Apple เปิดตัวบัตรเครดิตการ์ดแบบใหม่ "Apple Card" โดยให้นิยามว่าเป็นบัตรเครดิตชนิดใหม่ที่สร้างโดย Apple ไม่ใช่ธนาคาร อย่างไรก็ตาม อันที่จริงบัตรเครดิตนี้เกิดจากการที่ Apple จับมือกับสถาบันธนาคาร Goldman Sachs และ Mastercard ด้วย ดังนั้นจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับธนาคารเลยก็ไม่ค่อยถูกเท่าไหร่นัก แต่ถึงจะแบบนั้นบัตร Apple Card ก็มีความน่าสนใจอยู่หลายอย่างนะ
ดีไซน์ของ Apple Card
สำหรับร้านที่ไม่รองรับ Apple Pay ทาง Apple ก็ได้ออกบัตรมาไว้ให้ใช้สำหรับรูดได้เช่นกัน โดยเป็นบัตร Titanium ของ Mastercard แต่บัตรจะแตกต่างจากบัตรเครดิตปกติ มันไม่มีหมายเลขบัตรเครดิต, CVV, วันหมดอายุ หรือลายเซ็นต์ด้านหลังตัวการ์ด ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย โดยข้อมูลเหล่านั้นจะถูกเก็บเอาไว้ในแอป Wallet แทน ซึ่งเมื่อเราทำการซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ ตัวแอป Safari จะใส่ข้อมูลที่ต้องการให้เราอัตโนมัติ
Apple Card + Wallet
บัตรเครดิต Apple Card จะทำงานร่วมกับแอป Wallet ของ iOS โดย Apple กล่าวว่าเพื่อให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบการใช้งานได้อย่างง่ายดาย เช่น การเอาระบบ Machine learning เข้ากับ Location services มาช่วยในการระบุข้อมูลในใบแจ้งยอดค่าใช้จ่ายให้อ่านเข้าใจได้ง่ายๆ
ปกติแล้วเวลาเราเห็นยอด สมมติว่า 1,050 บาท ในใบแจ้งยอด เราก็ต้องมานึกย้อนหลังว่ามันคือยอดอะไรฟะ? แต่ Apple Card จะใช้ตำแหน่งหมุดที่คุณทำการจ่ายเงินเพื่อระบุชื่อร้านที่คุณได้ใช้จ่ายออกมาให้ดูเลย ไม่ได้แสดงเป็นรหัสร้านค้าเหมือนระบบของธนาคาร
ตัวแอป Wallet เองก็ได้รับการออกแบบใหม่ เพื่อให้รองรับกับการทำงานร่วมกับ Apple Card ด้วย ตัวอย่างเช่น เมื่อเราแตะไปที่รายการจ่ายเงิน มันจะแสดงข้อมูลอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นราคา, Daily Cash, หมวดหมู่สินค้า และตำแหน่งที่เราจ่ายเงินบนแผนที่
Apple ยังเอาระบบวงแหวนข้อมูล (Ring system) ที่มีอยู่บน Apple Watch มาใช้ในการจัดการ และแสดงข้อมูลค่าใช้จ่าย และดอกเบี้ยให้เห็นอย่างชัดเจน เราสามารถหมุนวงแหวนเพื่อดูว่าเราต้องเสียดอกเบี้ยอีกเท่าไหร่ ยอดยังเหลืออีกเยอะไหมได้โดยสะดวก
ความเจ๋งอีกอย่าง คือ แอป Wallet จะคอยเตือนให้เราชำระเงินด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกคิดดอกเบี้ยจากยอดใช้จ่าย หรือจะตั้งค่าให้มันชำระเงินอัตโนมัติทุกสัปดาห์ หรือทุกครึ่งเดือนก็ทำได้เช่นกัน โดยมันจะบอกข้อมูลด้วยว่าจ่ายเท่าไหร่ ถึงจะลดดอกเบี้ยได้มากที่สุด ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องมาคิดเลขเองให้ปวดหัว แอป Wallet จะคิดมาให้เสร็จสรรพอัตโนมัติ
Daily Cash
มันเป็นระบบรางวัลตอบแทนของบัตร Apple Card ที่เราว่าน่าสนใจมาก ทาง Apple ระบุว่าลูกค้าจะได้รับ "Daily Cash" เมื่อมีการใช้จ่ายผ่าน Apple Card ซึ่งตรงนี้พูดง่ายๆ ก็คือ Cash Back นั่นเอง เพียงแต่บัตรของ Apple เหมือนจะคืนเงินเป็นรายวันเลย เงินที่ได้คืนมาสามารถนำไปใช้ต่อได้ทันที ไม่ว่าจะเอาไปจ่ายหนี้ หรือโอนเข้าบัญชีธนาคาร
Daily Cash นี้จ่ายคืนให้ 2% ทุกรายการที่เราชำระผ่าน Apple Pay โดยไม่จำเป็นต้องเป็นร้านที่ร่วมรายการ และไม่มีการจำกัดยอดสูงสุดที่ได้คืนด้วย พูดง่ายๆ คือ เหมือนเราได้ส่วนลด 2% ทุกอย่างที่เราจ่ายผ่านบัตร Apple Card
ไม่เพียงเท่านั้นนะ หากเราใช้มันจ่ายค่าสินค้า หรือบริการของ Apple ไม่ว่าจะของที่ซื้อจาก Apple Store, Apple.com, แอปฯ จาก App Store หรือ iTunes, In-app purchases, ค่าบริการรายเดือน Apple Music หรือ iCloud รายจ่ายพวกนี้เราจะได้เงินคืนมาถึง 3% เลยล่ะ
ส่วนการจ่ายเงินโดยใช้แทนบัตรเครดิตปกติ (ไม่ได้จ่ายผ่าน Apple Pay) จะได้ Daily Cash แค่ 1%
มีระบบตรวจจับการโกงแบบเรียลไทม์
หาก Apple ตรวจจับได้ว่ามีการเก็บเงินที่ผิดปกติ มันจะส่งแจ้งเตือนเข้า iPhone ทันที ซึ่งเราสามารถตรวจสอบเพื่อรายงานปัญหา หรือยอมรับยอดดังกล่าวได้ทันที
Apple Card ยังมีระบบ Apple Business Chat ที่เราสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาผ่านแอป Messages ทันทีที่เรารู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอบดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่มีค่าธรรมเนียมในการใช้งาน
Apple กล่าวว่าบัตรนี้ไม่มีค่าธรรมเนียม และค่าใช้จ่ายแฝงใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม มันยังคงมีดอกเบี้ยนะ โดย Apple กล่าวว่าดอกเบี้ยจะมีการแปรผันต่อปีในช่วงระหว่าง 13.24% - 24.24% โดยหากคุณจ่ายเงินช้า คุณจะไม่โดนปรับค่าชำระเงินล่าช้า แต่ว่าดอกเบี้ยจะมีอัตราที่สูงขึ้นแทน
Goldman Sachs และ Mastercard
ความเจ๋งของสถาบันธนาคาร Goldman Sachs คือ ข้อมูลลูกค้าจะไม่มีการนำไปขายให้กับบุคคลที่สาม เพื่อใช้ในการทำตลาด หรือโฆษณา ส่วน Mastercard ก็จะช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้การ์ดนี้รูดได้ทั่วโลกที่ไม่รองรับ Apple Pay นั่นเอง
สมัครใช้งานได้เมื่อไหร่?
Apple บอกเพียงว่าจะเปิดให้สมัครใช้งานได้ในเร็วๆ นี้ แต่ยังไม่บอกวันที่แน่นอน ใครที่สนใจก็สามารถลงทะเบียนรับการแจ้งเตือนเมื่อสามารถสมัครได้ที่ https://www.apple.com/apple-card/#section-notify เลย
|
แอดมินสายเปื่อย ชอบลองอะไรใหม่ไปเรื่อยๆ รักแมว และเสียงเพลงเป็นพิเศษ |