ช่วงหลังมานี้ทาง YouTube ได้เพิ่มช่องทางการขยายรายได้ให้กับ YouTube Creator มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการโษษณา, สมัครสมาชิกรายเดือน (Channel Membershipp Subscription), การสนับสนุนเงินผ่าน Live Stream (Super Chat, Super Sticker), และรายได้จากทาง YouTube Premium ซึ่งทางบริษัทก็ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่จะช่วยให้ YouTube Creator ได้สามารถตรวจสอบข้อมูลการรับเงินได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
โดยฟีเจอร์นี้มีชื่อว่า RPM (Revenue Per Mille) หรือรายได้ที่ Creator จะได้รับต่อการเข้าชมคลิปทุกๆ 1 พันครั้ง ซึ่งจะมีความต่างจาก CPM (Cost Per Mille) ตรงที่ CPM นั้นจะนับสัดส่วนรายได้เฉพาะจากการชมโฆษณาและยอดการเข้าชมจาก YouTube Premium ที่ไม่มีโฆษณาร่วมด้วย ทุกๆ 1 พันครั้งก่อนที่ทาง YouTube จะหักส่วนแบ่งรายได้ออกไป
ในขณะที่ RPM จะแสดงรายได้หลักจากหักส่วนแบ่งออกไปแล้ว และนับยอดการเข้าชมในทุกรูปแบบ ทั้งยอดการชมผ่านโฆษณา, YouTube Premium รวมถึงรายได้จาก Membership, Super Chat และ Super Sticker (ผ่านการ Live Stream) ทั้งหมดด้วย
Creators: You can now see how much 💸 you make on YouTube relative to views you receive w/ RPM in YouTube Analytics.
— TeamYouTube (@TeamYouTube) July 9, 2020
RPM = total revenue earned per 1,000 views
Use it to track revenue performance & make more informed monetization strategy decisions → https://t.co/fxtdmawpJP pic.twitter.com/oSF81ITKgv
RPM (Revenue Per Mille) | CPM (Cost Per Mille) |
• เน้นรายได้ที่ Creator ได้รับ | • เน้นรายได้จากการโฆษณา |
นอกจากนี้ YouTube ยังได้ปรับช่วงเวลาการโฆษณากลางคลิปให้ถี่มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ตั้งเอาไว้ที่ 10 นาที ปรับลดลงเหลือ 8 นาที ทำให้ YouTube Creator สามารถได้รับรายได้ในส่วนนี้เพิ่มมากขึ้นได้อีก
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |