ในยุคที่ใคร ๆ ก็ค้นข้อมูล เช็คข้อมูลผ่านแพลตฟอร์มอัจฉริยะ ChatGPT กันว่าเล่น ขอบอกว่า แม้แต่บัญชี ChatGPT ตอนนี้ก็ตกเป็นอันตรายได้แล้วนะ เพราะเกิดเหตุการณ์ข้อมูลบัญชี ChatGPT ไปโผล่ใน Dark Web ซะอย่างนั้น
โดยบริษัทความปลอดภัยทางไซเบอร์อย่าง Group-IB ได้ใช้แพลตฟอร์ม Threat Intelligence ตรวจพบอุปกรณ์ที่ติดไวรัสจากผู้ขโมยข้อมูล 101,134 เครื่อง และพบข้อมูลบัญชี ChatGPT ที่ถูกเข้าถึง ซึ่งเป็นอันตรายเพราะบัญชีมีข้อมูลส่วนตัวบางส่วน รวมถึงรายละเอียดการใช้งานที่อาจมีข้อมูลที่เป็นส่วนตัวหรือเป็นความลับ
จากการสำรวจของ Group-IB พบว่า ผู้ใช้งาน ChatGPT มากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การสื่อสารทางธุรกิจ ฯลฯ ซึ่งระบบของ ChatGPT จะเก็บข้อมูลทุกอย่างที่ผู้ใช้ถาม AI ฉะนั้น หากข้อมูลใดที่เป็นความลับหรือข้อมูลละเอียดอ่อน หากบัญชีถูกขโมยไป ก็มีโอกาสที่มิจฉาชีพจะล่วงรู้ถึงข้อมูลสำคัญ
แล้วบัญชีถูกขโมยได้อย่างไร ? โดยเหตุการณ์นี้เกิดจากที่มัลแวร์ชนิดหนึ่งทำการรวบรวมข้อมูลที่ถูกบันทึกไว้ในเบราว์เซอร์ เช่น เลขบัตรเครดิต กระเป๋าเงินคริปโต ประวัติการใช้งานเว็บไซต์ ฯลฯ และมัลแวร์ก็จะส่งต่อข้อมูลที่ได้มาต่อไปยังแฮกเกอร์ แถมแฮกเกอร์ยังส่งต่อข้อมูลผ่านอีเมลได้ทันที และมีการแลกเปลี่ยน ซื้อขายข้อมูลผ่าน Dark Web อีกด้วย
นอกจากนี้ ทางหน่วยข่าวกรองภัยคุกคามของ Group-IB ยังระบุว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังเป็นพื้นที่ที่ถูกขโมยบัญชี ChatGPT มากที่สุด มากถึง 40.5% ของบัญชีที่ถูกขโมยทั่วโลก และนี่เป็นจำนวนบัญชีที่ถูกขโมยตั้งแต่ระหว่างเดือนมิถุนายน 2565 ถึงพฤษภาคม 2566
ฉะนั้น เพื่อป้องกันการถูกขโมยบัญชี ChatGPT ผู้ใช้ควรอัปเดตรหัสผ่านเป็นประจำ และใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ Two-Factor Authentication (2FA) ที่ต้องใช้รหัสยืนยันเพิ่มเติม เพื่อป้องกันตนเองจากการถูกโจมตี
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |