ความเหงา และความต้องการทางเพศนั้นเป็นธรรมชาติของมนุษย์ โดยหลายครั้งนั้นการพยายามใฝ่หาดังกล่าวอาจนำมาสู่การก่ออาชญากรรมเช่นการไถเงิน และการแบล็กเมล์ผู้ที่ส่งรูปโป๊เปลือย หรือจุดซ่อนเร้นต่าง ๆ ให้กับฝ่ายที่เหยื่อไว้วางใจ ซึ่งผู้ให้บริการแอปพลิเคชันด้านการแชทส่วนตัวต่าง ๆ ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ นำมาสู่การวางระบบป้องกันในครั้งนี้
โดยทาง META ซึ่งเป็นเจ้าของโซเชียลมีเดีย และแอปชื่อดังอย่าง Instagram ได้ทำการประกาศในเรื่องมาตรการความปลอดภัยใหม่บนบล็อกอย่างเป็นทางการของบริษัท ถึงการพยายามช่วยเหลือผู้ใช้งานในกลุ่มวัยรุ่นให้สามารถหลีกเลี่ยงการถูกข่มขู่โดยผู้ไม่ประสงค์ดีทางเพศ รวมถึงการพยายามที่จะทำให้กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีนั้นสามารถติดต่อกลุ่มวัยรุ่นเป้าหมายได้ยากยิ่งขึ้น
ซึ่งมาตรการดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นมาหลังจากที่ คดีในแนวที่ผู้ไม่ประสงค์ดีนั้นหลอกให้เหยื่อส่งรูปเปลือยไปให้ และข่มขู่เพื่อทำการไถเงิน และให้เหยื่อมามีสัมพันธ์ทางเพศกับพวกตนได้กลายเป็นประเด็นปัญหาขึ้นมา โดยเหยื่อส่วนมากที่ได้กลายเป็นข่าวนั้นมีอายุเพียง 14 - 15 ปีเท่านั้น โดยกรณีนี้ได้กลายมาเป็นหนึ่งในข้อหาจำนวนมากที่ Mark Zuckerberg ต้องมาตอบคำถาม และทำการขอโทษผู้ปกครองของเหยื่อภายในสอบสวนโดยวุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกาจากการที่ บริษัท Meta ได้ถูกกล่าวหาถึงการละเลยในด้านความปลอดภัยต่าง ๆ นา ๆ จากประชาชนในสหรัฐอเมริกา
ซึ่งฟีเจอร์การเบลอดังกล่าวนั้น จะถูกนำมาใช้บน Instagram เป็นแพลตฟอร์มแรกของ Meta โดยผู้ที่ส่งรูปนั้นได้รับการเตือนถึงการส่งรูปที่มีความเสี่ยงดังกล่าว รวมทั้งตัวแอปจะทำการบอกผู้ใช้งานว่า สามารถยกเลิกการส่ง (Unsend) ได้ ถ้าเกิดเปลี่ยนใจ
ภาพจาก https://about.instagram.com/blog/announcements/new-tools-to-help-protect-against-sextortion-and-intimate-image-abuse
นอกจากนั้นแล้วทาง Instagram ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ระบุตัวบัญชีที่มีความน่าสงสัยว่าอาจเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงในการก่ออาชญากรรมทางเพศ โดยบัญชีดังกล่าวนั้นจะไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Message เพื่อทำการส่งข้อความหากลุ่มผู้ใช้งานวัยรุ่นได้
แต่ถึงแม้ทาง Meta จะเป็นเจ้าของทั้ง Facebook และ Whatsapp แต่ฟีเจอร์การเบลอดังกล่าวนั้นก็ยังคงไม่มีให้ใช้งานบนทั้ง 2 แพลตฟอร์มแต่อย่างไร รวมไปถึงยังได้รับการตำหนิจากหลายฝ่ายว่า มาตรการดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะปกป้องกลุ่มผู้ใช้งานวัยรุ่นได้มากพออีกด้วย
|