Apple ได้ออกมาประกาศว่าผู้ใช้ทั่วไปที่สนใจสามารถอัปเดต macOS Big Sur เวอร์ชัน Beta มาทดลองใช้งานกันได้แล้ว โดยอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งาน macOS Big Sur ได้แก่
ภาพจาก : https://www.apple.com/macos/big-sur-preview/#footnote-1
ซึ่งการอัปเดต OS ในครั้งนี้ ทาง Apple ได้กล่าวว่าเป็นการ อัปเดตระบบครั้งใหญ่ของ macOS ในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ และได้เพิ่มการพัฒนาฟีเจอร์ต่างๆ ให้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงหน้าการแสดงผล (Interface) ใหม่ ปรับให้ Menu Bar ดูโปร่งแสงและกลืนไปกับหน้า Wallpaper ของผู้ใช้ และปรับรูปแบบของไอคอนให้ดูสะอาดตาและมีมิติกว่าเดิม
ภาพจาก : https://techcrunch.com/2020/08/06/macos-11-0-big-sur-preview/?utm_source=feedburner&utm_medium=feed&utm_campaign=Feed%3A+Techcrunch+%28TechCrunch%29
รวมทั้งได้เพิ่มเมนู Control Center อยู่บริเวณมุมขวาบนของหน้าจอที่สามารถกดเข้าไปเพื่อจัดการการเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth, ปรับแสงหน้าจอ, เสียง หรือฟีเจอร์อื่นๆ ได้ คล้ายกับการใช้งาน Control Center บนระบบ iOS และเพิ่มการปรับแต่ง Notification Center รวมกับหน้า Widget ให้ผู้ใช้สามารถเรียกดูการแจ้งเตือนและสร้าง Shortcut ไปสู่เมนูที่ต้องการได้สะดวกยิ่งขึ้น
ภาพจาก : https://www.apple.com/macos/big-sur-preview/#footnote-1
ปรับหน้าการแสดงผล Safari ใหม่ โดยปรับหน้า Tab ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น, เพิ่ม Privacy Report (รายการการบล็อกเว็บไซต์), อัปเกรดการแปลภาษาบนเว็บไซต์ต่างๆ ได้ถึง 7 ภาษา (อังกฤษ, สเปน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, รัสเซีย, จีน, บราซิลโปรตุเกส), ดาวน์โหลด Extension จาก App Store มาใช้งานบน Safari ได้ และผู้ใช้ยังสามารถเลือกปรับแต่งหน้าแรกของ Browser ได้ เช่น เพิ่ม Shortcut หน้าเว็บไซต์ที่เข้าใช้งานบ่อย หรือปรับแต่ง Backgroud ได้ตามต้องการ
ภาพจาก : https://www.apple.com/macos/big-sur-preview/#footnote-1
เพิ่มการอัปเดตบน Maps เช่น เพิ่มเส้นทางจักรยาน (Cycling Routes), จุดชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle Routing), มุมมองภาพแบบ 3D ในบางพื้นที่ (คล้ายกับ Google Street View) และเพิ่มแผนที่ภายในอาคาร (Indoor Maps) เข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย
ภาพจาก : https://www.apple.com/macos/big-sur-preview/#footnote-1
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ทาง Apple ได้เพิ่มเข้ามาใน macOS Big Sur อีกมากมาย (สามารถเข้าไปดูรายละเอียดฟีเจอร์ทั้งหมดได้ที่ https://www.apple.com/macos/big-sur-preview/features/)
แต่ในตอนนี้มันก็ยังเป็นเพียงแค่เวอร์ชัน Beta เท่านั้น จึงแนะนำให้ผู้ที่สนใจจะทดลองใช้ทุกคน Backup ข้อมูลสำคัญๆ ก่อนที่จะทำการอัปเดต Big Sur มาทดลองใช้ เพราะมันอาจมี Bug หลงเหลืออยู่บ้าง และอาจสร้างความเสียหายให้กับไฟล์งานหรือข้อมูลสำคัญในเครื่องได้ หรือเลือกปล่อยผ่านไปก่อนและรออัปเดตเวอร์ชันเต็มที่น่าจะปล่อยตามมาในเร็วๆ นี้แทนน่าจะดีกว่า
ภาพจาก : https://www.theverge.com/21314621/macos-11-big-sur-public-beta-how-to-install
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนอัปเดตได้ที่ https://beta.apple.com/sp/betaprogram/enroll#macos (ส่วนผู้ที่ยังไม่เคยลงทะเบียนใช้งาน Beta Program ก็ต้องเข้าไปลงทะเบียนก่อนในลิงก์ข้างต้นได้เช่นกัน โดยหลังจากล็อกอิน Apple ID แล้วให้กดเลือกที่ Enroll Your Devices เพื่อเปิดการใช้งาน) จากนั้นกดไปที่ “macOS” เลือก “Download the macOS Public Beta Access Utility” และไปที่ “System Preference > Software Update” จากนั้นกดดาวน์โหลด (ไฟล์มีขนาดราว 12.3GB ดังนั้นก่อนที่จะทำการดาวน์โหลดก็ควรเคลียร์พื้นที่ภายในเครื่องให้มีพื้นที่ว่างอย่างน้อย 20GB ขึ้นไป)
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |