เบ็นคิว ประเทศไทย ชูจุดเด่น 2 โซลูชั่น ClassroomCare™ และ Blended Learning เพื่อการเรียนรู้แบบ Smart Education เปิดโอกาสให้นักเรียนมีส่วนร่วมไม่ว่าจะเรียนแบบ Online หรือ On-Site รวมถึงปรับแผนการศึกษาที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านจอกระดานอัจฉริยะ หรือ Interactive Flat Panel (IFP) เป็นอุปกรณ์หลักในการเรียนและการสอน
นอกจากนี้ เบ็นคิว ได้พัฒนาเทคโนโลยี EZWrite Cloud Whiteboard เพื่อเป็นสื่อกลางในการเรียนการสอนอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแบ่งปันเนื้อหา เขียนโต้ตอบกันได้แบบออนไลน์ในรูปแบบของ QR-Code ตลอดจนเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น เซ็นเซอร์ตรวจวัดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2), ฝุ่น PM2.5, ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ และ Eye-care เทคโนโลยีปรับค่าความสว่างอัจฉริยะของหน้าจอ อีกทั้งมาพร้อมกับปากกาไวท์บอร์ด ที่ป้องกันเชื้อโรคและแบคทีเรีย เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้ใช้งาน
เบ็นคิวเปิดตัว จอกระดานอัจฉริยะ รุ่น RP02 และอุปกรณ์คู่ใจอย่างปากกาไวท์บอร์ด มีจุดเด่นที่ประสิทธิภาพการทำงานของเทคโนโลยีและโซลูชั่นเซ็นเซอร์ที่ทรงคุณภาพและพัฒนาขึ้นจาเดิม พร้อมห่วงใยในสุขภาพของผู้ใช้งานด้วยการนำโซลูชั่น ClassroomCare™ ไม่ว่าจะเป็น
นอกจากนี้ หน้าจอ IFP ของ เบ็นคิว ยังสามารถสัมผัสได้พร้อมกันถึง 40 จุด ด้วยเทคโนโลยีสัมผัสแบบ infrared (IR+Touch) รองรับไฟล์สื่อการสอนรูปแบบ PDF, PPTX, Microsoft Word, .iwb และอื่นๆ รวมถึงสามารถแบ่งปันข้อมูลระหว่างจอ IFP และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์, โน้ตบุ๊ค, สมาร์ทโฟน, และแท๊บเล็ตได้ มาพร้อมซอฟต์แวร์ EZWrite Cloud Whiteboard รองรับการเขียนจากหลาย User แบบเรียลไทม์ และ EZWrite Version 6.0 ซอฟต์แวร์พร้อมปากกสำหรับเขียน ลบ ไฮไลต์ส่วนสำคัญ และรองรับการเขียนแบบพู่กันร่วมด้วย
สำหรับปากกาไวท์บอร์ดในรุ่น RP02 มีความพิเศษคือ พื้นผิวมีคุณสมบัติป้องกันเชื้อแบคทีเรีย ลดอัตราเสี่ยงการแพร่เชื้อโรคเมื่อต้องจับหรือใช้งานร่วมกันหลายคน เรียกได้ว่าป้องกันเชื้อในทุก ๆ ด้านไปพร้อม ๆ กับรองรับการเรียนการสอนหลากหลายรูปแบบ
นายวัชรพงษ์ วงษ์มา รองผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ กล่าวว่า “เบ็นคิว มีจุดแข็งในเรื่องของระบบการจัดการหลังบ้านเจ้าเดียว ที่สามารถจัดการได้ในระยะไกล ในส่วนของจอ IFP โดยทีมงานไอทีของแต่ละโรงเรียนสามารถควบคุมการสั่งปิดเครื่องออนไลน์ได้ผ่านระบบซอฟต์แวร์บนคลาวด์ หรือจะอัปเดตเฟิร์มแวร์ หรือลงแอพพลิเคชั่นออนไลน์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเดินมาที่หน้าจอ หรือคุณครูสามารถดึงตารางการเรียนการสอนเชื่อมต่อกับ Smart Classroom, Google Classroom มาใช้งานได้โดยไม่ต้องผ่าน Google Workspace for Education”
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Interactive Flat Panel (IFP) หรือจอแสดงภาพแบบทัชสกรีน ของเบ็นคิว ในช่วง 3 – 4 ปีที่ผ่านมา เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด ด้วยกลยุทธ์ที่เน้นตอบโจทย์เพื่อการเรียนแบบผสมผสาน โดยเจาะกลุ่มสถาบันการศึกษาทั้งรัฐบาลและเอกชน
นายวัชรพงษ์ เปิดเผยว่า “ภาพรวมตลาดธุรกิจจอกระดานอัจฉริยะของเบ็นคิว เติบโตแบบก้าวกระโดด หากมองย้อนไปในช่วงเปิดตัวเมื่อปี 2017 เบ็นคิว มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 2.7% ในขณะที่ตลาดมียอดจำหน่าย 1,259 เครื่อง และในไตรมาสที่ 3 ของปี 2021 เบ็นคิว ได้ทุบสถิติด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดที่ 26.76% และในตลาดมียอดจำหน่ายมากกว่า 3,200 เครื่อง”
"หลังใช้กลยุทธ์การสร้างความน่าสนใจให้กับแบรนด์ด้วยการเจาะกลุ่มโรงเรียนนานาชาติมากกว่า 35 โรงจากทั้งหมด 175 โรงทั่วประเทศ ในปี 2022 นี้ได้ตั้งเป้าไปที่โรงเรียนนานาชาติ 70 โรง จากทั้งหมด 175 โรงทั่วประเทศ คิดเป็นสัดส่วนที่ 40% โดยชูจุดแข็งของหน้าจอป้องกันแบคทีเรีย พร้อมใบรับรองจาก SIAA ซึ่งเป็น Global Safety Standard ที่โรงเรียนเอกชนและโรงเรียนนานาชาติส่วนใหญ่ให้การยอมรับและมั่นใจเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานดังกล่าว"
"ในขณะเดียวกันได้วางแผนเจาะกลุ่มโรงเรียนภายใต้กระทรวงศึกษาธิการทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด, โรงเรียนที่อยู่ภายใต้การบริหารของ อบจ.หรือเทศบาล, โรงเรียนอาชีวะ, โรงเรียนสารพัดช่าง และมหาวิทยาลัยต่างๆ ควบคู่กันไป ตามนโยบายภาครัฐที่เน้นการศึกษาที่ทันสมัย วางแนวทางการเรียนการสอนแบบ Smart City (สมาร์ทซิตี้) หรือเมืองอัจฉริยะ ซึ่ง เบ็นคิว มองว่า นิยามของนโยบายสมาร์ทซิตี้ต้องไม่ได้เป็นเพียงแค่อาคารอัจฉริยะ หรือโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะหรือที่ชาร์ตไฟรถยนต์ EV เพียงอย่างเดียว แต่ต้องรวมถึง Smart Education, Smart Life, Smart People และ Smart Device ด้วย"
ซึ่งการเรียนการสอนผ่านจอ IFP มีประโยชน์ต่อการนำเสนอสื่อการสอนที่ไร้ขีดจำกัดยิ่งขึ้น ผ่านการใช้งานซอฟต์แวร์เพื่อการศึกษาอื่น ๆ แทนที่การฉายสไลด์ PowerPoint หรือจะฉายสไลด์ แสดงผลไฟล์ PDF และอื่น ๆ ก็ทำได้เช่นกัน ขณะเดียวกัน หากนักเรียนจำเป็นต้องกลับเข้าไปเรียนออนไลน์ที่บ้านอีกครั้ง โรงเรียนสามารถให้คุณครูมาสอนที่ห้องเรียนตามปกติและให้นักเรียนเรียน Online ที่บ้านแบบ 100% เพราะบนตัวเครื่องมี Cloud Whiteboard ขีดเขียนโต้ตอบได้จากที่บ้านและโรงเรียนพร้อมๆ กัน และยังสามารถบันทึกวิดีโอระหว่างการสอนเก็บไว้บนคลาวด์ เพื่อให้นักเรียนกลับมาทบทวนได้อีกครั้ง หรือใช้รูปแบบการเรียนการสอน Blended Learning Solution 50:50 เพื่อรองรับทั้งนักเรียน On-Site และนักเรียน Online
นอกจากนี้ จุดเด่นของจอกระดานอัจฉริยะ (IFP) จากเบ็นคิว คือ ฟีเจอร์ Dual Windows สามารถใช้งาน Cloud Whiteboard และเมนูอื่นได้พร้อมกัน เช่น Web Browser หรือ YouTube เพื่อเปิดสื่อการสอนไปพร้อม ๆ กับเขียนกระดานเพื่ออธิบาย และยังรองรับการแชร์ไฟล์ Presentation, รูปภาพ หรือไฟล์ต่างๆ ผ่านระบบปฏิบัติการที่ครอบคลุม ทั้ง iOS (iPad), Android, Chromebook, Notebook, Tablet, Smartphone, ระบบปฏิบัติการ Windows ฯลฯ หรือใช้ระบบ NFC Card โดยการอัพโหลดไฟล์งานไว้บน Cloud แล้วผูกบัญชีกับแผ่น NFC Card ก็สามารถดึงข้อมูลออกมานำเสนอได้ทันที
“ในด้านของการบริการนั้น เบ็นคิว มีตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ โดยหากโรงเรียนใดมีความประสงค์จะขอทดลองใช้ผลิตภัณฑ์จอกระดานอัจฉริยะ หรือ Interactive Flat Panel สามารถติดต่อเข้ามาที่ เบ็นคิว ประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) ได้ โดยทางเบ็นคิวจะนำจอ IFP ไปติดตั้งให้ทดลองใช้ 2 สัปดาห์ พร้อมมีเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการทางด้านผลิตภัณฑ์เข้าไปอบรมการใช้งาน และในส่วนของการบริการหลังการขาย มีตัวแทนประจำภูมิภาคที่มีเครื่องสำรองเพื่อนำไปเปลี่ยนให้ถึงโรงเรียนในกรณีที่เครื่องเกิดการขัดข้องหรือเสียหายในรูปแบบของการ Onsite Service ไม่เกิน 48 ชั่วโมง” นายวัชรพงษ์ กล่าวเสริม
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |