10 หนังซอมบี้ที่มีดีกว่าความแหวะ!!!

ถ้าพูดถึงหนังซอมบี้ ผีดิบแล้วหล่ะก็ ทุกคนคงจะนึกถึงหนังที่ชวนแหวะ ชวนอ้วก มีแต่ตับไตไส้พุง ซึ่งนั่นก็ถูกแหละ แต่ว่ายังมีหนังซอมบี้อีกหลายเรื่องที่มีดีมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นหนังรักโรแมนติค ตลกโปกฮา หรือดราม่าน้ำตาเล็ด ล้วนแล้วแต่มีมากมาย ทั้งนี้เราจะนำเสนอทุกท่านผ่านทางรายการ "หนังน่า" และทางบทความนี้เราไปดูกันเถอะ ว่าจะมีเรื่องไหนบ้าง กับ "10 หนังซอมบี้ที่มีดีกว่าความแหวะ!!!"

1. World War Z (2013) - ซอมบี้ยูเซน โบลต์

หนังซอมบี้นักวิ่งมาราธอนเรื่องนี้ ที่นำแสดงโดยสุดหล่อ แบรด พิตต์ ที่มีพลอตง่ายๆ ธรรมดาๆ แต่ดำเนินเรื่องได้น่าตื่นเต้นและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง ในเรื่องนี้ถ้าใครโดนซอมบี้กัดจะกลายร่างใน 12 วินาที เนื้อเรื่องดำเนินผ่านตัวพระเอก แบรด พิตต์ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ขององค์กรสหประชาชาติ ที่ต้องไปติดต่อและเดินทางผ่านเมืองสำคัญต่างๆ ในโลก และเมื่อพระเอกไปที่ไหน ที่นั่นก็ชิบหายหมด เนื้อเรื่องชวนให้ลุ้นตลอดเวลา พระเอกนี่วิ่งทั้งเรื่อง เฉกเช่นเดียวกันกับซอมบี้ เรื่องนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ใช้ซอมบี้ได้เยอะและสิ้นเปลืองมากที่สุดเรื่องนึงเลยก็ว่าได้ เรียกได้ว่าซอมบี้ในเรื่องนี้เป็นล้าน แต่ละตัวนี่ยังกะยูเซน โบลต์!!!

2. Dawn of the Dead (2004) - สุดของซอมบี้ตระกูล of the Dead

เราคงเคยได้ยินหนังซอมบี้ต่างๆ ที่ถูกใช้คำว่า of the Dead ตามหลัง ไม่ว่าจะเป็น Day of the dead, Land of the Dead, Diary of the Dead และอื่นๆ อีกมากมาย หลายๆ คนรู้ไหมว่าเจ้าพ่อหนังซอมบี้คนนี้แหละที่เป็นคนเริ่มคำเหล่านี้ขึ้นมา นั่นก็คือ จอร์จ โรเมโร
Dawn of the Dead หนังรีเมคใหม่ที่กำกับโดย แซ็ก สไนเดอร์ มือกำกับหนังที่เรารู้จักกันในหนังฮีโร่ต่างๆ โดยจริงๆ แล้ว หนังเรื่องนี้เคยถูกกำกับโดยเจ้าพ่อหนังซอมบี้อย่าง จอร์จ โรเมโร ที่เคยกำกับไว้ในปี 1978 และได้คะแนนดีอย่างท่วมท้น ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะคิดว่าหนังรีเมคมักจะไม่ดี แต่คำพูดนี้ใช้ไม่ได้กับเรื่องนี้ เพราะว่าหนังรีเมคเรื่องนี้ ทำออกมาได้ดีมาก เรียกได้ว่าไม่แพ้ภาคต้นฉบับเลยทีเดียว หนังเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับคนที่ต้องจับพลัดจับผลูมาอยู่รวมกันในห้าง ที่โดนรายล้อมไปด้วยเหล่าซอมบี้ผู้หิวโหย หนังเปิดเรื่องได้น่าสนใจและน่ากลัวไม่ใช่เล่น สำหรับส่วนตัวผมคิดว่านี่แหละคือหนังตระกูล of the Dead ที่ดีที่สุดที่เคยดูมา

3. Train to Busan - สุดยอดซอมบี้เอเชีย

ไม่คาดคิดว่าหนังซอมบี้ของเอเชียจะทำได้ดีเทียบเท่ากับหนังฮอลลีวูด (เผลอๆ อาจดีกว่าหลายๆ เรื่องเลย) ทั้งงานด้านภาพ การดำเนินเรื่อง การแสดง และบท ที่ถ่ายทอดออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ เรียกได้ว่าในช่วงนั้น เราไม่ได้เห็นหนังซอมบี้ดีๆ แบบนี้มานานแล้ว และหนังเรื่อง Train to Busan ก็มาในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับรถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังมุ่งหน้าสู่ Busan แต่แล้วก็มีผู้ติดเชื้อซอมบี้ หลุดขึ้นมาบนขบวนผู้โดยสาร ทำให้เรื่องกลับวุ่นวายและเป็นที่มาของชื่อเรื่องนี้ ซึ่งหนังฟังจากบทเราก็อาจจะชวนให้นึกถึงหนังห้องปิดตายหนีซอมบี้ก็ไม่เชิง แต่หนังมันทำได้ดีกว่านั้น ด้วยความที่พื้นที่มีที่เล่นน้อย นักแสดงแต่ละคนจึงต้องแบกรับบทบาท การแสดงไว้มากขึ้น ทุกตัวละครดูน่าติดตาม มีมิติ และชวนให้เอาใจช่วย ที่สำคัญคือหนังเรื่องนี้ดูสมจริง ไม่ใช่ฟาดฟันและต่อสู้กับเหล่าผู้ติดเชื้ออย่างเวอร์วังมากนัก และที่หนังเกาหลีส่วนมากชอบทำคือหนังยังแฝงไปด้วยความดราม่าที่เรียกได้ว่าอาจทำน้ำตาตกเลยก็ว่าได้ 

4. REC - ที่สุดของซอมบี้แนว Found-Footage

หลายๆ คนอาจไม่คุ้นชื่อนี้สักเท่าไหร่ เพราะนี่คือหนังซอมบี้สัญชาติ สเปน ที่โค-ตะ-ระ ดี!!! ที่ถูกทางฝั่งอเมริกานำมาทำใหม่ในชื่อ Quarantine (ปิดตึกสยอง) แต่เราชอบต้นฉบับมากกว่า เพราะทำออกมาได้จริงมาก สยอง น่าติดตาม ชวนลุ้นและน่าอึดอัดตลอดทั้งเรื่อง นีคือที่สุดของหนังซอมบี้ตระกูล Found-Footage เลย และก็ถือเป็นหนังซอมบี้ที่ดีกว่าหลายๆ เรื่องที่เคยทำมาเลยทีเดียวเชียวแหละ ดีกว่า Diary of the Dead หลายเท่าตัว (แต่เราจะไม่ขอพูดถึง ภาคต่อของ REC ละกันเนอะ มันแย่และเริ่มเลอะเทอะ) โดย REC เป็นเรื่องราวของนักข่าวสาวที่เข้าไปทำข่าวในตึกแห่งหนึ่ง โดยในตึกนั้นมีเหล่าผู้ติดเชื้ออยู่ จนสุดท้ายเธอและผู้คนในตึกนั้นทั้งหมดก็โดนกักกัน และจำนวนเหล่าผู้ติดเชื้อก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ หนังอาจดูแล้วมึนๆ เวียนหัวหน่อยๆ สำหรับใครที่ไม่ค่อยชอบหนังแนวนี้ แต่ผมอยากให้ดูจริงๆ เพราะมันคือหนังซอมบี้ดีๆ ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง 

5. Warm Bodies - ซอมบี้โรแมนติค

ก็เหมาะสมอย่างยิ่งกับชื่อเรื่องนี้ที่ถูกแปลไทยออกมา ใครมันจะไปคิดว่าหนังซอมบี้ก็โรแมนติคได้เหมือนกันแหะ ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้สร้างมาจากนิยายชื่อดัง ได้ถูกนำมาถ่ายทอดใหม่ผ่านฝีมือผู้กำกับอย่าง โจนาธาน เลวีน โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับซอมบี้ตัวหนึ่งที่ดันไปตกหลุมรักกับเหยื่อสาวสวยรายหนึ่ง ซึ่งจังหวะที่เขาได้พบเธอ ทำให้ใจเขาเต้นอีกครั้งและอยากกลับมามีชีวิต เป็นหนังซอมบี้ที่ลึกซึ้งและทำออกมาได้ดีมาก ต้องชื่นชมนักเขียนอย่าง ไอแซก มาเรียน ที่ถ่ายทอดเรื่องราวตั้งแต่ในหนังสือมาได้อย่างยอดเยี่ยมและในหนังก็ทำออกมาได้ไม่ต่างจากในหนังสือเท่าไหร่ เขาได้ตีความว่า "Cold Body Warm Heart" ถึงแม้ว่าร่างกายจะเย็นแต่หัวใจยังคงอบอุ่น โดยการตีความเรื่องนี้จะมองเป็นเรื่องราวของความรักเลยทีเดียวก็ว่าได้ จะจำกัดความมันอย่างง่ายๆ เลยก็ได้ว่า "ความรักทำให้คนมีชีวิต" และคนที่ไม่มีรักอาจไม่มีชีวิตเปรียบเสมือนเหล่า "ซอมบี้" โดยหลังจากหนังเรื่องนี้ถูกปล่อยออกไป ก็มีกระแสหลงรักตัวเอกอย่าง R กันมากมายก่ายกอง ถ้าคุณได้ดู รับรองคุณอาจจะตกหลุมรักหนังเรื่องนี้อย่างไม่รู้ตัว 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- 

6. Cooties - ซอมบี้เด็กประถม

5 เรื่องที่ผ่านมาคือหนังซอมบี้ที่จริงจัง ซีเรียส น่ากลัว แต่ 5 เรื่องหลังนี้คือหนังซอมบี้ที่คุณจะร้องว่า "แบบนี้ก็ได้หรอ!!!" งั้นนี่เลย Cooties ซอมบี้เด็กประถม!!! จะเป็นยังไง ถ้าเหล่าเด็กสุดป่วนในโรงเรียนประถม กลายมาเป็นซอมบี้!!! มันก็จะเป็นอย่างหนังเรื่องนี้แหละครับ โดยการติดเชื้อซอมบี้จากหนังเรื่องนี้ เกิดมาจาก "นักเก็ตไก่" ที่เด็กคนหนึ่งไปกิน จนกลายเป็นซอมบี้และไล่กัดคนอื่นๆ ไปเรื่อยๆ ครูและผู้ปกครอง แถมเด็กบางส่วนที่เหลือรอด ต้องหาทางฝ่าดงเหล่าซอมบี้สุดป่วนนี้ออกไป มันเลยกลายเป็นความฮาแบบจริงจัง ที่อยากให้ลองสัมผัสกันจริงๆ เลย

7. Scouts Guide to the Zombie Apocalypse - ซอมบี้ปะทะลูกเสือ

นี่คือเรื่องราวของกลุ่มเด็ก 3 คน ที่เป็นลูกเสือ พร้อมด้วยสาวสวยสุดเซ็กซี่ โดยถ้าดูจากตัวอย่าง เราต้องหวังแน่ๆ ว่าหนังเรื่องนี้จะมีนม นม และนมเต็มไปหมด มันอาจทำให้เรานึกถึง American Pie ในเวอร์ชันซอมบี้ (ซึ่งจริงๆ มันก็มีแหละ แต่ไม่เยอะไง) โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มลูกเสือ 3 คน ไปเข้าค่ายแล้วแอบมาหนีเที่ยวจนมาป๊ะ กับซอมบี้เต็มเมือง พระเอกเราเลยตัดสินใจช่วยสาวที่ตัวเองแอบรัก พร้อมกับเอาตัวรอดจากเหล่าซอมบี้ให้จงได้ด้วยวิชาลูกเสือที่ร่ำเรียนมา หนังเรื่องนี้แฝงไปด้วยมุกตลกใต้สะดือเต็มไปหมด และความเกรียนของเหล่าเด็กทั้ง 3 หนังเรื่องนี้ไม่มีความสมเหตุสมผลใดๆ ทั้งสิ้น เรียกว่าดูเอาบันเทิง ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องจริงจัง และเสพความบ้าแบบหลุดโลกได้เลย อะไรที่โง่ๆ เวลาเจอซอมบี้แล้วทำ ไอ้พวกนี้ทำหมด ต้องลองดูครับ

8. Cockneys VS Zombies - ซอมบี้ปะทะคนแก่

มีนักเรียนประถม มีลูกเสือแล้ว คราวนี้ถึงคราวคนแก่!!! เรื่องราวจะเป็นอย่างไร เมื่อซอมบี้บุกบ้านพักคนชรา แค่คิดก็ขำจะตายแล้ว คุณอาจจะคิดว่ามันจะรอดหรอ มันจะออกมาเป็นยังไง แต่ในซอมบี้เรื่องนี้ไม่ได้บ้าคลั่งและเป็นยูเซน โบลต์ เหมือน World War Z จึงทำให้หนังมันสนุกตรงนี้แหละ เราอาจคุ้นเคยกับการวิ่งหนีเหล่าซอมบี้ผู้หิวสมองแบบสับตีนแตก แต่เรื่องนี้เราจะมาลุ้นความเชื่องช้าของเหล่าคนชราและซอมบี้ว่าเขาจะโดนมันกินหรือเปล่า โดยมีฉากนึงในหนังที่คนแก่ไม่ได้ยินเพื่อนเรียกและเหล่าซอมบี้เนี่ยกำลังจะมากินคนนั้น คนแก่ก็เดินหนีพร้อมไม้ค่ำ เรียกได้ว่าฉากนั้นลุ้นโคตรๆ ลุ้นจนตัวเกร็งไปเลยทีเดียว นับว่าเป็นหนังซอมบี้ที่แปลกแหวกแนวและบันเทิงไม่น้อยเลย

9. Zombieland - ซอมบี้ โค-ตะ-ระ เกรียน

Zombieland หนังซอมบี้สุดเกรียนที่มีเนื้อเรื่องสุดกวน โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอเมริกาที่คนทั้งประเทศติดเชื้อซอมบี้จากการกินเบอร์เกอร์เนื้อวัวที่ทำมาจากเนื้อวัวติดเชื้อ - - พระเอกของเราจึงขนานนามประเทศนี้ว่า "Zombieland" นั่นหล่ะ จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่องนี้ หนังเรื่องนี้เท่มาก โดยตัวละครหลักทั้ง 4 คน ต้องเดินทางไปเพื่อหาที่ปลอดภัย และตัวละครแต่ละตัวก็มีคาแร็คเตอร์ที่ชัดเจนแถมยังแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ในเรื่องตัวละครแต่ละตัวจะเรียกชื่อตัวเองแทนสถานที่ต่างๆ ที่ตัวเองอยู่และแค่ดูชื่อดาราที่แสดงแล้วก็เดาได้เลยว่าหนังเรื่องนี้ต้องวายป่วงแน่นอน เช่น columbus (เจสซี ไอเซนเบิร์ก), Tallahassee (วูดดี้ ฮาร์เรลสัน) หรือสองพี่น้อง Wichita (เอมม่า สโตน) และ Little Rock (อาบีเกล เบรสลิน) แต่ละคนมีเป้าหมายในตัวเองชัดเจน เช่นพระเอกอยากมีสาวสวยเคียงข้างกาย นักล่าซอมบี้อยากตามหาขนมทวิงกี้ชิ้นสุดท้ายบนโลก อะไรประมาณนี้ แต่ความกวนมันยังไม่ใช่แค่นั้น หนังเรื่องนี้ยังจิกกัดและล้อเลียนหนังซอมบี้ต่างๆ โดยผ่านกฏที่พระเอกตั้งไว้ในหนัง ไม่ว่าจะเป็น วิ่งไม่คิดชีวิต, ระวังห้องน้ำ หรืออย่าทำตัวเป็นฮีโร่ อะไรประมาณนี้ โดยหนังเรื่องนี้ถูกใจใครอีกหลายๆ คนแน่นอน เป็นหนังที่ครบรสและคุ้มค่ากับการเสียเวลาไปดู นี่เป็นหนังในไม่กี่เรื่องของแอดทีดูแล้วยังสนุกกับมัน ไม่ว่าจะกลับมาดูอีกกี่รอบก็ตาม

10. Shaun of the dead - ซอมบี้สุดคูล

หนังซอมบี้ โค-ตะ-ระ มีสไตล์ สุดเท่ ของผู้กำกับสุดแนวอย่าง เอ็ดการ์ ไรท์ ที่พอได้ยินชื่อแล้วต้องนึกถึงสไตล์หนังพี่แกออกเลย ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องมากับพระเอกคู่บุญอย่าง ไซมอน เพกก์ โดยในเรื่องนี้ดีทุกภาคส่วน ทั้งการถ่ายทำ ตัดต่อ การแสดง และการดำเนินเรื่อง โดยผู้กำกับรายนี้มีลายเซ็นที่ชัดเจนอยู่แล้วกับการ quick cut และทุกอย่างดูลงตัว กับจังหวะต่างๆ ในหนัง การเคลื่อนกล้อง การถ่ายทำ เรียกว่าครบเรื่อง แต่ไม่เพียงแค่การถ่ายทำเท่านั้นที่ยอดเยี่ยม เนื้อเรื่องยังชวนให้น่าติดตามบวกกับการแสดงสุดเด่นของ ไซมอน เพกก์ โดยเรื่องราวเป็นเรื่องของพระเอก ชอว์น ที่เลิกกับแฟนสาว แล้วเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ระบาด จึงทำให้ ชอว์น และเพื่อนของเขาต้องบุกตะลุยฝ่าดงซอมบี้ ด้วยความฮา และวายป่วง เพื่อไปช่วยเหลือแฟนสาวและครอบครัวของเธอ ใครได้ดูจะเห็นได้ว่าหนังเรื่องนี้มีเอกลักษ์ มีสไตล์ และเท่เอามากๆ ซึ่งนี่คือหนังซอมบี้ The Best ในดวงใจของแอดมินเลย รีบหามาดูกันเถอะนะ เถอะนะ เถอะนะ ขอร้องงงงงงงงงงง