Windows 11 ขยายขีดจำกัด ! ปลดล็อก FAT32 ฟอร์แมตพาร์ติชั่นได้สูงสุด 2 TB !

หลังจากผ่านมาหลายสิบปี ในที่สุด บริษัท Microsoft กำลังยกเลิกข้อจำกัดอายุกว่าหลายสิบปีของวินโดวส์ ที่จำกัดการฟอร์แมตดิสก์ในระบบไฟล์แบบ FAT32 ไว้ที่ขนาดสูงสุดเพียง 32GB โดยปรับให้การฟอร์แมต FAT32 ใหม่บน Windows 11 จะสามารถรองรับพาร์ทิชันได้สูงสุดถึง 2TB แล้ว

ภาพจาก : https://blogs.windows.com/windows-insider/2024/08/15/announcing-windows-11-insider-preview-build-27686-canary-channel/

โดยตอนนี้ Microsoft กำลังทดลองเพิ่มขีดจำกัดนี้ในเวอร์ชันเบต้าของ Windows 11 เวอร์ชัน Build 27686 โดยมีข้อจำกัดตรงที่ต้องสั่งฟอร์แมทไดร์ฟผ่าน Command-Line เท่านั้น (ใช้คำสั่ง "format ชื่อไดร์ฟ: /q /fs:fat32") โดยจะรองรับ FAT32 ได้สูงสุดถึง 2TB

FAT32 มีชื่อเต็ม ๆ ว่า File Allocation Table 32 เปิดตัวครั้งแรกในปี 1996 (พ.ศ.2539) ซึ่งเป็นระบบไฟล์ชนิดหนึ่งที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลในอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล เช่น ฮาร์ดดิสก์, แฟลชไดรฟ์ หรือการ์ดหน่วยความจำ ค่อนข้างเก่าแต่ยังคงได้รับความนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ต้องการความเข้ากันได้กับอุปกรณ์หลากหลายชนิด

ภาพจาก : https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Fat32_structure.svg

ความจริงแล้ว Windows สามารถอ่านไดรฟ์ดิสก์ขนาดใหญ่ที่ฟอร์แมตเป็น FAT32 ได้มาตั้งนานแล้ว แต่เนื่องจากการตัดสินใจเขียนโปรแกรมโดย "พลการ" ที่วิศวกรของ Microsoft ทำเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ระบบปฏิบัติการจึงถูกจำกัดไม่ให้สร้างพาร์ทิชันดิสก์ FAT32 ที่เกินกว่า 32GB ดังนั้น ผู้ใช้ Windows จึงต้องใช้เครื่องมืออื่น ๆ ที่ไม่ได้มาจากวินโดวส์เพื่อเลี่ยงข้อจำกัดนี้

และในตอนนี้ Microsoft ได้ปรับปรุงระบบปฏิบัติการเพื่อรองรับการฟอร์แมต FAT32 ให้ได้ถึง 2TB ซึ่งเป็นขนาดสูงสุดที่ระบบไฟล์มาตรฐานรองรับได้ แต่ดูเหมือนว่าเครื่องมือจัดการดิสก์ของ Windows 11 ในตอนนี้จะยังไม่รองรับการสร้างพาร์ทิชันดิสก์ FAT32 ที่เกิน 32GB ผู้ใช้จึงต้องใช้คำสั่ง format เองใน cmd (Command promt) ของ Windows

มีผู้ใช้รายหนึ่งบน Twitter ได้ทดสอบคุณสมบัติโดยใช้คำสั่ง format เพื่อสร้างพาร์ทิชันดิสก์ FAT32 ที่ใหญ่กว่า 114GB แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงจริง แต่การฟอร์แมต FAT32 ก็ยังคงจำกัดขนาดของไฟล์แต่ละไฟล์ไว้ที่ 4GB เนื่องจากข้อจำกัดโดยธรรมชาติของ FAT32 ที่ออกแบบมาในยุคที่ 4GB นั้นเป็นไฟล์ที่ใหญ่มาก ๆ แล้ว

ภาพจาก X (twitter) ของ @XenoPhanther

การเปลี่ยนแปลงนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับผู้ที่ยังใช้ FAT32 ในการจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเฉพาะในอุปกรณ์ที่ต้องการความเข้ากันได้สูง แม้ว่าจะยังคงมีข้อจำกัดบางประการเช่นขนาดไฟล์สูงสุดที่ 4GB แต่การเพิ่มขีดจำกัดของพาร์ทิชันดิสก์เป็น 2TB ถือเป็นการตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ในยุคปัจจุบันได้ดีขึ้น