หลังจากที่มีข่าวออกมาว่าบริษัท Microsoft สนใจที่จะซื้อ TikTok และได้ทำการพูดคุยกับ Donald Trump ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาคนปัจจุบันเพื่อชี้ให้เห็นข้อดีของการซื้อขายธุรกิจในครั้งนี้และยืดระยะเวลาการตกลงซื้อขายตกลงไปจนถึงวันที่ 15 กันยายน ที่จะถึงนี้เพื่อขอเวลาในการพูดคุยกับทางรัฐบาลเพิ่มเติม
ทาง Twitter ก็ดูเหมือนว่าจะให้ความสนใจกับการซื้อขายธุรกิจในครั้งนี้และยื่นมือเข้ามาขอเจรจาเพื่อเป็นอีก 1 ตัวเลือกให้กับ ByteDance ในการทำธุรกิจร่วมกันด้วย แม้ว่าสเกลของบริษัทและสถานภาพทางการเงินจะมีความพร้อมไม่เท่ากับ Microsoft แต่ Twitter ก็เชื่อว่าด้วยขนาดของธุรกิจที่ไม่ได้ใหญ่โตมากนักนี้อาจเป็นข้อได้เปรียบในการตรวจสอบการต่อต้านการผูกขาดธุรกิจจากรัฐบาลที่น้อยกว่า Microsoft นั่นเอง
สำหรับเหตุผลที่ Twitter อยากซื้อ TikTok มาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทก็คงไม่พ้นการเชื่อมต่อทั้ง 2 แอปพลิเคชันนี้เข้าด้วยกันเพื่อช่วยดึงฐานผู้ใช้ให้มากขึ้นจากเดิม เพราะหลายๆ แอคเคาท์ในทวิตเตอร์ก็นำเอาคลิปจาก TikTok ไปลงใน Twitter ของตนเองและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ดังนั้นหาก Twitter ได้ TikTok มาครอบครองก็น่าจะทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตขึ้นได้ด้วย
Bayern Munich's Alphonso Davies is very good at TikTok. 😂 pic.twitter.com/XWFcrurTk9
— Football Tweet (@Football__Tweet) February 4, 2020
แต่ทุนทรัพย์ของ Twitter ก็ยังห่างชั้นกับ Microsoft อยู่เป็นจำนวนมาก และเนื่องจากบริษัทยังประสบปัญหาขาดทุนในไตรมาสล่าสุด (แม้จะได้กำไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา) ก็อาจทำให้สภาพการเงินในขณะนี้ไม่พร้อมมากพอที่จะแย่งชิง TikTok กับ Microsoft ในวันที่ 15 กันยายนนี้ (วันที่ Trump ยื่นคำขาดกับทาง ByteDance ว่าให้ทำการตกลงซื้อขาย TikTok กับบริษัทใดบริษัทหนึ่งของอเมริกาเพื่อไม่ให้ถูกแบนแอปพลิเคชันออกจากอเมริกา)
อย่างไรก็ตาม ทาง Twitter ก็เคยได้ทำธุรกิจในลักษณะคล้ายๆ กันนี้มาก่อนแล้วกับแอปพลิเคชัน Vine ที่เคยได้รับความนิยมสูงอยู่ช่วงหนึ่ง แต่เมื่อ Twitter เจรจาขอซื้อไปบริหารก็ทำให้มันลดความนิยมลงอย่างรวดเร็วจนผู้ก่อตั้ง Vine รู้สึกเสียดายที่ตัดสินใจขายแอปพลิเคชันไปในครั้งนั้น
We’ve moved! Now, you can follow us at @Vine https://t.co/T7uq4HlHYS
— Vine App (@vineapp) October 10, 2014
แต่ก็ไม่แน่ว่าดีลการซื้อขายบริษัทในครั้งนี้อาจไม่เกิดขึ้นก็เป็นได้ เพราะดูเหมือนว่าทาง TikTok ก็ได้เตรียมจ่อฟ้อง Trump กลับเรื่องการกล่าวหาบริษัทอย่างไม่มีมูลความจริง และแจ้งข้อมูลเท็จกับประชาชนที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด รวมทั้งไม่ให้โอกาสอย่างเพียงพอในการแก้ต่าง เพราะทางบริษัทยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยงข้องใดๆ กับรัฐบาลจีนและข้อมูลของผู้ใช้ทุกคนถูกเก็บเป็นความลับที่สำนักงานในสหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ แต่ Trump ก็ยังยืนยันที่จะเชื่อความคิดของตนเองว่า TikTok จะต้องส่งต่อข้อมูลให้รัฐบาลจีนอย่างแน่นอนและจะดำเนินการแบน TikTok จากสหรัฐอเมริกาหากไม่ตกลงซื้อขายธุรกิจให้กับบริษัทในอเมริกาด้วย
A message to the TikTok community. pic.twitter.com/UD3TR2HfEf
— TikTok (@tiktok_us) August 1, 2020
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |