ส่องฟีเจอร์ต่างๆใน Apple Maps เวอร์ชันใหม่ และวิธีใช้งาน "แชร์ ETA"

เมื่อช่วงเดือน มกราคม 2020 ที่ผ่านมา Apple ได้มีการปรับแต่ง "Apple Maps" ใหม่ทั้งรูปลักษณ์ และ ฟีเจอร์ ที่เพิ่มเข้ามาพร้อมกับระบบ iOS 13 ซึ่งออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ใช้ iPhone และ iPad จนเรียกว่าสามารถมาแทนที่ Google Maps ได้อย่างสมศักดิ์ศรี

คุณสมบัติหนึ่งในนั้นคือการแชร์ ETA (Estimate Time of Arrival) หรือเวลาที่คาดว่าจะถึงปลายทางให้กับเพื่อนได้ เพื่อให้เพื่อนที่เรานัดทราบว่าเราจะถึงสถานที่นัดหมายประมาณกี่โมง รวมถึงสามารถดูตำแหน่งที่ตั้งและเส้นทางการเดินทางของเราได้ผ่านแอปฯ แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Look Around ซึ่งคล้ายกับ Street View ของ Google ที่ใช้แสดงสภาพแวดล้อมพื้นที่ตรงจุดที่เรากดเข้าไปสำรวจ

วิธีการแชร์ ETA

ที่นี้เราลองมาดูวิธีการใช้งานฟีเจอร์แชร์ ETA กันดีกว่าว่าเจ้าฟีเจอร์นี้จะสามารถใช้กับเพื่อนของเราที่ไม่ค่อยจะตรงเวลาได้อย่างไร และเราจะแชร์ระยะทางที่คาดว่าจะไปถึง หรือเพื่อนจะแชร์ระยะทางที่จะมาถึงได้อย่างไรใน Apple Maps

1. อย่างแรกให้เราเปิด Apple Maps ขึ้นมากดเลือกสถานที่ตั้งต้น และสถานที่ปลายทาง
2. เมื่อคุณเห็นตำแหน่งเส้นทางแสดงขึ้นมาแล้วก็ให้ปัดหน้าจอที่บริเวณด้านล่างขึ้นมา เพื่อเลื่อนหน้าต่างฟีเจอร์ให้ปรากฏ จากนั้นคุณจะเห็นปุ่มที่อยู่บริเวณล่างสุด
3. กดที่ปุ่ม 'Share ETA' (ถ้าเป็นภาษาไทยจะเป็นคำว่า แชร์เวลาที่คาดว่าจะถึง)
4. ที่นี้ก็เลือกส่งหาคนที่คุณต้องการได้ตามรายชื่อเบอร์ติดต่อ

โดยหลังจากที่คุณกดแชร์แล้ว คุณจะสังเกตเห็นว่าผู้ติดต่อบางคนมีไอคอน Apple Maps ถัดจากชื่อ ซึ่งคือคนที่ใช้ iPhone นั่นเอง โดยที่ผู้ใช้ต้องอัปเดต iOS 13.1 ขึ้นไปถึงจะสามารถใช้ฟีเจอร์ใหม่นี้ของ Apple Maps ได้ ซึ่งหากคุณแชร์ ETA กับคนที่ไม่ได้ใช้ iPhone หรือ ไม่ได้อัปเดต iOS ก็จะเป็นการส่ง Message แชร์โลเคชั่นทั่วไปหาคนนั้นแทนการแสดงเส้นทางที่จะถึงแต่จะมีข้อความเพิ่มเติมไปว่า 

"I started sharing my ETA with you in Apple Maps: arriving at Pepsi Center around 10:44 AM. I'll let you know if I'm running late" หรือถ้าแปลคร่าวๆ ก็คือ ฉันจะไปถึงสถานที่นัดหมายในเวลา 10.44 AM นะ และจะแจ้งอีกทีถ้าไปช้ากว่านี้

เพิ่มความละเอียดของแผนที่

แน่นอนว่าการอัปเดตใหม่ของ Apple Maps ไม่ได้มีแค่นี้เพราะยังมีการเพิ่มรายละเอียดที่ชัดเจน กว่าในแผนที่แบบเก่าไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของถนน, สิ่งก่อสร้าง, สนามบิน, ห้างสรรพสินค้า และพื้นที่สาธารณะอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการ เพิ่มข้อมูลการจราจรแบบเรียลไทม์ ในเมืองใหญ่มากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มภาพถ่ายดาวเทียม เข้ามาให้เห็นความละเอียดของแผนที่ท้องถนน แผนที่เมือง และสถานที่ต่างๆ มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Look Around ที่คล้ายๆ กับ Street Veiw ของ Google ซึ่งจะแสดงภาพถ่ายแบบพาโนราม่าของสถานที่ต่างๆ ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร  ซึ่งในบางสถานที่ของสหรัฐเมริกาสามารถที่จะเคลื่อนที่กล้องไปรอบๆได้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่ฟีเจอร์ Look Around ของประเทศไทยยังไม่มีระบบนี้ แต่คาดว่าอนาคตอาจมีการเพิ่มเติมให้ในภายหลัง โดยที่ฟีเจอร์เหล่านี้จะสามารถช่วยให้การเดินทางของคุณมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น