ยุคปัจจุบันนั้นข้อมูลนับเป็นเงินเป็นทอง ทำให้ธุรกิจการกู้ข้อมูลนั้นมีความเฟื่องฟูอย่างมาก แน่นอนแฮกเกอร์ก็มีการนำเอาข้อมูลเป็นตัวประกันด้วยการใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่ หรือแรนซัมแวร์ ที่ถึงแม้หลายองค์กรจะมีนโยบายไม่เจรจากับผู้ก่อการร้าย แต่หลายเจ้าก็ยอมที่จะจ่าย บางครั้งก็จ่ายด้วยตัวเลขที่ทุกคนต้องอึ้ง!
จากรายงานโดย Zscaler บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ได้มีการเปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ Dark Angels ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เล่นงานองค์กรต่าง ๆ ด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ และมีความเชี่ยวชาญในการโจมตีบริษัท และองค์กรขนาดยักษ์ที่มีมูลค่าในตลาดสูง ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากกลุ่มแรนซัมแวร์กลุ่มอื่นที่มักจะโจมตีเรียกค่าไถ่แบบไม่เลือกหน้า ได้ทุบสถิติการรับเงินค่าไถ่ข้อมูลสูงมากเป็นประวัติกาลจากเหยื่อเพียงรายเดียวที่มากถึง 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 2,700 ล้านบาท โดยแหล่งข่าวนั้นไม่ได้ระบุว่าองค์กรใดเป็นผู้จ่าย แต่มีการคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นบริษัทที่ติดอยู่ในลำดับ Fortune 50 อย่าง Cencora ซึ่งเป็นบริษัทด้านเวชภัณฑ์ขนาดยักษ์ที่ถูกแรนซัมแวร์โจมตีไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้นนอกจากจะเป็นสถิติที่ไม่เคยมีมาก่อนในวงการการเรียกค่าไถ่ข้อมูลแล้ว ทางผู้เชี่ยวชาญยังกล่าวว่า ยังเป็นตัวชี้วัดถึงภัยที่ร้ายแรง และความเสียหายที่จะเกิดได้มากกว่าที่เคยเป็นจากภัยแรนซัมแวร์ในปีนี้อีกด้วย
โดยจำนวนตัวเลขที่ทีมแฮกเกอร์ Dark Angels ได้รับนั้น เป็นการทุบสถิติเก่าในปี ค.ศ. 2021 (พ.ศ. 2564) จากการจ่ายเงินไถ่ข้อมูลเป็นจำนวน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 1,418 ล้านบาท โดยบริษัทประกันภัยขนาดยักษ์ CNA Finance
นอกจากนั้นแล้ว ทาง Zscaler ยังได้เปิดเผยตัวเลขที่น่ากังวลใจหลายอย่างเกี่ยวข้องกับการโจมตีโดยแรนซัมแวร์ ซึ่งตัวเลขจากรายงานของ ThreatLabz ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยด้านภัยไซเบอร์ของทาง Zscaler ได้เปิดเผยถึง การเพิ่มขึ้นของจำนวนการโจมตีของแรนซัมแวร์ที่มากขึ้นถึง 17.84% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว โดยมีการตรวจพบเว็บไซต์ที่โพสต์ขายข้อมูลของบริษัทที่ถูกแรนซัมแวร์โจมตีจนข้อมูลหลุดไปถึงมือแฮกเกอร์เพิ่มขึ้นมากถึง 51.84% โดยเมื่อตรวจสอบแล้วทำให้ได้ข้อมูลเกี่ยวข้องกับลำดับของอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีโดยแรนซัมแวร์สูงสุด นั้นคือ อุตสาหกรรมด้านการผลิต (Manufacturing), ตามมาด้วย อุตสาหกรรมด้วยสุขภาพ (Healthcare) และเทคโนโลยี
ภาพจาก https://cybersecuritynews.com/record-breaking-ransom-payment/
จากสถิติจะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมที่ตกเป็นเหยื่อล้วนแต่เป็นอุตสาหกรรมหลักที่มีอยู่ในไทย ซึ่งถ้ามีการถูกโจมตีอย่างที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาอาจนำมาสู่มูลค่าความเสียหายที่มหาศาลทั้งต่อบริษัท และเศรษฐกิจ ทางป้องกันที่ดีนั้น ทั้งทางเอกชน และทางรัฐจะต้องมีการร่วมมือกันในการวางระบบและมาตรการป้องกันต่าง ๆ เพื่อปกป้องการถูกโจมตีธุรกิจและเศรษฐกิจของชาติจากแรนซัมแวร์
|