ปัจจุบันผู้ใช้งานบริการของ META ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Instagram คงจะคุ้นชินกันดีกับปัญญาที่ต้องพบไม่ว่าจะเป็นผู้ไม่ประสงค์ดีเอารูปไปแอบอ้าง ไปจนกระทั่งโดนหลอกให้คลิกลิงก์ จนโดนยึดบัญชีการใช้งานไปใช้โพสคอมเมนต์การพนันต่าง หรือโดนยึดเอาเพจไป โดยเหยื่อหลายคนอาจสงสัยว่าทำไมการแจ้งไปทาง META ถึงไม่ได้รับการดำเนินการ, ถูกตัดสินผิด และหลายรายได้โดนลอยแพ
มีรายงานจากทาง Wired ว่าอัยการสูงสุดจาก 41 รัฐในสหรัฐอเมริกาได้ทำการร่างจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บริหารฝ่ายกฎหมายบริษัท META ถึงกรณีที่บัญชีผู้ใช้งาน Facebook และ Instagram จำนวนมากทั่วประเทศ ได้ถูกขโมยโดยแฮกเกอร์ และเรียกร้องให้ทาง META ดำเนินการจัดการกับปัญหานี้ในทันที
ภาพจาก https://ag.ny.gov/sites/default/files/letters/multistate-letter-on-account-takovers_ltrhd_1.pdf
หนึ่งในอัยการที่เป็นหัวหอกของการดำเนินการในครั้งนี้อย่าง อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก Letitia James ได้กล่าวว่า บัญชีที่ถูกขโมยจำนวนมากนั้นมีความเกี่ยวพันกับอาชญากรรมทางการเงิน นำมาสู่การสูญเสียของทรัพยากรทางรัฐจำนวนมาก ขณะที่ทาง META กลับได้กำไรจากอาชญากรรมที่เกิดขึ้น "ทางเราได้รับรายงานจำนวนมากถึงการที่เหล่าอาชญากรได้ทำการฉ้อโกงเงินหลายพันดอลลาร์จากบัตรเครดิตจำนวนมาก นอกจากนี้ เรายังได้รับรายงานว่าอาชญากรเหล่านี้ยังทำการซื้อโฆษณาจากทาง META เพื่อใช้ในการก่อเหตุอีกด้วย"
Erin McPike ตัวแทนจากทาง META ได้ออกมากล่าวโต้ถึงประเด็นดังกล่าวว่า "อาชญากรไซเบอร์นั้นใช้ทุกแพลตฟอร์มที่สามารถใช้ได้ อีกทั้งยังสามารถยังปรับตัวเพื่อหลบการตรวจจับ และลงโทษได้อย่างชำนาญ โดยทางเราได้ลงทุนเป็นจำนวนมากในการสร้างทีมงานเพื่อรับมือ และมีการนำเอาเครื่องมือพิเศษเพื่อตรวจจับบัญชีที่ถูกแฮก นอกจากนี้ เรายังได้แบ่งปันวิธีการรับมือให้กับผู้ใช้งานเพื่อป้องกันตัว อีกทั้งยังมีการทำงานกับทางตำรวจในการดำเนินการทำกฎหมายอย่างแข็งขันเสมอมา"
ถึงแม้จะมีการยืนยันถึงมาตรการความปลอดภัยจากทาง META มาแล้ว ก็ยังคงมีเสียงร้องทุกข์จากผู้ใช้งานซึงถูกขโมยบัญชีว่า "แค่กรณีพื้นฐานอย่างตัวตนบน Facebook ถูกขโมย ทางบริษัทยังไม่มีการดำเนินการจัดการใดๆทั้งสิ้นถึงแม้จะมีการร้องเรียนไป"
โดยรายงานจากสำนักข่าว Newstead พบว่า เหยื่อหลายรายมีความรู้สึกไม่พอใจที่ทาง META ไม่ได้มีการตอบสนองต่อรายงานร้องเรียนกรณีบัญชีถูกแฮก โดยเหยื่อได้รายงานกับทางสำนักข่าวว่า ทางบริษัท META นั้นขอให้เหยื่อรายงานถึงปัญหา แต่หลังรายงานไปแล้วกลับไม่มีการตอบสนองใด ๆ ทั้งสิ้น ทำให้เหยื่อต้องสูญเสียทั้งบัญชีส่วนตัว และบัญชีที่ใช้ในการทำธุรกิจไปโดยที่ไม่สามารถกระทำการใด ๆ ได้เลย
“ทาง META ช่วยอะไรฉันไม่ได้เลย ติดต่อไปก็ไม่มีการตอบรับขณะที่รูปส่วนตัวของฉันถูกขโมยไปใช้งาน และเพื่อนทุกคนต่างได้รับการติดต่อจากแฮกเกอร์ที่แอบอ้างฉันอีก” ผู้ใช้รายหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่บัญชีส่วนตัวถูกแฮก
ผู้ใช้งานบัญชีธุรกิจอีกรายหนึ่งก็ได้กล่าวถึงประเด็นนี้เช่นกันว่า “บัญชีธุรกิจของผมที่ผมลงทุนมาทั้งชีวิตได้ถูกแฮกไป โดยผมได้ทำการติดต่อกับทาง META ทุกทางไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook หรือ Instagram แต่ก็ล้มเหลวทุกทางเพราะทางบริษัทไม่ได้ตอบอะไรผมกลับมาเลย”
จากรายงานข่าวของ Wired เนื้อหาของจดหมายเปิดผนึกที่ทางคณะอัยการสูงสุดส่งถึง META ได้กล่าวถึงการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมการขโมยบัญชี ซึ่งสูงมากขึ้นกว่า 740% ในบางรัฐ ระหว่างปี ค.ศ. 2019 - 2023 (พ.ศ. 2562 - 2566) ถึงแม้ตัวรายงานจะไม่ได้กล่าวถึงความเชื่อมโยงกับเรื่องการขาดแคลนพนักงาน แต่ในช่วงเวลาที่ทาง META ได้เลิกจ้างพนักงานกว่า 11,000 ตำแหน่ง ระหว่างเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) นั้น "มีความบังเอิญ" ที่ตรงกับช่วงเวลาบนจดหมาย ที่ระบุว่าอาชญากรรมพุ่งสูงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
|