ไมโครซอฟท์ในปัจจุบันนั้นมักมีความภูมิใจในการนำเสนอ Windows 11 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการตัวล่าสุดมาก ถึงขั้นขอร้องแกมบังคับให้ทุกคนเปลี่ยนมาใช้ ในขณะเดียวกันก็มีการเพิ่มฟีเจอร์มากมายที่บางคนก็บอกว่าดี บางรายก็ว่าไม่จำเป็น และในครั้งนี้ก็เป็นการรื้อฟื้นฟีเจอร์ที่หายไปนับตั้งแต่หมดยุค Windows Vista ที่อาจสร้างความยินดีให้กับผู้ใช้งานบางกลุ่ม
จากรายงานโดยเว็บไซต์ Beta News ได้กล่าวถึงความคืบหน้าของอัปเดตใหม่ของ Windows 11 ที่กล่าวถึงการกลับมาของฟีเจอร์ Windows DreamScene ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำหรับใช้วิดีโอเป็นภาพหลังจอ หรือ Wallpaper หลังจากที่หายไปจากสารบบ Windows หลังสิ้นสุดของการใช้งาน Windows Vista เมื่อนานนับ 10 กว่าปี โดยทางกลุ่มผู้ที่ได้มีโอกาสฟีเจอร์ดังกล่าวในเวอร์ชันทดสอบสำหรับเหล่านักพัฒนา (Dev Beta Build) รุ่น 26x20.6690 ได้กล่าวว่าฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นจะรองรับไฟล์วิดีโอจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น MP4, MOV, AVI, WMV, M4V และ MKV ทั้งยังไม่พบว่ามีการจำกัดความยาวของวิดีโอที่จะใช้งานได้อีกด้วย แต่ทางกลุ่มนักทดสอบก็ไม่ได้มีการกล่าวว่า ผู้ใช้งานจะสามารถใช้ไฟล์ภาพยนตร์ความยาวนับชั่วโมงทั้งเรื่อง มาตั้งเป็น Wallpaper ได้หรือไม่
ภาพจาก : https://x.com/phantomofearth/status/1969399576026140731
ทว่า ทางกลุ่มนักทดสอบก็ยังกล่าวอีกว่า ฟีเจอร์ในเวอร์ชันทดสอบดังกล่าวนั้นไม่ได้มีให้เลือกใช้งานอย่างเปิดเผย แต่เป็นฟีเจอร์ที่ถูกซ่อนไว้อยู่ ซึ่งนักทดสอบจะต้องใช้เทคนิคที่ซับซ้อนนิดหน่อยในการดึงฟีเจอร์นี้ออกมาใช้งาน โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
- ดาวน์โหลด ViVeTool จาก GitHub
- คลายไฟล์ Zip ออกมาเป็น C:ViVeTool
- เปิดใช้งาน Command Prompt ด้วยสิทธิ์การใช้งานแบบ administrator
- พิมพ์ cd C:ViVeTool แล้ว Enter
- พิมพ์ vivetool /enable /id: 57645315 แล้วกด Enter
- รีสตาร์ท Windows
- หลังจากนั้นเลือก Setting > Personalization > Background เพื่อใช้งานฟีเจอร์
ถึงแม้ในการใช้งานบนเวอร์ชันทดสอบจะมีความยุ่งยาก แต่ถ้าฟีเจอร์ดังกล่าวถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการ วิธีการเข้าใช้งานก็จะง่ายแบบฟีเจอร์อื่น ๆ อย่างแน่นอน โดยแหล่งข่าวได้ระบุว่าการกลับมาของฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นเกิดจากคำเรียกร้องของผู้ใช้งานที่ต้องการให้ฟีเจอร์นี้กลับมากันอย่างมาก หลังจากที่ฟีเจอร์การจัดการหน้าจอให้เข้ากับผู้ใช้งาน หรือ Personalization ถึงแม้จะทำได้ดีพอสมควร แต่ก็ใช้งานได้แค่ไฟล์รูปแบบเท่านั้น ที่ไม่ถูกจริตของผู้ใช้งานหลายกลุ่ม นำมาสู่ความพยายามในการที่จะรื้อฟื้นฟีเจอร์นี้กลับคืนมา
ผู้ใช้งานในเวอร์ชันสำหรับเผยแพร่ใช้งานทั่วไปจะได้ใช้งานฟีเจอร์นี้ตามที่ทางกลุ่มนักทดสอบคาดการณ์หรือไม่ ขอให้รอการยืนยันอย่างเป็นทางการจากทางไมโครซอฟท์อย่างใกล้ชิด
|