บริษัท Google ได้ออกมาประกาศว่าอีกไม่นาน Google Translate จะมีฟีเจอร์ Transcribe (ถอดความ) ที่สามารถ แปลข้อความยาวๆ อย่างเลกเชอร์จากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษานึง ได้แบบเรียลไทม์ (คล้ายล่าม) โดยฟีเจอร์ดังกล่าวนี้มีความคล้ายคลึงกับแอปพลิเคชัน Google Recorder บน Pixel 4 (สมาร์ทโฟนของ Google) แต่ทางบริษัทระบุว่ามันจะ ใช้ AI คนละตัวกับของ Google Pixel และใน Google Translate (แบบออฟไลน์) โดยจะสามารถทำงานได้ผ่านการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตเท่านั้น ซึ่ง Google ก็ได้ให้เหตุผลว่าการแปลและถอดความจากภาษาหนึ่งไปยังอีกภาษาหนึ่งแบบเรียลไทม์นั้นมีความซับซ้อนกว่าการแปลข้อความหรือประโยคสั้นๆ ที่ใช้กันอยู่ตอนนี้มาก จึงทำให้ทางบริษัทต้องพัฒนา AI ตัวใหม่ขึ้นมารองรับการทำงานของฟีเจอร์นี้
Google Recorder บน Google Pixel
โดยทาง Google ได้มีการทดลองฟีเจอร์ดังกล่าวนี้พร้อมกับตัวเดโมของ AI อื่นๆ ภายในงานแถลงข่าวที่จัดขึ้นที่เมือง San Francisco และในเบื้องต้นได้ ทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ในการแปลภาษาอังกฤษเป็นภาษาสเปน ซึ่งผลที่ได้ค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจแต่ทางบริษัทก็ยืนยันว่ามันยัง ต้องมีการปรับปรุงอีกมาก เพราะ ณ ขณะนี้ AI ยังไม่สามารถแยกแยะการแบ่งวรรค, การแปลความตามเนื้อหาในประโยค และการออกเสียง สำเนียง หรือภาษาถิ่นนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
— Karissa Bell (@karissabe) January 28, 2020
และในช่วงแรกฟีเจอร์ Transcribe นี้จะใช้ได้เฉพาะกับเสียงที่ตัวเครื่องจับได้จากตัวไมโครโฟนของสมาร์ทโฟน (หรือแท็บเล็ต) เท่านั้น ยังไม่รองรับการแปลไฟล์เสียงที่มีอยู่เดิมในตัวเครื่อง แต่ทางบริษัทก็กล่าวเพิ่มเติมว่าหากเป็นการเปิดไฟล์เสียงในเครื่องมืออื่นๆ และเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในสมาร์ทโฟนก็คาดว่าน่าจะได้ผลเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ทาง Google ก็ยังไม่ได้ระบุชัดว่าจะปล่อยฟีเจอร์นี้ออกมาให้ใช้งานกันเมื่อไร เพียงแต่ระบุว่าผู้ใช้ Android น่าจะได้ใช้งานในเร็วๆ นี้ แต่ตอนนี้เราก็คงต้องใช้งาน Google Translate หรือใช้บริการ “โหมดล่าม (Interpreter Mode)” ของ Google Assistant กันไปก่อน
|
ตัวเม่นผู้รักในการนอน หลงใหลในการกิน และมีความใฝ่ฝันจะเป็นนักดูคอนเสิร์ตแต่เหมือนศิลปินที่ชื่นชอบจะไม่รับรู้ว่าโลกนี้มียังประเทศไทยอยู่.. |