FAQ แบบใหม่บน Windows 11 จะบอกได้ว่า คอมพิวเตอร์ของเราสเปคแย่ หรือดี ขนาดไหน ?

ทางไมโครซอฟท์ ณ ปัจจุบัน ได้มีความพยายามในการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ ลงบน Windows 11 อย่างมากมาย และหนึ่งในนั้นการ ฟีเจอร์การตรวจสอบถึงศักยภาพของระบบที่รันอยู่ในรูปแบบใหม่ ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถรับทราบถึงศักยภาพของเครื่องที่ตัวเองใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น

จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Verge ได้รายงานถึงการที่มีผู้ใช้งาน Windows 11 เวอร์ชันทดสอบสำหรับนักพัฒนา (Dev Channel Build) รายหนึ่งได้ตรวจพบฟีเจอร์ใหม่ที่อยู่ในส่วน System >> Settings >> About ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นเป็นฟีเจอร์ FAQ (Frequent Asked Questions หรือคำถามที่ถูกถามบ่อย ๆ) แต่ที่แปลกไปกว่าฟีเจอร์ FAQ ในที่อื่น ๆ คือ จะเป็นการตอบคำถามเกี่ยวกับศักยภาพของเครื่องที่ใช้งาน โดยจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเครื่องที่ใช้ เช่น ถ้าเป็นคำถามว่า RAM ของเครื่องมีน้อยไปหรือไม่ ? ถ้าเป็นเครื่องที่ติดตั้ง RAM ไว้สูง ระบบ FAQ ก็จะตอบว่า เครื่องมีปริมาณ RAM เพียงพอต่อการใช้งาน แต่ถ้าติดตั้งไว้น้อยมาก ตัวระบบก็จะตอบว่า ติดตั้งไว้น้อยเกินไป เป็นต้น

ภาพจาก : https://bsky.app/profile/phantomofearth.bsky.social/post/3lkmdy5p35s2g

โดยฟีเจอร์ดังกล่าวนั้น ถ้าเข้าใช้งานเฉย ๆ ผู้ใช้งานจะมองไม่เห็น ต้องทำการเปิดใช้งานเอง ถึงจะมองเห็นฟีเจอร์ดังกล่าว โดยทางผู้ใช้งานที่ตรวจพบนั้นก็ยังไม่มั่นใจว่า ตัวฟีเจอร์ดังกล่าวนั้นมีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลที่เปลี่ยนไป (Dynamic) มากน้อยเพียงใด ? โดยเท่าที่ตรวจพบ ทางผู้ใช้งานรายงานว่า ตัวฟีเจอร์สามารถตรวจสอบในส่วนศักยภาพของ GPU, RAM และเวอร์ชันของระบบปฏิบัติการได้ แต่ยังไม่มีข้อมูลว่า ข้อมูลที่วัดนั้นมาจากการตั้งค่า (Configuration) ของส่วนที่กล่าวมาในข้างต้น หรือจะเปลี่ยนไปตามระบบต่าง ๆ ที่ลง Windows ได้กันแน่ อีกทั้งทางไมโครซอฟท์ก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็น หรือข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับฟีเจอร์ดังกล่าวแต่อย่างใดในปัจจุบัน

ซึ่งฟีเจอร์การวัดผลการทำงานของคอมพิวเตอร์นั้น ก็ไม่ใช่ฟีเจอร์ใหม่เสียทีเดียว เพราะในอดีต Windows Vista ก็เคยมีการนำเอาระบบที่คล้ายกันอย่าง Windows Experience Index มาใช้ในการตรวจ และให้คะแนนการทำงานของตัวระบบในแต่ละส่วนว่า มีศักยภาพ หรือ ความแรง ในการทำงานมากน้อยเพียงใดมาแล้ว ดังนั้น ถ้าฟีเจอร์ FAQ ดังกล่าวถูกยืนยันอย่างเป็นทางการ อาจเป็นการกลับมาของระบบการวัดผลนี้ในรูปแบบใหม่ โดยผู้ที่สนใจในฟีเจอร์นี้ขอให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดต่อไป