ตามปกติผู้ที่ใช้งาน iPhone นั้น ถึงแม้อาจจะมีความกังวลใจเรื่องมือถืออาจจะหายได้ เพราะการที่เป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็มีความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล ถ้ามีการตั้งค่าอย่างเหมาะสม เพราะสามารถใช้ทั้งใช้ฟีเจอร์ด้านการล็อกเครื่องเพื่อปกป้องข้อมูล รวมไปถึงฟีเจอร์ Find Device ในการหาเครื่องได้ และสำหรับ Android หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีฟีเจอร์แบบเดียวกันไหม? คำตอบคือมี
โดยฟีเจอร์ Find My Device ที่กำลังจะออกมาในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้นั้น จะจัดได้ว่าเป็นการอัปเกรดขนานใหญ่ของฟีเจอร์นี้สำหรับบน Android หลังจากที่มีการออกฟีเจอร์ Find Device มาให้ใช้งานตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) โดยสำหรับฟีเจอร์นี้นั้น นอกจากการตามหาโทรศัพท์แล้ว ยังสนับสนุนในการใช้เพื่อตามหาอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ติด Smart Tag ไว้ เช่น กุญแจ หรือกระเป๋าเดินทาง ได้อีกด้วย ซึ่งสำหรับอัปเดตที่กำลังจะมาถึงนี้ ตัวฟีเจอร์จะสนับสนุน Tag ที่ผลิตโดย Chipolo และ Pebblebee โดยในอนาคตนั้นจะขยายการสนับสนุนไปสู่ Tag ที่ผลิตโดย Motorolla และ Eufy ต่อไป
ภาพจาก https://blog.google/products/android/android-find-my-device/
ฟีเจอร์ตัวนี้ นอกจากจะใช้อินเทอร์เน็ตเชื่อมต่อเพื่อค้นหาแล้ว ยังสามารถใช้งาน Bluetooth เพื่อตามหาอุปกรณ์ในแบบ Offline ได้ด้วย ทั้งยังสนับสนุนการใช้งานกับเครือข่าย Smart Home ของทาง Google อย่าง Google Nest เพื่อตามหาอุปกรณ์ที่อาจจะลืมไว้ในบ้านแต่หาไม่เจอว่าอยู่จุดไหน
“ทางเราใช้เวลาอย่างมากในการพัฒนาฟีเจอร์ Find My Device นี้” ตัวแทนจากทาง Google ได้กล่าวไว้บนบล็อกอย่างเป็นทางการเพื่อแสดงออกถึงการใช้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานเป็นที่ตั้ง
นอกจากนั้นแล้วทั้งทาง Google และ Apple ยังตระหนักถึงความปลอดภัยของผู้ใช้งานว่าอาจจะถูกบุคคลไม่พึงประสงค์ติดตามตัวอย่างไม่รู้ตัวอีกด้วย นำมาสู่ความร่วมมือกันเพื่อพัฒนาฟีเจอร์เตือนผู้ใช้งานถึงการถูกติดตามแบบไม่รู้ตัว (Unknow Tracking) โดยได้มีการประกาศถึงการร่วมมือกันในช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา
|