ข่าวเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการยอดนิยมอย่าง Android ในช่วงหลังนั้น คงจะหนีไม่พ้นการตกเป็นภัยของมัลแวร์ และการแฮกต่าง ๆ โดยภัยนั้นก็ไม่ได้ครอบคลุมแต่เพียงแค่โทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแทปเล็ตเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android อีกด้วย
จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Register ได้รายงานถึงการกลับมาของมัลแวร์ Badbox ซึ่งเป็นมัลแวร์ประเภทเปลี่ยนเครื่องของเหยื่อให้เป็นตัวแทนในการยิงระบบที่ใหญ่กว่า หรือ Botnet ประเภทหนึ่ง ซึ่งเคยระบาดหนักมาแล้วในช่วงปี ค.ศ. 2023 (พ.ศ. 2566) โดยมักจะแฝงมากลับกล่องโทรทัศน์ราคาถูกที่ไม่มียี่ห้อวางขายตามตลาดมืด และตลาดของถูกต่าง ๆ ซึ่งในการระบาดครั้งนั้นมีผู้ตกเป็นเหยื่อไปมากกว่า 74,000 ราย
และสำหรับเวอร์ชันใหม่ หรือ Badbox 2.0 นี้ ก็ได้กลับมาแพร่กระจายอีกครั้งในรูปแบบที่กว้างกว่าเดิม โดยจะมาพร้อมกับฮาร์ดแวร์ และเครื่องมือที่รันบน Android Open Source Project หรือ AOSP ซึ่งจะมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์ราคาถูกตามตลาดมืด เช่น กล่องโทรทัศน์, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, ไปจนถึงเครื่องฉายภาพแบบดิจิทัล ซึ่งการแพร่กระจายของมัลแวร์ดังกล่าวนั้น ทางทีมวิจัยจาก Human Security เองได้ระบุว่าเป็นวิธีการที่อุกอาจ เนื่องจากแทนที่จะใช้วิธีการยิงเพื่อแพร่กรจายมัลแวร์ ทางแฮกเกอร์กับอาศัยรูปแบบการเข้าแทรกแซงห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Attack) ด้วยการเข้ากว้านซื้ออุปกรณ์ราคาถูกจำนวนมาก มาฝังโค้ดมัลแวร์ และทำการขายทอดตลาดต่อ
ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ เครื่องมือ และอุปกรณ์ทั้งหมดที่แฝงมัลแวร์ดังกล่าวนั้น ล้วนถูกผลิตมาจากประเทศจีนทั้งสิ้น และจากการตรวจการจราจรของข้อมูล (Traffic) แล้ว พบว่าอุปกรณ์อันตรายเหล่านี้ได้ถูกแพร่กระจายไปยังกว่า 222 ประเทศทั่วโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางทีมวิจัยได้ระบุว่า การที่ทางแฮกเกอร์ทำการกระจายอุปกรณ์ดังกล่าวไปทั่วโลกนั้นเพื่อทำให้การตรวจจับในการป้องกันการถูกยิงระบบทำได้ยากยิ่งขึ้น เนื่องจากถ้าการยิงระบบมาจากประเทศจีนแห่งเดียวจะทำให้การตรวจจับทำได้ง่ายกว่าการยิงมาจากที่เครื่องที่แพร่กระจายไปบ้านเรือนต่าง ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อไปแล้วมากกว่าล้านราย นอกจากนั้นทางทีมวิจัยยังระบุถึงอันตรายของอุปกรณ์ราคาถูกเหล่านี้อีกว่า เครื่องมือเหล่านี้ยังมีความสามารถในการขโมยรหัสผ่านต่าง ๆ ที่เหยื่อทำการป้อนเข้าไปได้ ซึ่งจะนำไปสู่การขโมยบัญชีของเหยื่อเพื่อไปใช้งานหรือขายทอดตลาดต่อไป
ภาพจาก : https://www.theregister.com/2025/03/07/badbox_botnet_returns/
นอกจากนั้นเองทางทีมวิจัยยังได้ระบุอีกว่า ยังได้มีการตรวจพบแอปพลิเคชันปลอมที่ทำหน้าตาเหมือนแอปพลิเคชันชื่อดังถึง 200 ตัว ที่เกี่ยวข้องกับมัลแวร์ Botnet ดังกล่าว โดยแอปพลิเคชันเหล่านี้จะแฝงตัวอยู่ตาม Android App Store แบบ 3rd Party อีกด้วย
แต่กระนั้นก็ยังมีข่าวดีคือ ปัจจุบันจำนวนของผู้ตกเป็นเหยื่อได้ลดลงกว่าครึ่งหนึ่ง เนื่องมาจากความร่วมมือของหลากองค์กรในการเข้ามาปราบปรามแคมเปญดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็น Human Security, Google, Trend Micro, และ Shadowserver Foundation ซึ่งองค์กรเหล่านี้ได้ทำการเข้าจู่โจมเซิร์ฟเวอร์ควบคุมมัลแวร์ (C2 หรือ Command and Control) เพื่อทำการสั่งปิดทำให้มัลแวร์ที่เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้อีก นอกจากนั้นทาง Google ยังได้ทำการจับตาดู Traffic ผิดปกติที่ถูกส่งมาจากอุปกรณ์ Android ต่าง ๆ เพื่อขยายผลการปราบปรามอีกด้วย นอกจากนั้นทางแหล่งข่าวยังได้แนะนำผู้อ่านอีกว่า ขอให้ผู้อ่านเลี่ยงอุปกรณ์ราคาถูกที่มีที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าไว้วางใจ เพราะอาจมีการแฝงมัลแวร์คล้ายคลึงกับกรณีที่กล่าวมาแล้วในข้างต้น
|