ปัจจุบันนี้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ต่างๆ ได้ก้าวเข้าสู่คุณภาพความละเอียดของภาพในระดับ Ultra HD หรือเรียกสั้นๆ ว่า 4K มากขึ้นเรื่อยๆ มีอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ ออกมารองรับความละเอียดสูงนี้มากมาย และแน่นอนว่าทีวี ก็ถือเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์หลัก ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาระดับ 4K นี้โดยตรง จึงทำให้หลายๆ คนต้องอยากได้ทีวี 4K ซักเครื่อง มาประดับห้องนั่งเล่นที่บ้านอย่างแน่นอน
ซึ่งในบทความนี้ จะขอแนะนำ 4 รุ่นทีวี 4K คุณภาพ ในระดับราคาที่สมเหตุ สมผล มาให้ได้ชมกัน โดยทีวีทั้ง 4 รุ่น ได้แก่ LG OLED55C6V, Panasonic TX-65DX750, Philips 65PUS861 และ Samsung UE55KS7000 ซึ่งแต่ละรุ่นจะมีจุดเด่นยังไงบ้าง ไปรับชมกันเลย
LG OLED55C6V
ถ้าจะไม่แนะนำคงไม่ได้สำหรับ OLED TV นวัตกรรมการแสดงผลระดับพรีเมี่ยมอย่างแท้จริง โดย LG OLED55C6V เป็นทีวีความละเอียด 4K จอโค้ง ที่มีความโดดเด่นทางด้านการแสดงผลภาพที่คมชัดทุกรายละเอียด สีสันสมจริง ด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบ HDR ล่าสุด ที่รองรับทั้ง HDR10 และ Dolby Vision แสดงรายละเอียดภาพที่คมชัด ทั้งในโทนที่มืดและสว่าง หรือความได้เปรียบของเทคโนโลยี OLED ที่พิกเซลแต่ละเม็ดมีความสว่างในตัวเอง ทำให้การแสดงสีสันของภาพดูสมจริงยิ่งขึ้น สามารถแสดงสีดำได้อย่างมืดสนิท ขับสีสันอื่นๆ ให้ดูสดใสยิ่งขึ้น และฟังก์ชั่น HD Upscaling ที่สามารถอัพเกรดความละเอียดภาพของหนังเก่าๆ ให้สามารถเล่นบน 4K ได้อย่างไม่เสียอรรถรส
ด้านดีไซน์ LG OLED55C6V ก็โดดเด่นในด้านหน้าจอที่บางเฉียบยิ่งกว่าสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นเสียอีก ประกอบกับหน้าจอโค้ง ที่ช่วยเน้นให้ดีไซน์ของทีวี ดูหรูหราเข้าไปอีก
ทางด้านเสียงของ LG OLED55C6V นั้น ถูกออกแบบโดยแบรนด์ Harman/ Kardon ซึ่งก็ใช้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าอยากได้ประสบการณ์แบบเต็มรูปแบบเลยก็ต้องติด Soundbar เพิ่มเหมือนกับทีวีรุ่นพี่อย่าง LG OLED65E6T
ด้าน webOS 3.0 ระบบปฏิบัติการของสมาร์ททีวี LG รุ่นล่าสุดนี้ ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นมาก รวมทั้งฟังก์ชั่น Magic Zoom หรือ Magic Mobile Connection ใช้มือถือเป็นรีโมท ก็ทำให้สะดวกสบายมากขึ้นเยอะ
สำหรับ LG OLED55C6V ในประเทศไทย มีราคาอยู่ที่ 129,990 บาท
Philips 65PUS861
อีกหนึ่งทีวี 4K ที่น่าสนใจ ถึงแม้ว่ารายละเอียดภาพและความแม่นยำของ Philips 65PUS861 จะสู้ทางด้านบนไม่ได้ แต่ด้านสีสัน รายละเอียด Clarity ก็ยังทำได้ดี รวมทั้งลูกเล่นเทคโนโลยี Ambilux ของทาง Philips เรียกได้ว่า น่าตื่นเต้นอยู่พอสมควรเลย
ด้านหลังของจอทีวี Philips 65PUS861 จะมีโปรเจคเตอร์สำหรับฉายภาพถึง 9 ตัวด้วยกัน ซึ่งเมื่อ Ambilux ทำงาน จะมีลักษณะเป็นแบบนี้
กล่าวคือ เทคโนโลยี Ambilux จะเป็นการฉายภาพเพิ่มเติมจากหน้าจอไปยังกำแพงด้านหลัง เพื่อเพิ่มอรรถรสการรับชมที่ดูอลังการมากขึ้น ทำให้ Philips 65PUS861 ได้คะแนนด้านการดีไซน์จากลูกเล่นนี้ไปพอสมควร แต่ถ้าดูด้านการติดตั้ง ที่ต้องหาห้องที่มีผนังเคลียร์ๆ สีขาว ห่างจากตัวทีวีประมาณ 24 เซนติเมตร และสภาพแสงภายนอกที่สว่างมากไม่ได้ (แสงจากโปรเจกเตอร์จะอ่อนลง) สร้างข้อจำกัดให้กับผู้ใช้อยู่พอสมควร
ด้านเสียงที่ได้จาก Philips 65PUS861 ค่อนข้างใส การดูหนัง เสียงพูด บทสนทนาต่างๆ ฟังได้ชัดเจน แต่หากต้องการฟังอย่างเต็มอรรถรส คงต้องหา Speaker มาใช้งานเพิ่มเช่นกัน
ส่วนทางด้าน OS ของ Philips 65PUS861 ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android TV ซึ่งอาจจะไม่ประทับใจใครหลายๆ คนสักเท่าไร แต่ก็มีข้อดีที่รีโมทมีคีย์บอร์ด QWERTY ให้สามารถพิมพ์พาสเวิร์ดหรือค้นหาคลิป YouTube ได้ง่ายหน่อย
สำหรับราคาของ Philips 65PUS861 จะอยู่ที่ £4,000 คิดเป็นเงินไทยประมาณ 141,000 บาท (ราคายุโรป)
Samsung UE55KS7000
เรียกว่าเป็นทีวี 4K ราคาประหยัดก็ได้ สำหรับ Samsung UE55KS7000 ที่มีราคาเพียงครึ่งเดียวของ LG OLED55C6V แต่ด้วยความที่ Samsung UE55KS7000 ติดสติ๊กเกอร์ที่หน้าจอว่าเป็น UHD Premium จึงทำให้ทีวีรุ่นนี้ สามารถเล่นทั้ง 4K และ HDR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งฟังก์ชั่น Upscaler อัพเกรดคอนเทนท์ที่ไม่ใช่ความละเอียด UHD ก็สามารถทำได้ดีพอสมควร ถึงแม้ว่าจะใช้หน้าจอแบบ LCD ก็ตาม แต่แน่นอนว่าราคาที่ถูกกว่า ย่อมมีฟังก์ชั่นที่ถูกตัดไปแน่นอน ซึ่งสำหรับ Samsung UE55KS7000 ก็คือ 3D Blu-ray feature ที่ถูกตัดทิ้งไป ทำให้เราจะไม่เห็นอะไรโดดออกมาจากจอนี้แน่นอน
ด้านดีไซน์ของ Samsung UE55KS7000 ถึงแม้ว่าจะไม่มีจุดเด่นอย่าง 2 รุ่นด้านบน แต่ด้านดีไซน์ที่เรียบง่าย ทั้ง Boarderless และ Screwless จึงทำให้ Samsung UE55KS7000 ยังดูมีความเรียบหรูที่สวยงามอยู่ไม่น้อย แต่สิ่งที่จะทำให้ทีวีรุ่นนี้ ดูหรูน้อยลงก็คงเป็นช่อง USB และ HDMI ที่ค่อนข้างขาดแคลน จนต้องต่อกล่อง One Connect สำหรับใช้งานเพิ่มเติม
ส่วนระบบปฏิบัติการ Tizen OS ของทาง Samsung นั้น เรียกได้ว่าเหนือกว่า Android TV อยู่พอสมควร เช่นเดียวกับ webOS ถือว่าเป็นเรื่องดีๆ อีกหนึ่งเรื่องของ Samsung UE55KS7000 รุ่นนี้
อีกหนึ่งจุดอ่อนใหญ่ๆ ของ Samsung UE55KS7000 เลยก็คือ ด้านเสียง ซึ่งก็ถือว่าเป็นจุดอ่อนของทีวีจอแบนส่วนใหญ่เลยก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับรุ่นนี้ ก็ทำได้ไม่ค่อยดีนัก
สำหรับราคา Samsung UE55KS7000 รุ่นนี้ อยู่ที่ £1,500 หรือประมาณ 53,000 บาท เท่านั้น (ราคายุโรป)
Panasonic TX-65DX750
อีกแบรนด์หนึ่งที่น่าจับตามอง ก็คือ Panasonic ผู้เคยเป็นราชันแห่งวงการทีวีเมื่อหลายปีก่อนด้วยเทคโนโลยี Plasma TV ในคราวนี้ จึงขอหยิบ Panasonic TX-65DX750 มาแนะนำกัน ซึ่งรุ่นนี้ก็ถือว่า เป็นทีวีระดับ 4K HDR อีกตัวหนึ่ง ที่ไม่ต้องจ่ายสูงมากเช่นเดียวกับ Samsung
ในด้านภาพของ Panasonic TX-65DX750 นี้ จะให้สีสันและความคมชัดที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่มีการปรับแต่งเร่งสีสันเพิ่มเติมจากตัวซอฟต์แวร์ ซึ่งน่าจะถูกจริตกับคนที่ชอบภาพที่ดูนุ่มๆ สบายตา แต่ข้อบกพร่องของ Panasonic TX-65DX750 ก็คือการเก็บรายละเอียดในจุดมืดและสว่างยังทำได้ไม่ดีนัก
สิ่งที่ทำให้ Panasonic TX-65DX750 ดีกว่าทีวีราคาย่อมเยาว์อีกรุ่นก็คือ ฟังก์ชั่น 3D ในตัว ที่พอทำให้ภาพดูมีมิติขึ้นมาก แต่ก็ยังสู้รุ่นใหญ่ไม่ได้อยู่ดี
ด้านดีไซน์ของ Panasonic TX-65DX750 ก็ดูเป็นทีวีทั่วๆ ไป แต่ก็มีจุดเด่นเล็กๆ อยู่ที่ Switch Design ตรงขาตั้งของทีวี ที่สามารถปรับระดับความกว้างของฐาน ให้เหมาะสมกับสถานที่ได้นั่นเอง ถือว่าไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา
ในส่วนของระบบปฏิบัติการ Panasonic TX-65DX750 ได้ใช้ Firefox OS ที่ดูเรียบง่าย ใช้งานง่ายดี ถึงแม้ว่าจะมีลูกเล่นน้อยกว่า webOS หรือ Tizen OS ก็ตาม
ส่วนทางด้านเสียงที่เป็นจุดอ่อนของทีวีจอแบน สำหรับ Panasonic TX-65DX750 ก็ยังถือว่าใช้งานได้ เปิดเสียงดังปานกลาง ค่อนข้างกังวาลและเมื่อเปิดเสียงดัง เนื้อเสียงก็ไม่หยาบจนเกินไป
สำหรับราคาของ Panasonic TX-65DX750 จะอยู่ที่ £1,500 หรือประมาณ 70,000 นั่นเอง (ราคายุโรป)
หากจะดูเรื่องความคุ้มค่าจริงๆ สำหรับทีวีทั้ง 4 รุ่นนี้ ก็คงจะไม่พ้น LG OLED55C6V ที่ให้คุณภาพทางด้านภาพและดีไซน์ ที่แทบจะไม่ต่างจากรุ่นเรือธงของทางค่ายเลย และก็หมดกังวลไปได้สักพักใหญ่ๆ สำหรับเทรนด์ทีวีในอนาคต ส่วน Samsung UE55KS7000 ก็ถือเป็นอีกรุ่นที่น่าเชียร์สำหรับใครที่มีงบจำกัด ด้วยราคาที่ถูกกว่า LG ถึงเท่าตัวและสามารถเล่น 4K ได้อย่างเต็มอรรถรส ทางด้าน Panasonic TX-65DX750 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ใช้งานได้ หากชอบขนาดจอ 65 นิ้วมากกว่า และก็ยังดีที่ใช้ Firefox OS ที่ใช้งานได้ง่ายอยู่ และ Philips 65PUS861 คงจะเป็นอันดับสุดท้ายที่แนะนำ เพราะถึงแม้ว่าจะมีเทคโนโลยี Ambilux ที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจ แต่ก็คงไม่คุ้มค่าเท่าไรกับคุณภาพของภาพนั่นเอง
สำหรับ LG OLED55C6V รุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทย จะเป็นรุ่น LG OLED55C6T สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.lg.com/th/tvs/lg-OLED55C6T
กราฟสรุปผลจากทางเว็บไซต์ www.stuff.tv
|
... |