JOOX ก้าวเข้าสู่ปีที่ 5 ของการให้บริการแพลตฟอร์มมิวสิคสตรีมมิง เผยความสำเร็จในปีที่ผ่านมาด้วยยอดผู้ใช้งานที่สูงถึง 290 ล้านรายใน 5 ประเทศ พร้อมเดินหน้าสานต่อความเป็นผู้นำด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้างประสบการณ์ฟังเพลงที่เหนือชั้น การสร้างสรรค์คอนเทนท์ออริจินัล ทั้งคอนเทนต์เด็ดโดนใจและคอนเทนท์ใหม่ๆ ร่วมกับพาร์ทเนอร์ และการขยายคอมมูนิตี้ ทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเชื่อมโยงทุกโมเม้นต์ทางดนตรีให้เข้ากับการดำเนินชีวิตของคนในยุคดิจิทัล
ย้อนกลับไปไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ บริการมิวสิคสตรีมมิ่งยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ในอุตสาหกรรมดนตรี ศิลปินต่างมีรายได้จากการขายซีดี ลิขสิทธิ์เพลง และระบบดิจิทัลดาวน์โหลดที่เป็นช่องทางขายเพลงออนไลน์ให้กับนักดนตรี แต่นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมาเทรนด์ในอุตสาหกรรมดนตรีแพลตฟอร์มมิวสิคสตรีมมิงก็เริ่มเติบโตขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด จนในปี 2017 ก็เป็นช่องทางทำรายได้หลักให้กับศิลปิน
สำหรับในต่างประเทศ กลุ่มผู้ใช้งานมิวสิคสตรีมมิงส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้งานที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งมีกำลังในการจ่ายเพื่อใช้บริการสินค้า แต่ในประเทศไทยกลุ่มผู้ใช้งานส่วนใหญ่กลับเป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 18 ปี ซึ่งมีกำลังในการใช้จ่ายน้อยกว่า (รวมทั้งตลาดในประเทศไทยนิยมการใช้บริการแบบ Freemuim เป็นส่วนใหญ่) ส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ของทาง JOOX ในปีนี้ จึงเป็นการขยายฐานของผู้ใช้บริการไปสู่กลุ่มผู้ใช้ช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไปอีกด้วย
สำหรับทิศทางกลยุทธ์ของทาง JOOX ในปี 2020 นี้ จะดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่
JOOX มีการพัฒนาและนำนวัตกรรมมาใช้ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ต่อยอดจากการฟังเพลงสตรีมมิงมาเป็นวิดีโอ ไลฟ์ถ่ายทอดสดรายการเพลงต่างๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีบริการคาราโอเกะเพิ่มขึ้นมา รวมทั้งโซเชียลคอมมูนิตี้ ที่สามารถติดตามศิลปินโปรด หรือ KOLs (Key Opinion Leader) บนแพลตฟอร์ม JOOX ได้ รวมทั้งการพัฒนาให้สามารถใช้บริการ JOOX ได้ทั้งบน Desktop ทั้งเว็บไซต์, แอปฯ ทั้งบน Windows และ MacOS รวมทั้งแอปฯ บนสมาร์ทโฟน
ในปี 2020 นี้ ด้านนวัตกรรมของทาง JOOX จะเน้นไปในการสร้าง Personal Life โดยพัฒนา Machine Learning เพื่อเรียนรู้ผู้ใช้แต่ละคน ในเรื่องของประเภทและแนวเพลงที่ฟัง นำเสนอเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับผู้ใช้นั้นๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว Machine Learning ได้ถูกทดสอบตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
มีข้อมูลการใช้งานว่า ผู้ใช้ JOOX กว่า 41% ซึ่งเป็นส่วนใหญ่จะใช้งานเมนู My Music ซึ่งเป็นเพลย์ลิสต์เพลงที่ผู้ใช้ต้องการจะฟัง การแนะนำเพลงที่คาดว่าผู้ใช้จะชอบจาก Machine Learning ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่ทำให้ JOOX มีความพิเศษกว่าบริการมิวสิคสตรีมมิงอื่นๆ ก็คือการสร้างโปรเจคและคอนเทนท์พิเศษขึ้นมาใหม่ ให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่าง อย่างในปีทีผ่านมาก็เช่น โปรเจค 100x100 ที่นำศิลปินเพลงไทยสากลมาคอลแลป (Collab) กับศิลปินลูกทุ่ง อย่างเช่น เพลงให้นานกว่าที่เคย - วง KLEAR กับ ไผ่พงศธร
ในปีนี้ก็ได้มี Original Content อีกเช่นเคย โดยที่ได้เริ่มปล่อยออกมาแล้วก็จะเป็นโปรเจค Throwback The 90s ซึ่งเป็นการนำเพลงในยุค 90s มารีเมคโดยศิลปินใหม่ๆ โดยมีจุดประสงค์ก็คือการดึงกลุ่มผู้ใช้ใหม่ที่มีช่วงอายุ 35 ปีขึ้นไป มาใช้งานนั่นเอง
ซึ่งไม่เพียงการจับมือกับค่ายพันธมิตรใหญ่ๆ อย่าง GMM Grammy, RS, BEC Tero Music, Musik Move และ What the Duck เท่านั้น แต่ยังให้โอกาสกับศิลปินหน้าใหม่กับศิลปินอินดี้ให้เติบโตอีกด้วย
อีกเทรนด์ที่น่าสนใจก็คือเพลง OST ประกอบภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อย โดย JOOX ก็มีแผนที่จะสร้างเพลงและสร้างหนังไปด้วยกัน ทำการครอสโปรโมทร่วมกับ WeTV ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มดูทีวีออนไลน์ในเครือ Tencent อีกด้วย
คอนเทนท์พิเศษอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจก็คือ Podcast ที่มีผลวิจัยออกมาว่ากลุ่มคนอายุ 35+ นิยมฟัง Podcast ซึ่งก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการดึงกลุ่มผู้ใช้ดังกล่าวเช่นกัน โดยทาง JOOX จะมีการจับมือกับผู้สร้าง Podcast มืออาชีพในไทยในการทำคอนเทนท์ที่หลากหลายและน่าสนใจขึ้น
JOOX ได้สร้างคอมมูนิตี้ให้กับบริการทั้งด้านออนไลน์และออฟไลน์ อย่างที่เห็นได้ชัดในส่วนของออนไลน์คอมมูนิตี้ก็คือหน้าคาราโอเกะและไลฟ์ ที่สามารถรับชมหรือร่วมร้องเพลงกับศิลปิน/KOLs คนโปรดได้ โดยภายในแอปฯ จะมี JOOX Coins ที่นอกจากการสะสม Coin เพื่อนำไปแลกของต่างๆ อย่างเช่น โค้ด VIP แล้ว ยังสามารถนำไปซื้อกิฟต์ของขวัญเพื่อส่งให้ศิลปิน, KOLs หรือผู้ใช้ทั่วไปที่มีช่องทางเป็นของตัวเอง ซึ่งของขวัญสามารถนำมาเปลี่ยนเป็นรายได้ได้
ส่วนทางด้านออฟไลน์ ก็จะมีตั้งแต่ School/Campus Tour ไปจนถึงงาน JOOX World Music Day และงานที่เป็นไฮไลท์อย่าง JOOX Thailand Music Award ที่วงการเพลงในบ้านเราต่างก็ให้ความสำคัญ
และด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ ก็จะเป็นสิ่งที่ผลักดันให้ JOOX ตอกย้ำการเป็น "แอปฯ คอมมูนิตี้สำหรับคนรักเสียงเพลงอันดับ 1 ของไทย"
|
... |