เมื่อวานี้ (18 พ.ย. 2558) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ นำโดยท่าน ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ร่วมมือกับ สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA นำโดย นางสุรางคณา วายุภาพ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ ETDA ได้จัดงานแถลง "ผลการสำรวจมูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของประเทศไทย ปี 2558" เป็นการประกาศตัวเลขมูลค่าการค้าผ่านระบบออนไลน์ของประเทศไทย ซึ่งมีตัวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจดังนี้ครับ
เป็นตัวเลขที่เซอร์ไพรส์มาก ปี 2557 ที่ผ่านมา มูลค่าการค้าผ่านระบบออนไลน์ในประเทศไทยนั้นสูงถึง 2,033,493.4 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งกูรูทางด้านอีคอมเมิร์ซหลายรายมีความเห็นตรงกันว่าตลาดอีคอมเมิร์ซของไทยนั้นโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี แต่ไม่คิดว่าตัวเลขจะสูงถึงขนาดนี้
เมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจมูลค่าตลาดของปี 2557 (2,033,493.4 ล้านบาท) กับผลสำรวจของปี 2556 (768,014 ล้านบาท) พบว่าอัตราการเติบโตสูงถึง 164.77% เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว โดยทาง ETDA ได้ให้เหตุผลในเรื่องนี้ว่า ส่วนหนี่งที่ตัวเลขมีการโตแบบก้าวกระโดด อาจเนื่องมากจากมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการสำรวจ และมีการเพิ่มจำนวนกลุ่มตัวอย่างในการสำรวจ ส่วนในมูลค่าตลาดของปี 2558 ทาง ETDA คาดว่าจะขยับขึ้นไปที่ 2,107,692.9 ล้านบ้าน คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 3.65%
และเมื่อเปรียบเทียบมูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยกับประเทศอื่นๆ (เปรียบเทียบเฉพาะอีคอมเมิร์ซในแบบ B2C หรือการที่องค์กรธุรกิจขายสินค้า/บริการให้ผู้บริโภคผ่านระบบออนไลน์) ผลออกมาตามกราฟด้านบนครับ (หน่วยเงินเป็น พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ)
มูลค่าการตลาดอีคอมเมิร์ซในปี 2557 และแนวโน้มในปี 2558 พบว่า ธุรกิจการให้บริการและที่พัก ครองแชมป์อันดับ 1 ด้วยมูลค่าการตลาดกว่า 6 แสนล้านบาท ในส่วนของการค่าปลีกและค้าส่ง หรือที่เราเรียกกันว่าการซื้อของออนไลน์นั้น คว้าอันดับ 4 ไปครองด้วยมูลค่าการตลาดราว 2 แสนล้านบาทในปี 2557 และคาดว่าจะสูงเกิน 3 แสนล้านบาทในปี 2558
และเมื่อเจาะดูรายละเอียดในส่วนของตลาดการค้าปลีกและการค้าส่ง ก็พบว่าสินค้าที่ครองยอดขายอันดับ 1 ผ่านระบบออนไลน์ก็คือ สินค้าในกลุ่มคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอทีนั่นเองครับ รองลงมาก็เป็นสินค้าประเภทเครื่องสำองค แฟชั่น เครื่องแต่งกาย
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ ผู้ประกอบการธุรกิจการค้าออนไลน์กว่า 78.36% ไม่มีการเปิดหน้าร้าน และมีผู้ประกอบการเพียง 21.64% ที่เปิดเปิดหน้าร้านควบคู่ไปกับการขายผ่านระบบออนไลน์ ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า การขายของออนไลน์ไม่ยากอย่างที่คิด และไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน
อีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจคือ เกินครึ่งของผู้ที่สั่งซื้อสินค้าหรือบริการผ่านระบบออนไลน์ นั้นนิยมการจ่ายเงินผ่านระบบอนนไลน์ (ชำระผ่านบัตรเครดิต/เดบิต, PayPal, e-banking, Mobile Payment) แสดงให้เห็นว่าคนไทยเริ่มไว้วางใจกับการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
ข้อมูลสุดท้ายที่ขอนำเสนอคือ 4 อันดับการชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด อันดับ 1 คือ e-banking และในส่วนของ Mobile Payment หรือการชำระเงินผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟนนั้นอยู่ในอันดับ 3 ซึ่งทาง ETDA ก็มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันให้คนไทยมีการจ่ายเงินผ่าน Mobile Payment ให้มากขึ้น เพราะเป็นช่องทางที่ง่าย และช่วยกระตุ้นตลาดอีคอมเมิร์ซได้เป็นอย่างดีครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลจากทาง ETDA ที่เรานำมาเสนอ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับคนที่อยู่ในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือกำลังคิดจะทำอีคอมเมิร์ซนะครับ
|
ไม่เสพติดไอที แต่ชอบเสพข่าวเทคโนโลยี หาความรู้ใหม่ๆ มาใส่สมอง |