เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามีนักวิจัยกลุ่มหนึ่ง จากสถาบัน Zhejiang University และ Technical University of Darmstadt ได้มีการเผยแพร่เอกสารวิจัย ที่มีการค้นพบ วิธีโจมตี "แบบไร้สัมผัส" บนหน้าจอสมาร์ทโฟน โดยการสร้างสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) เสมือนทำให้หน้าจอมีการถูกสัมผัส โดยพวกเขาได้เรียกการโจมตีนี้ว่า "GhostTouchAttack" (ตั้งชื่อตามปัญหาหน้าจอที่พบได้บ่อยในผู้ใช้สมาร์ทโฟน หรือปัญหา GhostTouch นั่นเอง)
การโจมตีแบบ "GhostTouch" คือรูปแบบการโจมตี ที่จะสร้างสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) ทำให้เกิดเป็นการสัมผัสปลอม ๆ บนหน้าจอสมาร์ทโฟน โดยมันสามารถใช้ควบคุมการแตะและเลื่อนไปยังตำแหน่งต่าง ๆ บนหน้าจอของเหยื่อ ทำหน้าที่เหมือนนิ้วมือจำลอง ที่สามารถควบคุมได้จากระยะไกล
อุปกรณ์ที่ใช้นั้นได้รับการออกแบบเองโดยนักวิจัย พวกเขาอธิบายถึงขั้นตอนการทำงานเอาไว้ว่า อย่างแรก ตัวอุปกรณ์จะมีเสารับสัญญาณ ที่จะรับสัญญาณและปล่อยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าส่งไปยังหน้าจอโทรศัพท์ โดยจะมีชิ้นส่วนที่เป็นวัสดุตัวนำ ทำให้เกิดสภาวะ EMI กับหน้าจอส่งผลให้เหมือนกับมีการสัมผัสทางกายภาพ โดยระยะความห่างระหว่างหน้าจอกับวัสดุตัวนำสัญญาณสามารถหวังผลได้ที่ 4 ซม. ซึ่งอุปกรณ์นั้นสามารถถูกควบคุมจากระยะไกลเพื่อใช้เปิดเครื่องได้ และมีความสามารถในการกดปุ่ม หรือ การปัดซ้าย-ขวา แบบไร้การสัมผัสบนหน้าจอของเป้าหมาย
และนี่คือวิดีโอตัวอย่างการทดลอง ที่มีการใช้สมาร์ทโฟน 2 เครื่องในการโทรเข้า และ รับสาย โดยที่เครื่องใช้รับสายนั้นมีการติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้โจมตีแบบ GhostTouch และสร้างสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า เลียนแบบการสัมผัสนั่นเอง ผลก็คือมันสามารถกดรับสายเองได้แม้ไม่มีการสัมผัสจากนิ้วมือของผู้ทดลอง
นักวิจัยระบุว่าในสถานการณ์จริง สามารถนำไปเล่นได้หลายอย่าง เช่นการปลดล็อกโทรศัพท์ การเชื่อมต่อกับ Wi-Fi การคลิกต่าง ๆ หรือการรับสายตามที่ปรากฏดังคลิป
"วิธีนี้สามารถถูกใช้ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น ร้านกาแฟ ห้องสมุด หรือ ห้องประชุม ซึ่งผู้คนอาจวางสมาร์ทโฟนคว่ำหน้าลงบนโต๊ะ และผู้โจมตีอาจฝังอุปกรณ์ไว้ใต้โต๊ะเพื่อเปิดการโจมตีจากระยะไกลได้" นักวิจัยกล่าว
หากเป็นไปตามที่นักวิจัยบอก นั่นหมายความว่าตัวอุปกรณ์นี้ สามารถสร้างสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้าและเจาะทะลุพื้นผิวที่มีความหนาไม่เกิน 4 ซม. ได้นั่นเอง
รายงานระบุว่า มีสมาร์ทโฟนไม่กี่รุ่นที่เบาะบางต่อการโจมตีแบบ GhostTouch หรือหมายความว่ามีความไวต่อสัญญาณรบกวนทางแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) ซึ่งรวมถึงตัว Galaxy A10s, Huawei P30 Lite, Honor View 10, Galaxy S20 FE 5G, Nexus 5X, Redmi Note 9S, Nokia 7.2, Redmi 8 และ iPhone SE (2020)
ถึงแม้นี่จะเป็นการทดลองเพื่อวิจัยเพียงเท่านั้น ไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด แต่มันก็ทำให้เราได้รู้ถึงความอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ และสามารถระวังตัวเอาไว้ก่อน ซึ่งทางนักวัจัยก็ระบุเอาไว้ว่าหากผู้ใช้ตั้ง Pin ล็อกหน้าจอไว้ หรือเปิดใช้ Face ID การโจมตีนี้ก็จะไร้ผลอยู่ดี
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |