แน่นอนว่าประชาชนเกือบทั่วโลกในวันนี้ตระหนักเหมือนกันเป็นอย่างดีว่า ต้องใส่หน้ากากเวลาอยู่ในที่สาธารณะ ยิ่งช่วงนี้การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาอีกครั้ง ยิ่งต้องไม่ลืมที่จะใส่หน้ากาก แต่อย่างที่เราทราบกันดีว่าในหลายประเทศ ก็มีประชาชนที่มีแนวคิดการใส่หน้ากากที่ต่างกันออกไป
ภาพถ่ายโดย Eugene Hoshiko
อย่างเช่นในสหรัฐอเมริกาที่ตอนนี้บนโซเชียลเน็ตเวิร์กมีการก่อตั้งเพจใน Facebook ใช้ชื่อว่า "Unmasking America!" หรือแปลไทยตรงตัวว่า "อเมริกาไม่สวมหน้ากาก" ที่พยายามรณรงค์ให้คนในอเมริกาเลิกสวมใส่หน้ากากออกจากบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าเป็นความคิดที่ผิดแปลกแหวกแนวไปจากคนส่วนใหญ่อยู่มาก
แต่ประเด็นคือกลุ่มนี้มีสมาชิกมากกว่า 9,600 ราย ซึ่งมีการระบุข้อความใน described เพจว่า "ความจริงเกี่ยวกับการใส่หน้ากาก" และมักโพสต์ ในเชิงการให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับการสวมใส่หน้ากาก เช่น การใส่หน้ากากส่งผลกระทบต่อออกซิเจนในระบบทางเดินหายใจ หรือส่งผลกระทบทางจิตวิทยาต่อใครหลายคน
" การใส่หน้ากาก เป็นแค่สิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตวิทยา ไม่ช่วยอะไร แล้วยังเป็นการบังคับ กดขี่ให้คนต้องใส่เหมือนกัน ตามความเชื่อของคนหมู่มาก ถ้าใส่หน้ากาก มันแปลว่าคุณต้องการประกาศให้คนอื่นรู้ว่า มนุษย์ทุกคนคือผู้ติดเชื้อ และเป็นอันตราย ที่คุกคามคุณเท่านั้น"
ข้อความข้างต้น คือหนึ่งในโพสต์จากเพจ "Unmasking America!" ตามการรายงานของ The Verge ซึ่งนอกจากจะมีกลุ่มนี้แล้ว หากค้นหาในเฟซบุ๊คว่า Unmasking จะพบว่ามีกลุ่มลักษณะเดียวกันอยู่มากมายเลยทีเดียว และแต่ละกลุ่มมีสมาชิกไม่ต่ำกว่า 1,000 คน ซึ่งทุกกลุ่มล้วนเป็นกลุ่มปิด เช่นกลุ่ม 'Million Unmasked Macrch' ที่มีสมาชิก 7,800 คน พวกเขารวมตัวกันในฐานะพ่อแม่ พี่น้อง ลุง ป้า น้า อา ที่พยายามเรียกร้องให้ยกเลิกการใส่หน้ากากในโรงเรียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเด็ก (ก็พอจะเข้าอกเข้าใจส่วนหนึ่งสำหรับกลุ่มนี้)
แต่หลายกลุ่มก็มีการโพสต์ข้อมูลที่ผิดๆ ขัดต่อทางการแพทย์ และกรมควบคุมเชื้อไวรัสอยู่ เบื้องต้นเฟซบุ๊คจึงได้ลบออกไปบางส่วนเช่น Unmasked America ที่มีสมาชิก 9,600 ขณะที่กลุ่มอื่นยังมีการพิจารณาด้านเนื้อหาต่อไป ซึ่งตามกฎของ Facebook หากมีการตั้งกลุ่มที่ปั่นข้อมูลเท็จลงในแพลตฟอร์ม ส่วนมากเฟซบุ๊กจะปิดลดการมองเห็นเพื่อลดจำนวนการเติบโตของผู้เข้าร่วม
อย่างไรก็ตามจากสถิติที่เชื่อถือได้ในวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 (ค.ศ. 2020) พบว่าตอนนี้ในสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงเป็น 3,895,803 รายและมีผู้เสียชีวิต 143,032 รายเป็นอันดับ 1 ของโลกและนำโด่งอันดับ 2 อย่างบราซิลไปแล้ว ซึ่งถ้ายังมีการรณรงค์เรื่องแบบนี้ต่อไป อาจจะเลวร้ายไปกว่านี้ก็ได้นะ
|
งานเขียนคืออาหาร ปลายปากกา ก็คือปลายตะหลิว |