 Series จะใช้ชิปประมวลผล Kirin 990 5G ที่มีความพิเศษคือมีทั้ง CPU, GPU และตัวรองรับ 5G ในชิบเดียว รวมไปถึงการเชื่อมต่อผ่าน WiFi6 Plus ที่คลื่นความที่ 160MHz รองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และการดาวน์โหลดสูงสุด 2400Mbps ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สมาร์ทโฟน Flagship ต้องมีสำหรับปีนี้ 

ราคาเปิดตัว Huawei P40 Series

• Huawei P40 ความจุ 8GB / 128GB ราคา 799 ยูโร หรือประมาณ 29,600 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2020
• Huawei P40 Pro ความจุ 8GB / 256GB ราคา 999 ยูโร หรือประมาณ 35,700 บาท วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2020
• Huawei P40 Pro+ ความจุ 8GB / 512GB ราคา 1399 ยูโร หรือประมาณ 50,000 บาท วางจำหน่ายเดือนมิถุนายน

แต่วันวางจำหน่าย ในบ้านเรายังไม่มีปรากฏออกมา ขณะที่ราคาเมื่อมาถึง อาจจะมีการปรับลดราคาให้เหมาะสมกับบ้านเรา อย่างไรต้องติดตามข้อมูลกันต่อไป

นอกจากนี้ HUAWEI P40 Series หัวเว่ยยังขนขบวนสมาร์ทดีไวซ์มาร่วมเปิดตัวในครั้งนี้อีกหลากหลายชิ้น ประกอบด้วย HUAWEI WATCH GT2e, HUAWEI Sound X และ แว่นตาอัจฉริยะ S/S 2020 HUAWEI X GENTLE MONSTER เพิ่มเติมกลุ่มผลิตภัณฑ์สุดล้ำของหัวเว่ยให้ครบครัน เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ชีวิตดิจิทัลยุคดิจิทัลอย่างเต็มที่