ด้วยความที่ไฟล์วิดีโอมันมีขนาดใหญ่มาก ทำให้มีการพัฒนาวิธีเข้ารหัสเพื่อบีบอัดไฟล์วิดีโอให้มีขนาดเล็กลง เพื่อให้การใช้งานมีความสะดวกมากขึ้น ไฟล์วิดีโอที่เราถ่ายด้วยสมาร์ทโฟน หรือกล้องดิจิทัล วิดีโอที่เราชมผ่าน YouTube, Netflix แม้แต่ที่เราสตรีมเกม วิดีโอที่เราเห็นล้วนแต่ผ่านการเข้ารหัสเพื่อบีบอัดทั้งสิ้น โดยที่นิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ คือ H.264 Advanced Video Coding (AVC) และ H.265 High-Efficiency Video Coding (HEVC)
ล่าสุด Fraunhofer บริษัทในเยอรมนี ที่ในอดีตเคยมีส่วนในการพัฒนา H.264, H.265 และ MP3 ได้ประกาศเปิดตัวมาตรฐานการเข้ารหัสวิดีโอใหม่ที่สามารถบีบอัดข้อมูลได้สูงยิ่งกว่าเดิมในชื่อ H.266 Versatile Video Coding (VVC)
H.266 VVC ออกแบบเพื่อลดขนาดข้อมูลที่ต้องใช้ในการสตรีมวิดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K และ 8K โดยเฉพาะ โดยทาง Fraunhofer ระบุว่ามาตรฐานใหม่นี้จะใช้ปริมาณข้อมูลน้อยกว่าเดิมถึงประมาณ 50% เมื่อเทียบกับ H.265 HEVC โดยที่คุณภาพยังคงเหมือนเดิม ที่สำคัญมาตรฐานใหม่นี้จะไม่มีปัญหาเรื่องสิทธิบัตรด้วย
ยกตัวอย่างวิดีโอ 4K ความยาว 10 นาที H.265/HEVC จำเป็นต้องใช้ปริมาณข้อมูลอยู่ที่ 10 Gigabytes แต่หากเป็น H.266/VVC จะต้องการแค่ 5 Gigabytes เท่านั้น แถมยังรองรับการทำงานร่วมกับวิดีโอ 360 องศาอีกด้วย
ความจริง H.265 HEVC เปิดตัวตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 (พ.ศ. 2556) แต่ส่วนใหญ่ก็ยังนิยมใช้ H.264 AVC กันอยู่เพราะปัญหาข้อพิพาทระหว่างสิทธิบัตรกันนี่แหละ
ขณะที่มาตรฐานใหม่อย่าง H.266 VVC ทาง Fraunhofer ได้ร่วมมือพัฒนาร่วมกับพันธมิตร ทั้ง Apple, Ericsson, Intel, Huawei, Microsoft, Qualcomm และ Sony คุ้มครองลิขสิทธิ์การใช้โดย Media Coding Industry Forum (MC-IF) กลุ่มพันธมิตรที่มี 34 บริษัทเข้าร่วม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำรอยเดิม
ยังไม่มีการยืนยันว่า AV1, AVC, HEVC และ VVC จะทำงานร่วมกันหรือไม่ในอนาคต แต่ที่แน่ๆ Apple, Sony และบริษัทอื่นๆ กำลังพัฒนาชิปที่รองรับ VVC ในระดับฮาร์ดแวร์แล้ว และซอฟต์แวร์สำหรับ Encoder และ Decoder H.266/VVC จะปล่อยออกมาในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |