แคนนอน ยกทัพผลิตภัณฑ์ล่าสุดบุกตลาดกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม เปิดตัวกล้องใหม่พร้อมกันถึง 2 รุ่น คือ EOS R5 และ EOS R6 มาพร้อมฟังก์ชันการถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงสุดถึง 8K ระบบออโต้โฟกัสที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบบป้องกันภาพสั่นในตัวกล้อง ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 20 ภาพต่อวินาที พร้อมด้วยเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM เลนส์ไพรม์ 3 รุ่น คือ RF85mm f/2 IS STM, RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM รวมถึงอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x เจาะกลุ่มนักถ่ายภาพสมัครเล่นระดับจริงจังไปจนถึงระดับมืออาชีพ
บทความเกี่ยวกับ Canon อื่นๆ
กล้องทั้งสองรุ่นมีขนาดกะทัดรัด ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยพร้อมซีลกันหยดน้ำและฝุ่น น้ำหนักเบา ทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างบนตัวกล้อง โดย EOS R5 มีจอแอลซีดี ส่วน EOS R6 มีแป้นปรับโหมด และทั้งสองรุ่นมีแป้นปุ่ม Multi-Controller และ Quick Control เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเลือกจุดโฟกัสและปรับตั้งค่าต่างๆ
Canon EOS R5
EOS R5 ที่สุดแห่งกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมตัวใหม่ มาพร้อมคุณสมบัติที่เหนือชั้นด้วยการถ่ายวิดีโอความละเอียดระดับ 8K ครั้งแรกในกล้องถ่ายภาพจากแคนนอน กับระบบโฟกัสติดตามดวงตาสัตว์ใหม่ล่าสุด และระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องอันทรงพลังสูงสุดถึง 8 สต็อป เสริมประสิทธิภาพร่วมกับเลนส์ RF เมื่อถ่ายภาพนิ่งและบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงตลอดทั้งภาพ เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดของกล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมรุ่นเรือธงจากแคนนอน
คุณสมบัติเด่น:
- เซ็นเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรม ความละเอียด 45 ล้านพิกเซล และระบบประมวลผล DIGIC X
- พร้อมรองรับการใช้งานร่วมกับเลนส์ RF ทุกรุ่น
- ระบบกันสั่นไหวในตัว (In-Body Image Stabilizer) และระบบกันสั่นไหวแบบออปติคอล (Optical Image Stabilizer) สูงสุด 8 สต็อป
- ระบบออโต้โฟกัสครอบคลุมเฟรมภาพสูงสุดถึง 100% พร้อมระบบโฟกัสติดตามดวงตาสัตว์ (Animal Detection AF)ฃ
- บันทึกวิดีโอระดับ 8K DCI และระดับ 4K DCI ได้120 เฟรมต่อวินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 20 เฟรมต่อวินาที พร้อมระบบติดตาม AF/AE โดยทำงานโฟกัสและวัดแสงไปพร้อมกัน
- บันทึกภาพแบบ HDR PQ HEIF 10-bit ช่วยให้ได้รายละเอียดของสีสันและแสงเงามากกว่าในรูปแบบ JPEG ทั่วไป
- มีช่วง ISO ตั้งแต่ 100 – 51,200 (ขยายได้เป็น ISO 50 – 102,400) และโฟกัสได้ในที่แสงน้อยถึงระดับ EV-6
- ช่องใส่การ์ดแบบคู่ (Dual Card Slots) รองรับ CFexpress (Type B) และ SD card, SDHC, SDXC (รองรับ UHS-II)
- รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทั้งการเก็บข้อมูลบนคลาวด์อย่าง image.canon ใช้งานร่วมกับบริการฝากไฟล์อื่นๆ อย่าง Google Drive, YouTube และ Adobe Creative Cloud ได้ รองรับ Wi-Fi 5GHz และ 2.4GHz เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ รวมถึงการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP และยังสามารถใช้ร่วมกับอุปกรณ์ส่งข้อมูลไร้สาย WFT-R10 และ Bluetooth ร่วมกับแอปพลิเคชัน Camera Connect เพื่อการแท็กสถานที่ในภาพและการควบคุมกล้องจากระยะไกล
- กลไกชัตเตอร์ถูกออกแบบให้ใช้งานได้ถึง 500,000 ครั้ง
- ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรงทนทาน แต่น้ำหนักเบา พร้อมซีลกันฝุ่นและละอองน้ำไม่ให้เข้าสู่ตัวกล้อง
- แบตเตอรี่รุ่นใหม่ LP-E6NH มีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 2130 mAh และยังใช้ร่วมกับแบตเตอรี่กริปรุ่น BG-R10 ที่มีช่องแบตเตอรี่ 2 ช่อง ช่วยในการถ่ายภาพแนวตั้ง
- ปุ่ม Multi-Controller ปรับความไวได้ถึง 3 ระดับ และมีมาถึง 3 ตำแหน่ง (แผงหลัก 1 ตำแหน่ง และแผง Quick Control 2 ตำแหน่ง)
- ช่องมองภาพ EVF ความละเอียดสูง 5.76 ล้านจุด ให้ความสว่างและภาพที่ชัดเจน แม้ใช้ค่ารูรับแสง f/22 ช่วยในการถ่ายภาพระยะไกลระดับ Ultra-Telephoto
สุดยอดประสิทธิภาพการบันทึกวิดีโอ
- บันทึกช่วงเวลาสำคัญในชีวิตด้วยคุณภาพระดับ 8K RAW/DCI โดยไม่ครอปภาพ ด้วยประสิทธิภาพการใช้ช่วงความกว้างทั้งหมดของเซ็นเซอร์
- ให้ความละเอียดภาพที่มากกว่าวิดีโอ 4K ถึง 4 เท่า ยังทำให้ภาพมีรายละเอียดและมีความเสมือนจริงมากขึ้น โดยยังคงคุณภาพความละเอียดของวิดีโอเมื่อนำไปตัดต่อหรือปรับแต่งภาพ
- สามารถเลือกภาพนิ่งด้วยความละเอียดสูงถึง 35.4 ล้านพิกเซล จากวิดีโอระดับ 8K DCI ที่ 30p ซึ่งภาพที่ได้จะมีคุณภาพเทียบเท่าภาพที่ได้จากการถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่อง 30 เฟรมต่อวินาที
- รองรับการถ่ายภาพสโลว์โมชันได้ระดับ 4K (4K High Frame Rate Video) ความเร็วสูง 120p/100p (NTSC/PAL) พร้อมความละเอียดที่น่าทึ่งในระดับ 4K DCI/UHD
- เพิ่มไดนามิคเรนจ์ให้ภาพวิดีโอของคุณได้ถึง 12 สต็อป ด้วย Canon Log ที่เดิมมีเฉพาะในกล้องถ่ายภาพยนตร์ตระกูล Cinema EOS เท่านั้น ช่วยให้ควบคุมการให้แสงเงา ไฮไลต์ และความเข้มข้นของสีสันในขั้นตอนการปรับแต่งภาพได้มากขึ้น เพื่อให้ได้ภาพวิดีโอที่มีสีสันสดชัด เก็บรายละเอียดได้ดี แม้ในสภาพที่มีคอนทราสต์สูง
- HDR PQ ช่วยให้วิดีโอมีความสว่าง ช่วงสี และคอนทราสต์ที่กว้างและละเอียดมากขึ้น
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนในตัวกล้อง ช่วยแก้ไขความเบลอของภาพที่เกิดจากการสั่นของกล้อง ทำให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้นแม้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ และระบบนี้ยังทำงานร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัลในเลนส์ ให้ความมั่งคงเทียบเท่าการใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงขึ้นถึง 8 สต็อป
- Movie digital IS ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับวิดีโอ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความเบลอและการสั่นของภาพวิดีโอ แม้ถือกล้องเดินถ่ายภาพ
Canon EOS R6
ถ่ายภาพในที่มืดได้อย่างมั่นใจด้วย EOS R6 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรม ตามแนวคิดการปฏิวัติวงการกล้องด้วยเลนส์ RF ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวกล้องสูงสุดถึง 8 สต็อป ความไวแสงสูงสุดถึง ISO 102400 และออโต้โฟกัสในที่แสงน้อยได้ถึง EV-6.5 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการถ่ายภาพในที่ที่มีแสงน้อย
คุณสมบัติเด่น:
- เซ็นเซอร์ CMOS แบบฟูลเฟรม ความละเอียด 20.1 ล้านพิกเซลที่ปรับปรุงประสิทธิภาพขึ้นจากกล้อง DSLR รุ่นเรือธงอย่าง EOS-1D X Mark III
- ระบบประมวลผล DIGIC X ประมวลผลข้อมูลด้วยความเร็วสูงเพื่อการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว การโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำ
- ระบบกันสั่นไหวในตัว (In-Body Image Stabilizer) และระบบกันสั่นไหวแบบออปติคอล (Optical Image Stabilizer) สูงสุด 8 สต็อป
- ประสิทธิภาพการถ่ายภาพในที่แสงน้อยถึง EV -6.5 และ ISO 102400
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 20 ภาพต่อวินาที พร้อมระบบโฟกัสติดตามดวงตาสัตว์ (Animal Detection AF)
- บันทึกภาพได้อย่างสมจริงในรูปแบบ HDR PQ ที่ให้ไดนามิกเรนจ์มากขึ้นและไล่เรียงสีสันได้มากกว่าภาพ JPEG ทั่วไปถึง 4 เท่า โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการปรับแต่งภาพ
- ระบบโฟกัสปรับปรุงใหม่ Dual Pixel CMOS AF II ทำให้กล้องสามารถโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำสูง รวมถึงสามารถติดตามตัวแบบได้ถึง 100% × 100% ของพื้นที่ภาพ ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- ระบบโฟกัสติดตามดวงตา ใบหน้า และร่างกายของสัตว์อย่างแมว สุนัข รวมถึงนก
สุดยอดประสิทธิภาพการบันทึกวิดีโอ
- บันทึกวิดีโอคุณภาพระดับ 4K UHD 60p (NTSC)/50p (PAL) โดยไม่ครอปภาพ ทำให้ได้ความละเอียดภาพที่มากกว่าวิดีโอ Full HD ถึง 4 เท่า และเทคโนโลยีการประมวลผลภาพจากกล้องแคนนอนในตระกูล Cinema EOS คุณจึงได้ภาพวิดีโอระดับ 4K UHD ที่มีสีสันสดชัดและเสมือนจริง
- เปลี่ยนวิดีโอระดับ 8K เป็นภาพนิ่ง (8K Frame Grab) และการบันทึกวิดีโอแบบ Time-Lapse
- สามารถเลือกภาพนิ่งความละเอียดสูงถึง 8.3 ล้านพิกเซล จากวิดีโอระดับ 4K ได้ทันที
- รองรับการส่งข้อมูลวิดีโอในรูปแบบ 4K UHD ผ่านการเชื่อมต่อ HDMI เพื่อรับชมในเครื่องบันทึกภาพภายนอกหรือ HDR TV.
- Canon Log ช่วยเพิ่มไดนามิคเรนจ์ให้ภาพวิดีโอของคุณได้ถึง 12 สต็อป เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการทำงานหลังการถ่ายทำของผู้ใช้กล้องระดับมืออาชีพ จึงสามารถควบคุมการให้แสงเงา ไฮไลต์ และความเข้มข้นของสีสันในขั้นตอนการปรับแต่งภาพได้ดีขึ้น
- บันทึกวิดีโอ HDR ให้สมจริงเหมือนเห็นด้วยตา โดยไม่ต้องทำการเกรดสี ช่วยลดขั้นตอนการทำงานหลังการถ่ายทำภาพวิดีโอแบบ HDR PQ
ระบบกันสั่นอันทรงพลัง
- ระบบกันสั่นไหวในตัว (In-Body Image Stabilizer) ร่วมกัล ระบบกันสั่นไหวแบบออปติคอล (Optical Image Stabilizer)
- ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกนในตัวกล้องช่วยแก้ไขความเบลอของภาพที่เกิดจากการสั่นของกล้อง ทำให้ภาพมีความคมชัดมากขึ้นแม้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ
- Movie digital IS ระบบป้องกันภาพสั่นไหวสำหรับวิดีโอ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความเบลอและการสั่นของภาพวิดีโอ แม้ถือกล้องเดินถ่ายภาพ
- รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ทั้งการเก็บข้อมูลบนคลาวด์ด้วย Image.canon, Google Drive, YouTube และ Adobe Creative Cloud
- เชื่อมต่อ Wi-Fi 2.4GHz เพื่อการถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วสูงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ รวมถึงการส่งข้อมูลไปยังเซิร์ฟเวอร์ FTP
- เชื่อมต่อ Bluetooth พลังงานต่ำ (Bluetooth Low Energy: BLE) ร่วมกับแอปพลิเคชัน Camera Connect ของแคนนอน เพื่อการแท็กสถานที่ในภาพและการควบคุมกล้องจากระยะไกล
- รองรับ SD card ถึง 2 ช่องด้วยกัน (SD, SDHC, SDXC (รองรับ UHS-II))
- กลไกชัตเตอร์ถูกออกแบบให้ใช้งานได้ถึง 500,000 ครั้ง
- ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา พร้อมซีลกันฝุ่นและละอองน้ำ
- ใช่แบตเตอรี่ LP-E6NH มีความจุ 2130 mAh และยังใช้ร่วมกับแบตเตอรี่กริปรุ่น BG-R10 ที่มีช่องแบตเตอรี่ 2 ช่อง ช่วยในการถ่ายภาพแนวตั้ง
- ปุ่ม Multi-Controller ปรับความไวได้ถึง 3 ระดับ และมีมาถึง 3 ตำแหน่ง (แผงหลัก 1 ตำแหน่ง และแผง Quick Control 2 ตำแหน่ง)
- ช่องมองภาพ EVF ความละเอียดสูง 3.69 ล้านจุด ให้ความสว่างและภาพที่ชัดเจน แม้ใช้ค่ารูรับแสง f/22 ช่วยในการถ่ายภาพระยะไกลระดับ Ultra-Telephoto
เลนส์ใหม่ Canon EOS RF
RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ใช้ชิ้นเลนส์ UD 6 ชิ้น และเลนส์ Super UD 1 ชิ้นที่จัดเรียงอยู่ใกล้กับระนาบโฟกัส ทุกชิ้นเลนส์เคลือบด้วย ASC (Air Sphere Coating) ลดการเกิดภาพหลอก (ghosting) แก้ไขความคลาดเคลื่อนของภาพ และให้ความคมชัดจนถึงขอบภาพตลอดทั้งช่วงทางยาวโฟกัส มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล สูงสุด 5 สต็อป และมีสวิตช์ปรับโหมดระบบกันสั่นให้เลือก 3 โหมด สำหรับการถ่ายภาพสิ่งที่อยู่นิ่ง การถ่ายภาพที่มีการแพนกล้อง และการถ่ายภาพการเคลื่อนไหวที่ไม่แน่นอน เช่น การแข่งขันกีฬาต่างๆ เมื่อใช้เลนส์นี้กับกล้อง EOS R5 และ EOS R6 ที่มีระบบกันสั่นแบบ 5 แกนในตัวกล้อง จะช่วยลดการสั่นของภาพได้ถึง 6 สต็อปที่ทางยาวโฟกัส 500 มม. ผู้ใช้จึงสามารถถ่ายภาพด้วยความเร็วชัตเตอร์ต่ำในที่แสงน้อยเพื่อให้ได้ภาพที่สว่างขึ้น
RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM ยังสามารถโฟกัสได้ที่ระยะเพียง 0.9 เมตรจากตัวแบบ พร้อมกำลังขยาย 0.33 เท่า ที่ทางยาวโฟกัส 500 มม. (ระยะโฟกัส 1.2 เมตร) จึงถ่ายภาพโคลสอัพได้อย่างง่ายดาย มอเตอร์ USM (Nano Ultrasonic Motors) 2 ตัว ช่วยให้การโฟกัสอัตโนมัติเร็วขึ้น ทำงานร่วมกับ Dual Pixel CMOS AF ในกล้องตระกูล EOS R เพื่อการโฟกัสภาพนิ่งอย่างรวดเร็วและแม่นยำ และการถ่ายวิดีโอได้อย่างราบรื่น ทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน และให้ความรวดเร็วในการทำงาน โครงสร้างเลนส์ป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ เคลือบสีขาวเพื่อป้องกันความร้อนและคงคุณภาพของภาพถ่ายแม้ถ่ายภาพกลางแจ้ง
แคนนอนยังจัดเต็มด้วยเลนส์ไพรม์ใหม่อีก 3 รุ่น ได้แก่ RF85mm f/2 IS STM, RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM โดย RF85mm f/2 IS STM เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลและมาโคร ส่วน RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM เป็นเลนส์รุ่นประหยัดสำหรับการซูมระยะไกลด้วยทางยาวโฟกัสถึง 600 มม. และ 800 มม. ตามลำดับ
RF85mm f/2 IS STM มาพร้อมทางยาวโฟกัส 85 มม. ที่เหมาะกับการถ่ายภาพบุคคล รูรับแสงขนาดใหญ่ที่ระดับ f/2 ให้โบเก้ที่สวยงามและสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อย พร้อมฟังก์ชันการถ่ายภาพมาโครและระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบไฮบริด ระยะถ่ายภาพต่ำสุดที่ 0.35 เมตร และกำลังขยาย 0.5 เท่า RF85mm f/2 IS STM จึงเหมาะสำหรับช่างภาพงานแต่งงานที่ต้องการเลนส์สำหรับถ่ายภาพบุคคลรวมไปถึงรายละเอียดของแหวนหรือการตกแต่งที่มีขนาดเล็ก และเมื่อใช้ร่วมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวในกล้อง EOS R5 จะลดการสั่นได้ถึง 8 สต็อป จึงเพิ่มความคล่องตัวในการถ่ายภาพโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง
RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM ลบภาพจำที่ว่าเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้มีราคาแพง ขนาดใหญ่และหนัก โดยมาพร้อมราคาที่เข้าถึงได้ ขนาดกะทัดรัด และน้ำหนักเบา เพื่อช่วยในการพัฒนาฝีมือของนักถ่ายภาพรุ่นใหม่ ทั้งสองรุ่นทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพ DIGIC X และเซ็นเซอร์ CMOS ในกล้องตระกูล EOS R เพื่อให้ภาพถ่ายคุณภาพสูงแม้ใช้ ISO สูง ด้านหน้าเลนส์ใช้ชิ้นเลนส์ DO (Diffractive Optical) เพียงชิ้นเดียวแทนการใช้ชิ้นเลนส์หลายชิ้น ช่วยให้เลนส์มีน้ำหนักเบาลง ให้ภาพถ่ายคุณภาพสูง และลดความคลาดเคลื่อนของสี มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล สูงสุด 5 สต็อปในรุ่น RF600mm f/11 IS STM และ 4 สต็อปในรุ่น RF800mm f/11 IS STM ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมโฟกัส
โครงสร้างหลักของเลนส์ทำจากพลาสติกทนทานสูงแต่น้ำหนักเบา ส่วนเมาท์เลนส์และวงแหวนขาตั้งทำจากโลหะเพื่อความแข็งแรงทนทาน ค่ารูรับแสงคงที่ที่ f/11 ในเลนส์ทั้ง 2 รุ่นยังช่วยให้เลนส์เบาลง จึงถือจับได้สะดวก นอกจากนี้เลนส์ทั้งสองรุ่นสามารถยืดออกขณะถ่ายภาพและย่อให้สั้นลงด้วยการหมุนวงแหวนล็อกบนเมาท์เลนส์ เพื่อความสะดวกในการพกพาโดยไม่ต้องใช้กระเป๋าใส่เลนส์โดยเฉพาะ
โดย RF600mm f/11 IS STM เบากว่า EF600mm f/4L IS III USM ถึง 30% ส่วน RF800mm f/11 IS STM เบากว่า EF800mm f/5.6L IS USM ถึง 28% และเมื่อย่อขนาดเลนส์แล้ว RF600mm f/11 IS STM จะสั้นกว่า EF600mm f/4L IS III USM ถึง 45% และ RF800mm f/11 IS STM จะสั้นกว่า EF800mm f/5.6L IS USM ถึง 61%
นอกจากนี้ แคนนอนยังเปิดตัวอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ใหม่ 2 รุ่น คือ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x ที่ใช้ร่วมกับเลนส์ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM, RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM ช่วยขยายทางยาวโฟกัสได้อีก 1.4 เท่า และ 2 เท่า ตามลำดับ โดยไม่ลดคุณภาพของภาพถ่าย
อุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ทั้ง 2 รุ่นมีขนาดกะทัดรัดและให้ภาพถ่ายคุณภาพสูง การใช้เมาท์ RF ยังช่วยลดความยาวของอุปกรณ์ลงถึง 25% เมื่อเทียบกับ Extender EF 1.4xIII และ Extender EF 2xIII อีกทั้งใช้วัสดุแก้วที่ช่วยลดความคลาดเคลื่อนของสี ชิ้นเลนส์เคลือบพิเศษติดกัน 3 ชิ้น ช่วยลดการสัมผัสอากาศเพื่อลดการเกิดภาพหลอก (ghosting) ทั้ง 2 รุ่นเคลือบสีขาวป้องกันความร้อน มีไมโครโปรเซสเซอร์ในตัวที่ช่วยในสื่อสารระหว่างเลนส์กับกล้องเพื่อการโฟกัสที่แม่นยำ โครงสร้างทนต่อแรงสั่นและการกระแทก พร้อมป้องกันฝุ่นและหยดน้ำ เพื่อความทนทานและไว้ใจได้ในการใช้งาน
ราคาและวันวางจำหน่าย
Canon EOS R5, EOS R6, เลนส์ไพรม์ 3 รุ่น คือ RF85mm f/2 IS STM, RF600mm f/11 IS STM และ RF800mm f/11 IS STM รวมถึงอุปกรณ์ขยายระยะเลนส์ Extender RF 1.4x และ Extender RF 2x จะประกาศราคาวางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ส่วนเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ RF100-500mm f/4.5-7.1L IS USM จะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม 2563
สามารถดูข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
- กล้อง EOS R5 : https://snapshot.canon-asia.com/article/en/full-frame-mirrorless-eos-r5
- กล้อง EOS R6 : https://snapshot.canon-asia.com/article/en/full-frame-mirrorless-eos-r6