รายงานข่าวจากงานสัมมนาออนไลน์ LIVE EVENT LINE FOR BUSINESS ภายใต้หัวข้อ “THAILAND NOW AND NEXT AFTER COVID-19 พฤติกรรมผู้บริโภคไทยจะเปลี่ยนไปอย่างไรหลังสถานการณ์โควิด-19” โดยได้รับเกียรติจาก
คุณสมวลี ลิมป์รัชตามร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะนีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคในยุค COVID-19 ว่า เป็นวิกฤตที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในระยะสั้น ส่วนประเทศไทย นอกจากปัญหาโรคระบาด COVID-19 ยังประสบปัญหาอื่นๆ อย่างปัญหาหนี้ครัวเรือน ปัญหาสังคม รวมถึงสิ่งที่ผู้คนวิตกกังวลอย่างปัญหาเศรษฐกิจ การว่างงาน ปัญหาหนี้สิน ที่มีส่วนทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง และสิ่งสำคัญที่ตามมาคือ การนำเทคโนโลยีมาประกอบใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น
คุณสมวลีกล่าวต่อว่า พฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมาก ประกอบกับเหตุการณ์วิกฤตที่ทำให้ต้องอยู่แต่ในบ้าน จึงทำให้การเลือกซื้อสินค้า การใช้บริการต่างๆ เกิดขึ้นผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยผู้บริโภคชาวเอเชีย 70% คุ้นเคยกับการเลือกใช้สินค้าแบรนด์ท้องถิ่น โดยเฉพาะสินค้าของใช้ส่วนตัวและเครื่องดื่ม ที่ไม่ต้องขนส่งสินค้าจากต่างประเทศซึ่งใช้เวลานานในการขนส่ง นอกจากนี้ ลูกค้า 63% เลือกซื้อสินค้าจากคุณภาพและสิ่งที่ได้รับจากสินค้านั้นๆ โดยไม่คำนึงถึงราคา ส่วนเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงในช่วงนี้ ก็คือ Auto Shopping Subscription สามารถสั่งซื้อล่วงหน้า ร่วมกับบริษัทขนส่ง Logistics จัดส่งสินค้าตามวันและเวลาที่ต้องการโดยอัตโนมัติ, การนำข้อมูลสินค้ามาให้ลูกค้าทดลองผ่านแอปพลิเคชันแทนการพูดคุยกับพนักงาน เช่น ทดลองเครื่องสำอางก่อนซื้อ
นอกจากนี้ คุณสมวลียังกล่าวว่า ในอนาคต Social Media จะเป็นแหล่งข้อมูลที่ผู้คนติดตามเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่นในประเทศจีนที่สื่อออนไลน์กลายเป็นสื่อหลัก (Mainstream Media) สามารถเช็กข่าวสารผ่านช่องทางออนไลน์ ดูโฆษณาเพื่อพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อผ่านแพลตฟอร์ม E-Commerce ได้เลย ซึ่งการซื้อขายสินค้าจำเป็นต้องเพิ่มช่องทางออนไลน์นอกเหนือจากช่องทางออฟไลน์ ขยายพื้นที่ให้บริการลูกค้ามากขึ้น และร่วมมือกับทางบริษัทขนส่งเพื่อการส่งสินค้าที่รวดเร็วเช่นกัน
คุณพฤทธิสิทธิ์ ประทีปะวณิช หัวหน้าฝ่ายจัดการแพลตฟอร์มและบริการ LINE เล่าว่า อัตราการใช้แอปพลิเคชัน LINE นั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตั้งแต่ฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการโทร LINE Call เพื่อติดต่อสื่อสาร, การซื้อ LINE Sticker ที่อิงกับเหตุการณ์ COVID-19 ซึ่งทาง LINE ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่างการแชร์ภาพหน้าจอผ่าน LINE Desktop บนคอมพิวเตอร์ได้ รวมถึง LINE Official ประเทศไทยที่หันมานำเสนอข่าวและข้อมูลเกี่ยวกับ COVID-19
คุณพฤทธิสิทธิ์กล่าวต่อว่า เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารที่ต้องการบริการเดลิเวอรี่ ทาง LINE ประเทศไทยจึงเปิดโอกาสให้ร้านอาหารสามารถสมัครเข้าร่วมกับ LINE Man แอปพลิเคชันส่งอาหารถึงบ้านผ่านแอปได้ทันที อนุมัติผลภายใน 1 วัน รวมถึงยอดผู้ซื้อสินค้าผ่าน LINE Shopping ที่เพิ่มขึ้น 68% ยอดสั่งซื้อเฉลี่ยออเดอร์ละ 1,500 บาท และอัตราการใช้จ่ายผ่านร้านค้า My Shop บน Official Account ที่มีมากกว่า 9,000 ร้าน ยอดสั่งซื้อเพิ่มมากถึง 300% ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและ Rabbit LINE Pay เพิ่มขึ้น 30%
คุณกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย กล่าวถึงพฤติกรรมการเลือกคอนเทนต์ของผู้บริโภคว่า ปัจจุบันนี้ ผู้คนต้องการอ่านข่าวสารและความบันเทิงมากขึ้น และต้องการข่าวสารที่มีความน่าเชื่อถือ LINE Today จึงร่วมมือกับสำนักข่าวและสื่ออื่นๆ รวม 260 แห่ง เพื่อนำเสนอข่าวสาร ข้อมูล วิธีการปฏิบัติตัวในช่วง COVID-19 รวมถึงคอนเทนต์บันเทิงต่างๆ เช่น คอนเทนต์รวมแหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร ส่วนเวลาที่มียอดผู้อ่าน LINE Today สูงสุด คือช่วง 1 ทุ่มและบ่าย 3 โมง เนื่องจากผู้อ่านส่วนมาก Work From Home มีเวลาพัก เวลาเลิกงานที่เร็วกว่าเดิม และยอดผู้อ่าน LINE Today ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นเป็น 44 ล้านคน จากปี 2561 ที่มียอดผู้อ่าน 36 ล้านคน
ส่วน LINE TV มียอดค้นหาคอนเทนต์ที่เพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า รับชมผ่านทางหน้าจอใหญ่ เช่น Android TV, Apple TV, Chromecast เพิ่มขึ้น 42% สำหรับการรับชมร่วมกับสมาชิกในบ้าน และพบว่าระยะเวลาที่ใช้กับ LINE TV เพิ่มขึ้น 30% ทาง LINE TV จึงทำการจัดหมวดหมู่คอนเทนต์ใหม่ในชื่อ Enjoy at Home สำหรับผู้ที่ยังเลือกไม่ได้ว่าจะเริ่มดูอะไรดี ซึ่งมีทั้ง Y-Series, ละคร Sit-Com, ภาพยนตร์, การ์ตูนอนิเมชัน และรายการทีวี Re-Run โดย Y-Series มียอดชมจากเพศหญิงวัย 18-34 ปีเพิ่มขึ้น ยอดการรับชมอนิเมชันในเดือนมีนาคมเพิ่มจากเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ถึง 33% และยอดการรับชมเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ถึง 56%
|
Web Content Editor ท่านหนึ่ง นิยมการเล่นมือถือเป็นชีวิตจิตใจ |