สำหรับสถานการณ์ COVID-19 ในหลายๆ ประเทศ บางประเทศก็เริ่มเกิดการระบาดระลอก 2 รวมถึงประเทศไทยที่เริ่มมีผู้ติดเชื้อกลับมาอีกครั้ง ประกอบกับข่าววัคซีนจากบริษัทและประเทศต่างๆ ที่มีความคืบหน้าในการทดสอบ แต่การนำเสนอข่าวเหตุการณ์ใหญ่ๆ แบบนี้ ล้วนมีทั้งข่าวจริง ข่าวเท็จปะปนกันไป ทาง Facebook และโซเชียลมีเดียอื่นๆ จึงเริ่มทำการตรวจตราข่าวเท็จที่เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโควิด-19 และทำให้ผู้ใช้งานได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
จากข่าวล่าสุดเกี่ยวกับวัคซีน COVID-19 ที่กำลังจะเปิดตัวทั่วโลกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทาง Facebook จะเริ่มใช้นโยบายในการลบข้อมูลที่ผิดเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา เช่น การกล่าวอ้างที่เป็นเท็จเกี่ยวกับความปลอดภัย ประสิทธิภาพส่วนผสม หรือผลข้างเคียงของวัคซีน อย่าข่าวเท็จที่ว่า วัคซีน COVID-19 มีไมโครชิปอยู่ภายใน หรือสิ่งอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับส่วนผสมของวัคซีนอย่างเป็นทางการ ทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับวัคซีน COVID-19 ที่ทราบกันดีว่าเป็นเท็จ แม้จะไม่สามารถเริ่มบังคับใช้นโยบายเหล่านี้ได้ในชั่วข้ามคืน แต่ทาง Facebook จะพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวัคซีน COVID-19 ต่อไป และช่วยให้ผู้คนรับทราบข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับวัคซีนเหล่านี้ โดยการประชาสัมพันธ์แหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ผ่านศูนย์ข้อมูล COVID-19
ส่วนแผนการของ Facebook ในการจัดการข่าวสาร ข้อมูล เริ่มด้วยการเชื่อมต่อเข้ากับโซเชียลมีเดียของหน่วยงานที่ดูแลข้อมูลที่ถูกต้อง ทั้ง Facebook, Messenger, Instagram และ WhatsApp รวมถึงมาตรการห้ามใช้กลวิธีในการแสวงหาประโยชน์ในโฆษณา และห้ามโฆษณาอุปกรณ์ป้องกัน COVID-19 ทั้งหน้ากากอนามัย เจลทำความสะอาดมือ ผ้าเช็ดทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และชุดทดสอบ COVID-19
มาตรการที่ 2 คือ สนับสนุนการบรรเทาทุกข์ด้านสุขภาพและเศรษฐกิจ โดยทาง Facebook จะบริจาคเงิน 20 ล้านดอลลาร์เพื่อหน่วยงานที่ช่วยบรรเทาทุกข์ และบริจาค 25 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์ สนับสนุนองค์การด้านสุขภาพระดับโลกด้วยโฆษณาฟรี รวมถึงการลงทุนร่วมกับธุรกิจขนาดเล็ก และส่งเสริมให้ผู้คนสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านดอลลาร์
และมาตรการที่ 3 ทำให้ผู้คนขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางโซเชียลได้ง่ายขึ้น รวมถึงการทำให้องค์กรปกครองท้องถิ่นและองค์กรด้านสุขภาพเข้าถึงผู้ป่วยผ่าน Facebook และ Messenger สะดวกขึ้น และทำงานร่วมกันผ่าน Workplace ได้แบบฟรีๆ และทาง Facebook ยังบริจาคเงิน 2 ล้านดอลลาร์เพื่อสนับสนุนสายด่วนสุขภาพจิต เพื่อช่วยเหลือบุคคลที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ร่วมด้วย
นอกจากนี้ เว็บไซต์ Socialmediatoday ยังระบุว่า นี่เป็นอีกครั้งที่ Facebook สร้างความพยายามครั้งสำคัญ เพื่อมีบทบาทในการเพิ่มปริมาณวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้มากที่สุด และทำให้ชีวิตผู้คนโฟแำินนากลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |