บริษัท Anki ผู้พัฒนาของเล่นและหุ่นยนต์ได้ออกหุ่นยนต์รุ่นใหม่ในชื่อ Vector โดยมีหน้าตาเหมือนหุ่นยนต์ของเล่นรุ่น Cozmo ที่เคยออกจำหน่ายก่อนหน้านี้ แม้ว่าหน้าตาภายนอกจะดูเหมือนกันแต่สิ่งที่แตกต่างจากหุ่นยนต์ของเล่น Cozmo คือ Vector จะใช้โทนสีเทาและดำ เพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่ใช่สำหรับเด็กเล่นเท่านั้นแต่สำหรับผู้ใหญ่ด้วย
หุ่น Cozmo ออกวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยใช้จุดขายว่าเป็นหุ่นยนต์ที่มี “จิตใจเป็นของตัวเอง” แต่ในความเป็นจริงการทำงานด้านประมวลผลต่างๆ จะถูกทำบนมือถือสมาร์ทโฟนที่เชื่อมต่อกับมัน และนี่เป็นจุดที่แตกต่างจากหุ่นยนต์รุ่นใหม่อย่าง Vector ที่การประมวลผลต่างๆ จะทำในตัวหุ่นยนต์เองโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ
บริษัท Anki เชื่อมั่นว่าหุ่นยนต์ Vector ที่เปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้จะสามารถแข่งขันกับหุ่นยนต์อย่าง Jibo และ Keecker ได้เนื่องจากมันเป็นหุ่นยนต์ในบ้านที่ทำงานแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์และเปิดทำงานอยู่ตลอดเวลา และนอกจากนี้มันจะเป็นคู่แข่งสำคัญของระบบผู้ช่วยอัจฉริยะอย่าง Alexa และ Siri สำหรับการใช้งานในห้องนั่งเล่น
ด้วยรูปลักษณ์ที่เหมือนหุ่นยนต์ของเล่น Cozmo ทำให้หุ่นยนต์ Vector ไม่ได้ออกแบบมาให้วิ่งไปทั่วบ้านหรือขึ้นลงบันไดเพื่อมาบอกให้เรารู้ว่ามีแขกมาเยี่ยม แต่หุ่นยนต์ Vector นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานบนโต๊ะหรือบนเคาน์เตอร์ในห้องครัวมากกว่า โดยจะทำการสแกนสภาพแวดล้อมและจดจำตำแหน่งของวัตถุได้
Vector จะสื่อสารโดยใช้การแสดงความรู้สึกผ่านใบหน้าด้วยอนิเมชั่นน่ารักๆ โดยส่วนของใบหน้าทำมาจากหน้าจอสีแบบไอพีเอส และสามารถตอบสนองต่อการสัมผัสของเราโดยเซ็นเซอร์สัมผัสที่ติดตั้งที่ด้านหลังหน้าจอ นอกจากนี้ด้วยคุณลักษณะที่ชื่อว่า “Ask Vector” ที่ใช้ชุดคำสั่งในการประมวลผลที่สนับสนุนโดย Google จะทำให้เราสามารถถามคำถามกับ Vector ได้แบบเดียวกับการใช้งานลำโพงอัจฉริยะ เช่น การถามสภาพอากาศหรือการตั้งเวลา เป็นต้น
หุ่น Vector มีการติดตั้งกล้องความละเอียดสูงมุมกว้าง 120 องศาทำให้สามารถถ่ายภาพด้วยระบบจดจำใบหน้าได้ นอกจากนี้นักพัฒนาทั่วไปสามารถเข้าถึงชุดพัฒนาซอฟต์แวร์หรือ SDK เพื่อนำไปพัฒนาและสร้างทักษะในการทำงานด้านอื่นๆ เพิ่มเติมได้
Mark Palatucci ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่าย Cloud AI and Machine Learning ของบริษัท Anki กล่าวว่า เราไม่คิดว่าจะสามารถนำหุ่น Vector ออกวางจำหน่ายที่ราคานี้ได้ อุปกรณ์ภายในที่ทำหน้าที่เหมือนสมองของ Vector ถูกสร้างบนแพลตฟอร์มของ Qualcomm ที่รวมถึงการเชื่อมต่อ การประมวลผล กล้องถ่ายภาพ และระบบ AI ในตัว ดังนั้น Vector จะสามารถประมวลผลและทำงานด้วยตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับมือถือหรือคลาวด์เพื่อทำการประมวลผล
นอกจากนี้ Vector มีการติดตั้งชุดไมโครโฟน 4 ตัวเพื่อใช้ในการรับคำสั่งเสียงและสามารถระบุต้นตอของเสียงได้ และมีการติดตั้งอินฟราเรด 4 จุดในแต่ละมุมของหุ่นยนต์เพื่อป้องกันไม่ให้ตกจากโต๊ะ
สำหรับราคาวางจำหน่ายของหุ่นยนต์ Vector นี้ สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าทางเว็บไซต์ของ Anki ได้ที่ราคา 200 ปอนด์ (ประมา
ณ 8,500 บาท) ก่อนที่จะมีการจำหน่ายโดยทั่วไปในวันที่ 12 ตุลาคมนี้ที่ราคา 250 ปอนด์ (ประมาณ 10,600 บาท)
Palatucci กล่าวว่า Vector จะเป็นหุ่นยนต์ตัวแรกที่อยู่ในบ้านอย่างแท้จริงด้วยการทำงานแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบตลอด 24 ชั่วโมงและสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วยตัวเอง เป้าหมายของเราคือเมื่อเราทำการตั้งค่าหุ่นยนต์ตัวนี้แล้วหลังจากนั้นอีก 1 ปีมันก็ยังคงทำงานได้นั่นถือได้ว่าเราประสบความสำเร็จ โดยบริษัท Anki ที่ผ่านมาสามารถจำหน่ายหุ่นยนต์ไปได้มากกว่า 1.5 ล้านตัวแล้ว
แต่ Vector ก็ยังมีข้อจำกัดในการทำงานเนื่องจากเราไม่สามารถสั่งงานต่อเนื่องแบบที่ใช้กับ Alexa เช่นการถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับคำถามก่อนหน้านี้ได้ และตัว Vector ก็ยังไม่มีระบบจดจำเสียงเพื่อแยกแยะผู้ใช้จากเสียงโดยมีเพียงระบบแยกแยะจากใบหน้าเท่านั้น Palatucci ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับข้อจำกัดเหล่านี้โดยบอกว่านี่คือก้าวแรกของบริษัทไปสู่โลกของหุ่นยนต์ภายในบ้านที่จะทำงานได้ซับซ้อนยิ่งขึ้น
|