เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง Twitter ได้ปล่อยฟีเจอร์ Audio Tweet หรือการทวีตด้วยเสียงออกมาให้ผู้ใช้ iOS บางส่วนได้ทดลองใช้งานกันก็มีกระแสตอบรับในทางลบออกมาว่ามัน ไม่เหมาะกับผู้ใช้งานทุกคน และเป็นการปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาและการแสดงออกทางความคิดของผู้ใช้บางส่วน เนื่องจากผู้ใช้ Twitter ไม่ได้มีเฉพาะผู้ที่มีความพร้อมทางร่างกายสมบูรณ์เพียงเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มของบุคคลที่มีปัญหาทางการพูดหรือมีความบกพร่องทางการได้ยินด้วย
ดังนั้นผู้ใช้ในกลุ่มนี้จึงไม่สามารถที่จะใช้ประโยชน์หรือทำความเข้าใจใน Audio Tweet เหล่านี้ได้ ผู้ใช้ Twitter ส่วนหนึ่งนึงได้ออกมาเรียกร้องกับทางบริษัทว่าควรที่จะให้การบริการผู้ใช้อย่างทั่วถึงมากกว่านี้ เพราะบนแพลทฟอร์มอื่นๆ อย่าง YouTube หรือ Facebook นั้นก็ได้มีการเพิ่มแคปชันหรือซับไตเติลด้านล่างไว้ให้ผู้ที่มีความบกพร่องดังกล่าวสามารถเข้าถึงและเข้าใจเนื้อหาภายในได้ แต่ Twitter กลับเพิ่มฟีเจอร์ที่ “ปิดกั้นการเข้าถึง” ของคนกลุ่มนี้ออกมาเสียอย่างนั้น
:blink:
— Matthew Cortland, Esq (@mattbc) June 17, 2020
hey @TwitterSupport, at least the option of providing closed captions would make this more accessible https://t.co/cwx1gXh2HO
และหลังจากที่ Matthew Cortland, Esq ได้ออกมาทวีตเตือนทาง Twitter ว่าน่าจะเพิ่มการใส่แคปชันหรือคำอธิบายด้านล่างเพื่อช่วยให้เข้าถึงผู้คนได้มากขึ้น ทางทีมงาน (@TwitterSupport) ก็ได้ตอบกลับไปว่ามันเป็นเพียงเวอร์ชันแรกที่ทางบริษัท กำลังพัฒนาเพิ่มเติม ให้เข้าถึงผู้ใช้ทุกคนได้
การจัดการกับปัญหาเบื้องต้นของ Twitter ในครั้งนี้ทำให้ผู้ใช้ส่วนหนึ่งเกิดความไม่พอใจนักขึ้นไปอีก เพราะ Twitter เองก็มีทีมงานที่ให้การดูแลในส่วนนี้อย่าง @TwitterA11y (Twitter for Accessibility) และไม่น่าปล่อยให้ฟีเจอร์ที่ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเท่าเทียมกันนี้ออกมาโดยอ้างว่าจะพัฒนาตามมาทีหลัง เพราะผู้ใช้ทุกคนควรที่จะได้รับการปฏิบัติกันอย่างเท่าเทียมตั้งแต่แรก และการตอบกลับของบริษัทในครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าทาง Twitter ไม่ได้เห็นความสำคัญของบุคคลในกลุ่มนี้เลย
.@TwitterSupport — Accessibilty is not an add-on feature nor is it an afterthought. #Accessibility is a civil right.
— Darren Bates 😷 (@DLBLLC) June 18, 2020
When businesses do what you’ve done here, you’re telling an entire group of people you don’t care about them, they’re not important to you.#DisabilityInclusion https://t.co/bULSEHGF9l
ซึ่ง Andrew Hayward ที่เป็น Software Engineer ของ Twitter ก็ได้ออกมาอธิบายว่าทางบริษัทไม่ได้มี “ทีมที่ทำงานเกี่ยวกับผู้มีความบกพร่อง” อย่างเป็นทางการ และเพียงแค่ “อาสาสมัคร” ที่เป็นพนักงานภายในองค์กรเท่านั้นที่เข้ามาช่วยดูแลในส่วนนี้ ไม่ได้มีการจัดตั้งทีมเฉพาะขึ้นมาแต่อย่างใด
The volunteers behind accessibility at Twitter (there is no formal team) strive to do their best to ensure products are shipped appropriately. Unfortunately though, we aren't aware of every product decision, and the wider #a11y conversation is ongoing.
— Andrew Hayward (⌀4.5m) (@arhayward) June 18, 2020
จากคำอธิบายของ Andrew ก็ไม่แน่แปลกใจว่าการปล่อยฟีเจอร์ดังกล่าวออกมานี้น่าจะไม่ได้ผ่านการทดสอบอย่างรัดกุมเพราะทางบริษัทไม่มีทีมที่ให้การดูแลและคำนึงถึงการใช้งานของผู้มีความบกพร่องบางอย่างที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม ทาง Twitter (@TwitterSupport) ก็ได้ออกมาประกาศว่านับจากนี้ไปจะเพิ่มการดูแลในส่วนนี้ให้มากขึ้น
We're sorry about testing voice Tweets without support for people who are visually impaired, deaf, or hard of hearing. It was a miss to introduce this experiment without this support.
— Twitter Support (@TwitterSupport) June 19, 2020
Accessibility should not be an afterthought. (1/3) https://t.co/9GRWaHU6fR
ทางเราต้องขออภัยเกี่ยวกับการทดลองใช้งานฟีเจอร์การทวีตด้วยเสียงที่ไม่ได้รองรับการใช้งานของผู้ที่มีความบกพร่องทั้งด้านการมองเห็นและการได้ยิน มันเป็นความผิดของทางเราที่ปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมาโดยไม่ได้รองรับการใช้งานของผู้คนในกลุ่มนี้ และความบกพร่องทางร่างกายเหล่านี้ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรที่จะมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง
เราจะพยายามแก้ไขและปรับปรุงการใช้งานใหม่ให้ครอบคลุมกับบุคคลในกลุ่มนี้เพิ่มมากขึ้น และจะทำการอัปเดตใหม่บน Twitter for iOS ด้วย
ก็ไม่แน่ว่าหลังจากที่มีประเด็นดังกล่าวออกมานี้ทางบริษัทอาจพิจารณาจัดตั้งทีมเกี่ยวกับการดูแลและการใช้งานของผู้ที่มีความบกพร่องบางอย่างเพิ่มขึ้นมาในอนาคตก็เป็นได้
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |