มีผู้กล่าวว่า สุนัขเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่รู้หรือไม่ว่า พวกมันทำให้เกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อมโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว
รู้หรือไม่ว่า พฤติกรรมการกินของสัตว์เลี้ยงนั้น คิดเป็นปริมาณที่มากถึง 20% ของการบริโภคเนื้อสัตว์และเนื้อปลาของทั้งโลกรวมกัน (คน 80% และสัตว์เลี้ยง 20%) และแน่นอนว่าการบริโภคอย่างขนานใหญ่ของสัตว์เลี้ยงนั้น ทำให้เกิดปัญหากับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะการใช้ทรัพยากรน้ำ ที่ดิน และ ยากำจัดศัตรูพืช ในกระบวนการผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง ยังไม่รวมถึงผลกระทบกับการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกด้วย
ด้วยความที่ชาวโลกเรานิยมเลี้ยงน้องหมาและน้องแมวมากเกิน 500 ล้านตัว จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะมีใครสักคนคิดหาทางแก้วิกฤตการณ์เรื่องอาหารสัตว์เลี้ยง และในตอนนี้บริษัทผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงจากประเทศอังกฤษก็มีทางออกอย่างแยบยลให้กับปัญหานี้แล้ว
บริษัทสตาร์ทอัพรายนี้มีชื่อว่า Yora ได้สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ยืนยันว่า มันจะเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อย และเพื่อสิ่งนี้ พวกเขาผลิตอาหารน้องหมาแบบใหม่ ที่แทนที่เนื้อสัตว์เกรดเดียวกับที่มนุษย์กิน ด้วยแหล่งโปรตีนใหม่ที่ใช้ทรัพยากรที่การผลิตน้อยกว่า นั่นก็คือ "ตัวหนอน" นั่นเอง
โดยคุณ Neish นักออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์มานานกว่า 20 ปี กล่าวว่า "อาหารสัตว์เลี้ยงเกรดพรีเมี่ยมนั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยอดเยี่ยมมาก แต่เมื่อโลกร้อนขึ้นและทรัพยากรโลกร่อยหรอลง เราก็ต้องกลับมาคิดให้ดีว่าเราให้สัตว์เลี้ยงกินเนื้อมากเกินไปหรือไม่?"
ประเด็นคำถามของคุณ Neish นั้นน่าสนใจมากๆ โดยผลการวิจัยล่าสุดจากสถาบัน UCLA ประเมินว่า ถ้าเราแบ่งเนื้อสัตว์ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงมาเพียง 1 ใน 4 เราจะมีอาหารมากพอสำหรับเลี้ยงคนได้ถึง 26 ล้านคน และในภาวะที่หลายๆ ประเทศมีอัตราการเพิ่มจำนวนประชากรอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการครอบครองสัตว์เลี้ยงในบางประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา แต่อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมอาหารสัตว์เลี้ยงนั้นเปรียบเหมือนขุมทรัพย์พันล้านดอลลาร์ ทำให้ไม่เคยมีการคำนวณผลกระทบที่เกิดกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง เพื่อค้นหาตัวเลือกที่ดีกว่า
แน่นอนว่าการกินหนอน โดยเฉพาะหนอนแมลงวันหัวลาย (Black soldier flies) ไม่ใช่ตัวเลือกที่น่ากินอย่างแน่นอน แต่มันก็เป็นแนวคิดที่น่าสนใจสำหรับอาหารสัตว์เลี้ยง และสำหรับคนที่เลี้ยงน้องหมา คงจะรู้ดีว่าพวกมันกินได้แทบจะทุกอย่างที่พวกเราไม่สามารถกินได้ แล้วทำไมเราถึงไม่เก็บเนื้อวัวคุณภาพดีไว้สำหรับให้มนุษย์กิน แล้วให้น้องหมากินอะไรที่มนุษย์อย่างเราอาจจะไม่อยากกินแทนหล่ะ?
และผลประโยชน์จากการนำหนอนมาผลิตเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงนั้นก็มีมากมาย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงเฉพาะว่า พวกหนอนเหล่านี้อุดมด้วยไขมันและโปรตีน พวกมันยังเป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ อีกด้วย และเมื่อเปรียบเทียบกับเนื้อวัว ที่นิยมนำมาผลิตเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง พวกมันต้องการน้ำน้อยกว่า ใช้ที่ดินน้อยกว่า และยังปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าอีกด้วย
โดยข้อมูลจาก ฟาร์มเลี้ยงจิ้งหรีด ทางตอนเหนือของประเทศไทย ระบุว่ามีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า 75% และใช้น้ำน้อยกว่า 50% เมื่อเทียบกับการเลี้ยงไก่
โดย Yora บริษัทสตาร์ทอัพที่จะทำอาหารสัตว์เลี้ยงจากหนอน กล่าวอ้างถึงสถิติที่น่าประทับใจ เมื่อเทียบกับการเลี้ยงวัวเนื้อ โดยข้อมูลในเว็บไซต์ยืนยันว่าการเลี้ยงตัวอ่อนของหนอนนั้น มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่น้อยกว่ากันถึง 25 เท่า เมื่อเทียบกันระหว่างการผลิตเนื้อวัวและเนื้อหนอนในปริมาณที่เท่ากัน ใช้ที่ดินน้อยกว่ากัน 47 เท่า และใช้น้ำน้อยกว่ากัน 20 เท่าตัว
โดยอาหารสุนัขแบบแห้งของ Yora นั้น มีการระบุว่ามี โปรตีนรวม (Crude protein) สูงถึง 23% ต่อขนาดการบริโภค และเม็ดอาหารยังมีส่วนผสมของข้าวโอ้ต มันฝรั่ง และพืชตามธรรมชาติ (โดยฉลากของผลิตภัณฑ์มีการระบุถึง ผักคะน้า และ พาสลีย์ ซึ่งเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งคล้ายผักชี)
ตราบในที่มนุษย์โดยส่วนใหญ่ ยังทำใจไม่ได้กับการกินหนอน การเอาหนอนมาทำอาหารสัตว์เลี้ยงก็นับเป็นก้าวแรกในการจัดหาแหล่งอาหารโปรตีนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า สตาร์ทอัพที่มีแนวคิดก้าวหน้าอย่าง Yora จะสามารถเปลี่ยนแปลงความคิดของผู้คนที่มีต่อหนอนได้หรือไม่ อย่างน้อยก็ในบทบาทของการที่ใช้หนอนมาทำเป็นอาหารสัตว์
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |