เว็บไซต์ Cyber Security News ได้รายงานถึงการตรวจพบปัญหาจากการอัปเดต macOS 15 Sequoia นั้นนำไปสู่ความขัดข้องในการทำงานร่วมกันกับแอปพลิเคชันด้านความปลอดภัยจากหลายแบรนด์ไม่ว่าจะเป็น CrowdStrike, SentinelOne, Microsoft และจากผู้พัฒนารายอื่นอีกมากมาย ซึ่งนอกจากจะสร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้งานแล้ว ยังส่งผลให้ความแน่นหนาของระบบการป้องกันภัยไซเบอร์น้อยลงไปอันจะนำความเสี่ยงมาสู่ผู้ใช้งานอีกด้วย
โดยจากปัญหาดังกล่าวนั้น ทางผู้ก่อตั้งบริษัทด้านการพัฒนาโซลูชันด้านความปลอดภัยสำหรับ macOS และ iOS โดยเฉพาะอย่าง DoubleYou ได้ออกมาให้ความเห็นถึงปัญหาดังกล่าวกับทาง TechCrush ว่า
“ในฐานะผู้พัฒนาเครื่องมือด้านความปลอดภัยสำหรับ macOS นั้น ช่วงเวลานี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในการรับมือมาก เพราะผู้ใช้งานที่รำคาญใจกับปัญหาดังกล่าวกลับมาโทษเครื่องมือด้านความปลอดภัยว่าทำให้ macOS มีปัญหา ทั้งที่ปัญหาทั้งหมดเกิดจากทาง Apple เอง”
ไม่เพียงแค่ผู้พัฒนารายเล็กเท่านั้น แม้กระทั่งผู้พัฒนารายใหญ่อย่าง CrowdStrike ซึ่งเชี่ยวชาญด้านโซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์ระดับองค์กร ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั้นตกเป็นข่าวดังถึงข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับ Windows 11 ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการประกาศว่า จะยังไม่สนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้งานร่วมกับ macOS รุ่นล่าสุด ถ้าทาง Apple ยังไม่ออกมาให้ความเห็นหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้เสร็จสิ้นเสียก่อน โดยการเคลื่อนไหวในรูปแบบเดียวกันนี้ยังกับขึ้นกับทาง ESET ที่ออกมาแจ้งเตือนถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อกับเครือข่าย (Network Connection) หลังจากการอัปเดต OS ขึ้นเป็นรุ่นใหม่ และทาง SentinelOne ก็ได้ออกมาประกาศว่าให้หลีกเลี่ยงการติดตั้ง macOS เวอร์ชันดังกล่าวในช่วงนี้เสียก่อน
นอกจากนั้นแล้วทางกลุ่มนักวิจัยด้านความปลอดภัยไซเบอร์ยังออกมาเปิดเผยอีกว่า macOS รุ่นใหม่นั้นมีปัญหาในส่วนของ Firewall ที่มักจะบล็อกการทำงานของเว็บเบราว์เซอร์หลังจากที่อัปเกรดขึ้นเป็นรุ่นใหม่แล้ว ไม่เพียงเท่านั้นยังมีปัญหาในการของ DNS อีกด้วย
ถึงแม้ macOS 15 Sequoia นั้นจะมีปัญหาในการทำงานมากมาย แต่ทาง Apple นั้นในปัจจุบันก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นใด ๆ ทั้งยังไม่มีการประกาศว่าจะมีการออกอัปเดตเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเมื่อใด
|