ณ เวลาปัจจุบัน ถึงแม้ตัว Windows 10 จะสิ้นสุดการได้รับการสนับสนุนไปแล้ว แต่ช่วงเวลาในระยะประชิดก่อนที่จะหมดการได้รับการสนับสนุนด้านความปลอดภัยไม่นานนัก ทางไมโครซอฟท์ซึ่งเป็นผู้พัฒนา Windows ที่ได้ทั้งขู่ ทั้งขอร้องให้ผู้ใช้งานเปลี่ยนมาใช้งาน Windows 11 เหมือนจะตอแยผู้ใช้งานไม่เลิก
จากรายงานโดยเว็บไซต์ Windows Latest ได้กล่าวถึงการที่ทางไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศด้านเงื่อนไขการใช้งานแพ็คเกจการต่ออายุการสนับสนุนด้านความปลอดภัยให้กับ Windows 10 หรือ ESU (Extended Security Update) สำหรับผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป (EU หรือ European Union) ซึ่งได้สิทธิ์ในการใช้งานแพ็คเกจดังกล่าวฟรี ในขณะที่ผู้ใช้งานในภูมิภาคอื่นจะต้องจ่ายเงินเพื่อใช้งานแพ็คเกจนี้ โดยผู้ใช้งานในเขตนี้จะมีข้อจำกัดที่ต้องทำการลงชื่อเข้าใช้งาน (Log In) บัญชี Microsoft Account บน Windows 10 ทุก 60 วัน ตลอดระยะเวลาการคุ้มครอง มิฉะนั้น แพ็คเกจการคุ้มครองดังกล่าวจะสิ้นสุดการใช้งานลงในทันทีที่ไม่ทำการล็อกอินตามเวลาที่กำหนด
ภาพจาก : https://www.windowslatest.com/2025/09/29/microsoft-warns-windows-10-esu-expires-if-you-dont-use-microsoft-account-after-initial-activation/
ซึ่งในด้านการใช้งานนั้น ทางแหล่งข่าวได้ระบุว่า สำหรับผู้ใช้งานในเขต EU นั้น เพียงแค่ทำการล็อกอิน Microsoft Account ตามกำหนดก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องทำการ Sync การตั้งค่ากับ OneDrive แต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากผู้ใช้งานในเขตอื่นที่ถูกบังคับให้ Sync การตั้งค่ากับ OneDrive ทุกครั้ง สำหรับด้านนโยบายการล็อกอินทุก 60 วันนั้น ในช่วงแรกออกมาในรูปแบบข่าวลือ แต่หลังจากที่ทางแหล่งข่าวได้ทำการติดต่อเพื่อสอบถามกับทางไมโครซอฟท์โดยตรง ก็ได้รับการยืนยันว่า สำหรับผู้ใช้งานในเขต EU นั้น นโยบายนี้มีการบังคับใช้จริง
ถึงแม้ทางไมโครซอฟท์จะยืนยันหนักแน่นในด้านการบังคับใช้นโยบายดังกล่าวในสหภาพยุโรปแล้ว ทางบริษัทก็ไม่ได้มีการกล่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใดว่า ผู้ใช้งานในเขตอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา หรือในประเทศไทย ที่แพ็คเกจดังกล่าวไม่ฟรี ต้องใช้การซื้อผ่านทางบัญชี Microsoft Account นั้น จะถูกบังคับให้ล็อกอินทุก 60 วันด้วยหรือไม่ ? ผู้ที่สนใจ หรือ สงสัยในนโยบายดังกล่าวขอให้ทำการสอบถามไปยังทางไมโครซอฟท์โดยตรง
|