ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นคิวทองของ Pixel เพราะในงาน Google I/O ประจำปี ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) ที่หลาย ๆ คนรอคอย (รึเปล่านะ) ได้ประกาศเปิดตัว Pixel กันแบบจัดเต็มทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, Smartwatch, หูฟัง Wireless และแว่นตา AR ตัวใหม่ (แน่นอนว่ามีอัปเดต Android 13 ด้วย)
ถ้าใครรอสมาร์ทโฟนจากค่าย Google กันอยู่ละก็ ปีนี้ Google ก็ได้ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนใหม่ถึง 3 ตัวทั้ง Pixel 6a, Pixel 7 และ Pixel 7 Pro ที่สนนราคาเริ่มต้นเพียง 449 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณหมื่นห้า) เท่านั้น ส่วน Gadget อื่น ๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
ในส่วนของสมาร์ทโฟนตัวกลางในตระกูล Pixel ก็ได้สร้างเสียงฮือฮาให้กับหลาย ๆ คนได้ไม่น้อย เพราะ Pixel 6a นั้นมาพร้อมกับชิป Tensor และระบบความปลอดภัย Titan M2 (การันตี Security Update 5 ปี) เหมือนกับ Pixel 6 ทั้งยังรองรับ 5G, Magic Eraser และระบบ AI ล่าสุดของ Google ทำให้มันเร็วกว่า Pixel 5a ถึง 5 เท่าเลยทีเดียว ในส่วนของหน้าจอก็มีขนาดอยู่ที่ 6.1 นิ้ว (60 Hz AMOLED) และมาพร้อมกล้องหลัง 2 ตัวที่ความละเอียดสูงสุดถึง 12-megapixel ในราคาเพียง 449 ดอลลาร์สหรัฐ (15,600) เท่านั้น (มาถึงตรงนี้ใครซื้อ Pixel 6 กับ 6 Pro ไปก็อาจจะแอบกำหมัดอยู่หน่อย ๆ เพราะมีดีกว่ากันแค่จอและกล้องเท่านั้นเอง) สำหรับใครที่สนใจก็รอจับจองกันได้ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมเป็นต้นไป
สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในปีนี้อย่าง Pixel 7 และ Pixel 7 Pro ทางบริษัทได้ออกมาอวดโฉม “หน้าตา” ของมัน พร้อมเผยข้อมูลเกี่ยวกับชิปเซ็ต (ใช้ชิป Tensor ตัวใหม่) และมาพร้อมพร้อมระบบ AI ที่ฉลาดมากยิ่งขึ้น แต่สำหรับสเปคกล้อง, ขนาดหน้าจอ, ราคา และรายละเอียดอื่น ๆ นั้นยังไม่มีหลุดออกมาให้เห็นแต่อย่างใด
อีกหนึ่ง Gadget ที่จะได้เห็นกันในปีนี้ก็ได้แก่ Pixel Watch (Smartwatch ของ Google) ที่มาพร้อมดีไซน์ “หน้าปัดไร้ขอบ” แบบกลมมนประดับด้วยเม็ดมะยมด้านข้างตัวเรือนที่จะวางจำหน่ายพร้อม Pixel 7 และ Pixel 7 Pro (ส่วนตัวแล้วค่อนข้างถูกใจดีไซน์เลย แต่ไม่รู้ว่าหน้าปัดแบบนูนจะเสี่ยงจอแตกง่ายกว่าแบบแบนรึเปล่านะ)
ภาพจาก : https://www.androidcentral.com/apps-software/google-io-2022-biggest-announcements-keynote
ชาวหูฟัง Wireless อาจจะต้องเพิ่ม Pixel Buds Pro เข้ามาเป็นหนึ่งในตัวเลือกกันบ้างแล้ว เพราะในปีนี้ Google ได้เตรียมเปิดตัวหูฟัง Wireless ตัวใหม่ที่มาพร้อมแบตอึดนานสุด 31 ชั่วโมง (หรือ 11 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง) รองรับการเชื่อมต่อหลายอุปกรณ์ (Multipoint Connectivity), กันน้ำได้ที่ระดับ IPX4 ร่วมด้วยฟีเจอร์ ANC (Active Noise Cancelation) ตัดเสียงรบกวนภายนอก (สักที) อีกทั้งยังรองรับการชาร์จแบบไร้สาย จึงสามารถชาร์จบนแท่นชาร์ตของ Pixel Stand (Gen 2) ได้ ส่วนราคาก็อยู่ที่ 199 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7,000 บาท) และเปิดตัวพร้อม Pixel 6a
ในที่สุด Google ก็กลับมาจับตลาด Tablet กับเขาบ้างเสียที แต่น่าเสียดายที่เราจะยังไม่ได้เห็นกันในปีนี้ เพราะทางบริษัทประกาศว่าจะเปิดตัวในปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) นู่นเลย (รายละเอียดอื่น ๆ ก็ยังกั๊กไว้อยู่ ต้องรออัปเดตกันต่อไปอีกที)
ภาพจาก : https://www.androidcentral.com/apps-software/google-io-2022-biggest-announcements-keynote
ปิดท้ายขบวน Gadget ด้วยแว่น AR ที่หลาย ๆ คนรอคอย โดยทาง Google บอกว่ากำลังพัฒนาแว่น AR ที่จะ “ทลายกำแพงการสื่อสาร” ลงด้วยฟีเจอร์การ “แปลภาษา” (ขึ้น Subtitle) แบบ Real time ช่วยให้เราสามารถพูดคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติได้สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น
ภาพจาก : https://www.androidcentral.com/apps-software/google-io-2022-biggest-announcements-keynote
ในส่วนของอัปเดตเกี่ยวกับ Android 13 ที่ปล่อยเวอร์ชัน Beta (2) ออกไปให้ใช้งานกันก่อนหน้านี้แล้วก็มีการยกมาพูดถึงในงาน Google I/O ด้วย โดยทางบริษัทระบุว่าผู้ใช้จะสามารถ “ปรับแต่ง” การใช้งาน Material You ให้เป็นตัวเองได้มากยิ่งขึ้นทั้งในเรื่องของหน้าตาสีสันนการใช้งานแอปพลิเคชันและการเลือกใช้งาน “ภาษา” บนแต่ละแอปพลิเคชัน (สามารถตั้งค่าใช้งานบนแต่ละแอปพลิเคชันได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนภาษาหมดทั้งตัวเครื่อง)
ยกระดับความปลอดภัยในการใช้งาน Google Message ด้วย Private Message ที่มาพร้อมเทคโนโลยี RCS ช่วยเข้ารหัสข้อความแบบ End-to-end encryption ทำให้ผู้ใช้วางใจการส่งข้อความหากันได้มากยิ่งขึ้น พร้อมยืนยันว่าเราจะได้เห็น “TotallyLegitApp” ฟีเจอร์ป้องกันการลงแอปพลิเคชันเถื่อนแฝงมัลแวร์บน Android 13 แน่นอน
ทางด้านความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน (?) ของผู้ใช้เองก็มีการอัปเดตใหม่ด้วย โดยบน Android 13 จะเพิ่มฟีเจอร์ “Early Earthquake Warning” ส่งสัญญาณเตือนก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว และเตรียมเพิ่ม Emergency SOS ที่เชื่อมต่อกับ Wear OS โดยตรง (ไม่ต้องจับโทรศัพท์ก็แจ้งเหตุด่วนได้)
กลับมาอีกครั้งกับ Google Wallet แอปพลิเคชันแทน “กระเป๋าตังค์” ที่สามารถแตะใช้งานบัตรเครดิตผ่านตัวแอปพลิเคชันได้ง่าย ๆ และยังใช้งานแทน “กุญแจรถ” ได้อีกด้วย หรือจะเก็บข้อมูลของบัตรนักเรียน / นักศึกษา, ตั๋วเครื่องบิน หรือใบรับรองการฉีดวัคซีนเอาไว้ใน Wallet ก็ได้เช่นกัน และในเร็ว ๆ นี้ก็เตรียมจะเพิ่มฟีเจอร์การเก็บ “ใบขับขี่” เข้ามาเสริมด้วย (ตอนนี้กำลังตกลงกับทางรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลอยู่ ต้องรอดูกันต่อไปในอนาคต)
ภาพจาก : https://www.androidcentral.com/apps-software/google-io-2022-biggest-announcements-keynote
Google Maps เพิ่มแผนที่ “ภายใน” อาคารต่าง ๆ และอัปเดตจุดท่องเที่ยวในเมืองยอดนิยมให้ดูมีมิติมากยิ่งขึ้น ปรับโทนสีของภาพตาม “ช่วงเวลา” ที่ผู้ใช้เรียกดู Google Maps เพื่อเพิ่มความสมจริง (จะเริ่มทดสอบใช้งานใน Los Angeles, New York, San Francisco, London และ Tokyo ก่อนขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก)
Google Lens ค้นหาผ่าน “รูปภาพ” ได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วย “Scene Exploration” เพียงแค่ยกกล้องขึ้นมาจับภาพตรงหน้าก็จะสามารถทำการค้นหาได้ทันที หรือจะทำการค้นหาแบบ “Multisearch” ด้วยการพิมพ์ข้อความเสริมจากรูปที่ทำการค้นหาแบบเฉพาะเจาะจง (เช่นไปเจอชุดถูกใจแต่ไม่ชอบสี ก็ถ่ายภาพเก็บไว้แล้วกดค้นหาชุดแบบเดียวกันพร้อมระบุ “สี” ที่ต้องการได้)
ภาพจาก : https://www.theverge.com/23065820/google-io-ambient-computing-pixel-android-phones-watches-software
AI Model เพิ่ม “โทนสีผิว” ให้กับโมเดล AI สูงสุดถึง 10 โทนสี
ภาพจาก : https://edition.cnn.com/2022/05/11/tech/google-io-2022-announcements/index.html
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |