Apple ผลิต iPhone รุ่นพิเศษ ท้า Hacker ตามล่าหา Bug รับรางวัลสูงสุด $1 ล้าน !

อย่างที่ทราบกันดีว่า Apple ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้เป็นอย่างมากจนถึงขนาดสร้างซอฟต์แวร์ของตนเองขึ้นมาโดยเฉพาะและไม่พ่วงใช้กับระบบอื่น จึงทำให้อุปกรณ์ Apple นั้นติดไวรัสได้ยากกว่าอุปกรณ์ของค่ายอื่นๆ ทั้งหมด

และเมื่อปีที่ผ่านมา Ivan Krstic ผู้บริหารฝ่ายความปลอดภัยของ Apple ก็ได้ออกมาประกาศว่าจะจัดตั้งโปรแกรม iOS Security Research Device (SRD) ขึ้นมาเพื่อพัฒนาความปลอดภัยให้กับผู้ใช้ และได้มอบ iPhone “รุ่นพิเศษ” ให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโปรแกรมนี้ในการวิเคราะห์หา Bug และรายงานกลับมาให้ทางบริษัทดำเนินการแก้ไข

สำหรับเครื่อง SRD Phone (iPhone รุ่นพิเศษที่ใช้ในโปรแกรม SRD) นี้จะใช้งานซอฟต์แวร์ iOS ที่มีความพิเศษซึ่งจะสามารถเข้าถึงและใช้งานฟีเจอร์ที่มากกว่า iPhone ปกติ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึง SSH (Network Protocol ที่ใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างเครื่อง), Root Shell ในการรันคำสั่งเฉพาะ หรือเครื่องมือในการ Debug ปัญหาต่างๆ เป็นต้น

ภาพจาก : https://developer.apple.com/programs/security-research-device/?=tuesday-july-21-2020

หากในระหว่างทำการวิจัยมีการพบข้อผิดพลาดเกิดขึ้นก็จะต้องรายงานมายังบริษัท Apple หรือบริษัท 3rd Party (หากพบข้อผิดพลาดภายในโค้ดของบริษัทภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับ Apple) จากนั้นทางบริษัทจะแจ้งวันเผยแพร่ (วันที่ Apple เพิ่มการอัปเดตปัญหาที่พบ) จากนั้นจะดำเนินการแก้ไขข้อผิดพลาดโดยเร็วที่สุด แต่จะไม่อนุญาตให้พูดคุยเรื่องปัญหาที่พบกับบุคคลอื่นๆ จนกว่าจะถึงกำหนดวันเผยแพร่ที่ทาง Apple ระบุ

ทาง Apple ระบุว่าผู้ที่ต้องการทดสอบ SRD Phone จะติดสัญญากับทางบริษัทเป็นเวลา 12 เดือน โดยที่จะต้องใช้งาน SRD Phone เพื่อการศึกษาวิจัยด้านความปลอดภัยเท่านั้น เพราะมันไม่ได้ออกแบบมาเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้งาน รวมทั้งห้ามมิให้นำออกไปใช้งานนอกห้องวิจัยด้วยเช่นกัน

สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมโปรแกรม SRD นี้จะต้องเป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ที่ไม่เป็น (หรือเคยเป็น) พนักงานของ Apple ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา รวมทั้งจะต้องเป็นสมาชิกและผู้ถือบัญชีของ Apple Developer Program ที่มีประวัติเกี่ยวกับการทดสอบความปลอดภัยภายในแพลทฟอร์มของ Apple หรือระบบปฏิบัติการอื่นๆ ที่มีความน่าเชื่อถือมากพอ และต้องเป็นผู้ถือสัญชาติของประเทศใดประเทศหนึ่งตามที่บริษัทระบุไว้ (ออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, สาธารณะรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮังการี, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, สเปน, สวีเดน, สวิสเซอแลนด์, สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา) เท่านั้น

ในส่วนของค่าตอบแทนหรือรางวัลที่จะได้รับในการพบ Bug นั้นทางบริษัทไม่ได้ระบุชัด แต่คาดว่าอาจจะได้รับเงินสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 31 ล้านบาท) เมื่อดูจากรางวัลที่ทาง Apple ได้กล่าวว่าจะมอบให้ในโปรแกรม macOS Bug Bounty (โปรแกรมหา Bug ใน macOS) เมื่อปีที่ผ่านมานี้

ภาพจาก : https://www.macworld.com/article/3336050/3-ways-to-improve-apple-bug-bounty-program.html