Larry Tesler ผู้คิดค้นคำสั่ง Cut, Copy และ Paste ได้เสียชีวิตแล้ว

ในยุคเริ่มต้นของคอมพิวเตอร์ มันเป็นอุปกรณ์ราคาแพง แถมการใช้งานก็ยุ่งยาก มีใช้กันแค่ในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์เท่านั้น จนกระทั่งการมาของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ทำให้คนธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้จบวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ก็สามารถใช้งานได้ ชื่อของ Larry Tesler ชายผู้เสียชีวิตลง ชายชราวัย 74 ปี ซึ่งเสียเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา อาจจะไม่ได้เป็นผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักโดยทั่วไปเหมือนกับ สตีฟ จอบส์ แห่ง Apple หรือบิล เกตส์ แห่ง Microsoft แต่ชายผู้นี้เป็นคนที่มีส่วนช่วยให้การใช้งานคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนในทุกวันนี้ เป็นไปอย่างราบรื่น

ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Larry_Tesler_and_Whisper_(6).jpeg

Larry Tesler เกิดปี ค.ศ. 1945 ที่นครนิวยอร์ก เรียนจบด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หลังจากนั้นเขาก็ทุ่มเทอยู่กับการพัฒนาเทคโนโลยี Artificial intelligence หลังจากนั้นเขาได้มีส่วนร่วมกับสงครามต่อต้านการผูกขาดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในยุคนั้น อย่างเช่น IBM ก็เป็นเป้าหมายสำคัญของ Tesler

ในช่วงปี 1973-1980 Larry Tesler ได้เข้าทำงานที่ Xerox Palo Alto Research Center (PARC) ซึ่งทาง Xerox PARC นั้นได้รับการยกย่องในฐานะของทีมที่พัฒนาเมาส์คอมพิวเตอร์ขึ้นมา เพื่อให้การควบคุมคอมพิวเตอร์ในยุคที่เริ่มเปลี่ยนจากข้อความมาเป็นกราฟิกสะดวกยิ่งขึ้น ทางด้านตัว Tesler ในระหว่างนั้นเขาได้ร่วมงานกับ Tim Mott ในการพัฒนาเครื่อง Word processor ที่ชื่อว่า Gypsy ซึ่งมีจุดเด่นตรงที่มีระบบคำสั่งในการแก้ไขข้อความ Removing (ลบ), Duplicating (คัดลอก) และ Repositioning (ย้ายตำแหน่ง) ได้ ซึ่งภายหลังได้กลายมาเป็นคำสั่ง Cut, Copy และ Paste นั่นเอง

หลังจากออกจาก Xerox ตัว Larry Tesler ได้ย้ายไปร่วมงานกับ Apple ที่ตอนนั้นกำลังพัฒนาคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล Lisa และ Macintosh อยู่ เขาได้นำไอเดียการแก้ไขข้อมูลด้วย Cut, Copy และ Paste มาใช้ต่อ โดยมีการต่อยอดให้เรียกคำสั่งดังกล่าวผ่านการผสมผสานการกดปุ่มบนคีย์บอร์ดได้ ซึ่งวิธีดังกล่าวก็ยังถูกใช้มาจนถึงปัจจุบันนี้ (ใน Mac จะเป็นคำสั่ง Command+... ส่วน Windows จะใช้ Ctrl+...)

• Z เพื่อ Undo (ยกเลิกการกระทำล่าสุด)
• X เพื่อ Cut (ตัด)
• C เพื่อ Copy (คัดลอก)
• V เพื่อ Paste (วางข้อมูล)

ทุกวันนี้ Cut, Copy และ Paste เป็นคำสั่งสุดพื้นฐานที่ทุกคนที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ รวมถึงสมาร์ทโฟนน่าจะต้องเคยใช้งานกันทุกคน และรู้ดีว่ามันสะดวกขนาดไหน

Larry Tesle ยังมีส่วนสำคัญที่ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงคอมพิวเตอร์ง่ายขึ้น ด้วยปรัชญาในการออกแบบ User interface ที่เรียกว่า Modeless computing ตัวอย่างเช่น เมื่อผู้ใช้เปิดโปรแกรม Word ขึ้นมา สิ่งที่ผู้ใช้งานเชื่อ คือ เมื่อกดแป้นคีย์บอร์ด ตัวอักษรจะปรากฏขึ้นบนตำแหน่งที่เคอร์เซอร์ชี้อยู่ทันที มันฟังดูเป็นเรื่องปกติในสมัยนี้ แต่ในอดีตมันอาจเป็นการเรียกใช้คุณสมบัติอื่นๆ ของโปรแกรมแทน หรืออย่าง Photoshop ที่แถบเครื่องมือจะมีการเปลี่ยนรูปแบบไปตามเครื่องมือที่กำลังทำงาน นั่นก็เป็นแนวคิดแบบ Modeless computing ด้วยเช่นกัน

สุดท้ายแล้ว คนเราย่อมหนีไม่พ้นวัฏจักรเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่ผลงานที่ Larry Tesle สร้างไว้ อย่างน้อยก็จะถูกจดจำในฐานะผู้คิดค้น Cut, Copy และ Paste ไปตลอด